ประกันชีวิตและสุขภาพ ทีทีบี เหมา เหมา อัลตร้า แคร์

คุ้มครองสุขภาพคุณแบบเหมาจ่าย และเมื่อต้องต่อสู้กับ 7 โรคร้ายแรง รับความคุ้มครอง 2 เท่า
เมื่อสุขภาพดี ไม่มีเคลม 2 ปีต่อเนื่อง รับส่วนลดเบี้ยฯ 10% ในปีถัดไป

จุดเด่นผลิตภัณฑ์

เหมาจ่ายค่ารักษาตามจริง ในราคาสบายกระเป๋า

ด้วยแผนความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยในแบบเหมาจ่าย สูงสุดถึง 5,000,000 บาท¹
เบี้ยประกันภัยเพียง 42 บาทต่อวัน (แผน 1) และ 54 บาทต่อวัน (แผน 2)²

เพิ่มวงเงินความคุ้มครองให้เป็น 2 เท่า เมื่อตรวจพบ 7 โรคร้ายแรง

ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยในจะเพิ่มเป็น 2 เท่า สูงสุดถึง 10,000,000 บาท¹
ในปีกรมธรรม์ที่ตรวจวินิจฉัยพบหรือเข้ารับการรักษาโรคร้ายแรง³

ไม่เคลม รับส่วนลดเบี้ยฯ 10%

หากไม่มีการเรียกร้องค่าสินไหมเป็นเวลา 2 ปีต่อเนื่อง รับส่วนลดเบี้ยประกันภัย 10% ของค่าเบี้ยประกันภัยค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยในในปีต่ออายุกรมธรรม์ถัดไป

ออกแบบความคุ้มครองที่ตอบโจทย์ตัวคุณ

เลือกซื้อความคุ้มครองผู้ป่วยนอกเพิ่มได้ สูงสุด 30,000 บาทต่อปี¹
และ/หรือ เลือกซื้อความคุ้มครองโรคมะเร็งแบบรับเงินก้อน สูงสุด 2,000,000 บาท¹
และ/หรือ เลือกซื้อผลประโยชน์ค่าชดเชยรายวัน สูงสุด 4,000 บาทต่อวัน
รวมถึงเลือกจ่ายเบี้ยประกันภัยถูกลงด้วยการเลือกออกแบบค่าใช้จ่ายส่วนแรก (Deductible)

ลดหย่อนภาษีได้

เบี้ยประกันภัยคุ้มครองชีวิตสามารถนำมาใช้เป็นสิทธิประโยชน์ทางภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี เบี้ยประกันภัยในส่วนของความคุ้มครองสุขภาพ สามารถนำมาใช้เป็นสิทธิประโยชน์ทางภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 25,000 บาทต่อปี และเมื่อรวมกับเบี้ยประกันชีวิตที่ใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี ทั้งนี้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกรมสรรพากร

¹ ขึ้นอยู่กับแผนความคุ้มครองที่เลือก ไม่เกินผลประโยชน์ที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
² คำนวณค่าเบี้ยประกันจากเพศชาย อายุ 25 ปี แผนทุนประกันชีวิต 100,000 บาท สำหรับแผน1 ความคุ้มครองผู้ป่วยใน 1,000,000 บาท (ชำระเบี้ยฯ แบบเต็มจำนวน) และ สำหรับแผน 2 ความคุ้มครองผู้ป่วยใน 5,000,000 บาท (ชำระเบี้ยฯ แบบเต็มจำนวน)
³ โรคร้ายแรงที่ได้รับความคุ้มครอง 1) โรคมะเร็งระยะลุกลาม (บริษัทฯ จะให้ความคุ้มครองเฉพาะ 1 โรคมะเร็งระยะลุกลามที่แพทย์ได้วินิจฉัยและ/หรือยืนยันจากแพทย์เป็นครั้งแรกเท่านั้น) 2) กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากการขาดเลือด 3) โรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน 4) ไตวายเรื้อรัง 5) การผ่าตัดเส้นเลือดเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ 6) โรคสมองเสื่อมชนิดอัลไซเมอร์ 7) โรคพาร์กินสัน

ความคุ้มครองและผลประโยชน์

คุ้มครองค่ารักษาผู้ป่วยในแบบเหมาจ่ายตามแผนผลประโยชน์ความคุ้มครองที่เลือก และรับความคุ้มครองเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า เมื่อตรวจพบ 7 โรคร้ายแรงตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
กรณีเสียชีวิตรับผลประโยชน์จากทุนประกันชีวิต

ตัวอย่างผลประโยชน์

ทีทีบี เหมา เหมา อัลตร้า แคร์

พนักงานบริษัทเอกชนหญิง อายุ 30 ปี แบบประกันชีวิตและสุขภาพ ทีทีบี เหมา เหมา อัลตร้า แคร์ ที่ลูกค้าเลือกมีดังนี้

แผนประกันชีวิตและสุขภาพ แผน 1

ความคุ้มครองกรณีเสียชีวิต 100,000 บาท
ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยใน 1,000,000 บาทต่อรอบปีกรมธรรม์

สัญญาเพิ่มเติมที่เลือก

ความคุ้มครองผู้ป่วยนอก 20,000 บาทต่อรอบปีกรมธรรม์
ความคุ้มครองโรคมะเร็งแบบรับเงินก้อน 1,000,000 บาท

แบบคุ้มครองค่าใช้จ่ายเต็มจำนวน (Full coverage)

แบบร่วมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนแรก 30,000 บาท (Deductible)

¹ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยในเพิ่มเป็น 2 เท่า ในปีกรมธรรม์ที่ตรวจวินิจฉัยพบโรคร้ายแรง
*เบี้ยประกันภัยจะเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นไปตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
**ความรับผิดชอบส่วนแรก (Deductible) คือความเสียหายส่วนแรกที่ผู้เอาประกันภัยต้องรับภาระตามข้อตกลงของสัญญาประกันภัย เมื่อชำระค่าใช้จ่ายส่วนแรกครบภายในปีกรมธรรม์แล้ว ค่าใช้จ่ายส่วนที่เหลือบริษัทประกันภัยจะเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด แต่ไม่เกินผลประโยชน์ตามหน้าตารางผลประโยชน์ (ร่วมจ่ายเฉพาะผลประโยชน์ผู้ป่วยใน (IPD) เท่านั้น)
***เบี้ยประกันภัยคุ้มครองชีวิตสามารถนำมาใช้เป็นสิทธิประโยชน์ทางภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี เบี้ยประกันภัยในส่วนของความคุ้มครองสุขภาพ สามารถนำมาใช้เป็นสิทธิประโยชน์ทางภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 25,000 บาทต่อปี และเมื่อรวมกับเบี้ยประกันชีวิตที่ใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี ทั้งนี้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกรมสรรพากร

ผลประโยชน์โดยละเอียด

แบบประกันภัย	ความคุ้มครองชีวิต	สัญญาเพิ่มเติม ความคุ้มครองผู้ป่วยใน	บันทึกสลักหลัง ความคุ้มครองผู้ป่วยนอก	สัญญาเพิ่มเติม คุ้มครองโรคมะเร็ง	สัญญาเพิ่มเติม ค่าชดเชยรายวัน กรณีผู้ป่วยใน
อายุรับประกันภัย ณ วันทำสัญญา	6 – 75 ปี (ต่ออายุได้จนถึงอายุ 98 ปี)	6 – 75 ปี (ต่ออายุได้จนถึงอายุ 98 ปี)	แผน 20,000 6 – 65 ปี (ต่ออายุได้จนถึงอายุ 65 ปี) แผน 30,000 6 – 65 ปี (ต่ออายุได้จนถึงอายุ 70 ปี)	6 – 75 ปี (ต่ออายุได้จนถึงอายุ 84 ปี)	6 – 60 ปี (ต่ออายุได้จนถึงอายุ 64 ปี)
ระยะเวลาเอาประกันภัย	ถึงอายุ 99 ปี	1 ปี (ถึงอายุ 99 ปี)	แผน 20,000 1 ปี (ถึงอายุ 66 ปี) แผน 30,000 1 ปี (ถึงอายุ 71 ปี)	1 ปี (ถึงอายุ 85 ปี)	1 ปี (ถึงอายุ 65 ปี)
ระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัย	ถึงอายุ 98 ปี	1 ปี (ถึงอายุ 98 ปี)	แผน 20,000 1 ปี (ถึงอายุ 65 ปี) แผน 30,000 1 ปี (ถึงอายุ 70 ปี)	1 ปี (ถึงอายุ 84 ปี)	1 ปี (ถึงอายุ 64 ปี)
ความคุ้มครองชีวิต	100,000 บาท (ทุกแผนความคุ้มครอง) กรณีเสียชีวิต บริษัทฯ จะจ่ายจำนวนใดจำนวนหนึ่งที่มากกว่าระหว่างเงินค่าเวนคืนกรมธรรม์ หรือเบี้ยประกันชีวิตที่ชำระมาแล้วทั้งหมด หรือจำนวนเงินเอาประกันภัยตามที่ระบุไว้ในหน้าตารางกรมธรรม์
วิธีชำระเบี้ยประกันภัย	ชำระผ่านบัตรเครดิต (Credit Card) ชำระเบี้ยประกันภัยได้ในปีแรก และแจ้งหักบัตรเครดิตอัตโนมัติได้ในปีต่ออายุ หักผ่านบัญชีธนาคารของลูกค้าอัตโนมัติ (Direct Debit) ชำระเบี้ยประกันภัยได้เฉพาะปีต่ออายุ ชำระเบี้ยประกันภัยผ่านใบแจ้งยอดชำระเงิน (Bill Payment) ชำระเบี้ยประกันภัยได้เฉพาะปีแรก
งวดการชำระเบี้ยประกันภัย	รายปี / ราย 6 เดือน
สัญญาที่ประกอบในผลิตภัณฑ์	แบบประกันชีวิต กำหนดระยะเวลาถึงอายุ 99 ปี (ชนิดไม่มีเงินปันผล) สัญญาเพิ่มเติมสุขภาพแบบค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยใน 5 บันทึกสลักหลังผลประโยชน์กรณีผู้ป่วยนอกแนบท้ายสัญญาเพิ่มเติมสุขภาพแบบค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยใน 5 สัญญาเพิ่มเติมคุ้มครองโรคมะเร็ง สัญญาเพิ่มเติมค่าชดเชยรายวันกรณีเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล (ในฐานะคนไข้ใน)
การพิจารณรับประกันภัย/ตรวจสุขภาพ	ตามเงื่อนไขการพิจารณารับประกันภัยของบริษัทฯ

ความคุ้มครอง	แผน 1	แผน 2
ผลประโยชน์กรณีเสียชีวิต	100,000 บาท
ผลประโยชน์ผู้ป่วยในสูงสุดต่อรอบปีกรมธรรม์	1,000,000 บาท	5,000,000 บาท
ผลประโยชน์ผู้ป่วยในสูงสุดต่อรอบปีกรมธรรม์ ในปีกรมธรรม์ที่ผู้เอาประกันภัยเข้ารับการรักษาพยาบาล และได้รับการวินิจฉัยและ/หรือยืนยืนจากแพทย์เป็นครั้งแรกในระหว่างที่ยังมีชีวิตอยู่ว่าเป็น 7 โรคร้ายแรง¹ และพ้นระยะเวลาที่ไม่คุ้มครอง (Waiting Period)	2,000,000 บาท	10,000,000 บาท
• คุ้มครองการให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิตโดยจิตแพทย์ สำหรับผู้เอาประกันภัยและบุคคลในครอบครัวของผู้เอาประกันภัย (สูงสุด 5 ท่าน รวมผู้เอาประกันภัย)²	60,000 บาท	100,000 บาท
ผลประโยชน์กรณีเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน
• ค่าห้อง และค่าอาหาร ค่าบริการ (ผู้ป่วยใน) ต่อรอบปีกรมธรรม์³	3,000 บาทต่อวัน	5,000 บาทต่อวัน
• ค่าบริการทางการแพทย์เพื่อการตรวจวินิจฉัยหรือบำบัดรักษา ค่าบริการโลหิตและส่วนประกอบของโลหิต ค่าบริการทางการพยาบาล ค่ายา ค่าสารอาหารทางหลอดเลือด และค่าเวชภัณฑ์⁴ ต่อรอบปีกรมธรรม์ • ค่าผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม (แพทย์) ตรวจรักษา ต่อรอบปีกรมธรรม์ • ค่ารักษาพยาบาลโดยการผ่าตัด (ศัลยกรรม) และหัตถการ ต่อรอบปีกรมธรรม์ • การผ่าตัดใหญ่ที่ไม่ต้องเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน (Day Surgery)	จ่ายตามจริง แต่ไม่เกินผลประโยชน์สูงสุดต่อรอบปี กรมธรรม์
ผลประโยชน์กรณีไม่ต้องเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน
• ค่าบริการทางการแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยที่เกี่ยวข้องโดยตรงก่อนและหลังการเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในหรือค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอกต่อเนื่องที่เกี่ยวข้องโดยตรงหลังการเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน ต่อรอบปีกรมธรรม์ ค่าบริการทางการแพทย์เพื่อการตรวจวินิจฉัยที่เกี่ยวข้องโดยตรงและเกิดขึ้นภายใน 30 วันก่อนและหลังการเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอกหลังการเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในต่อครั้งสำหรับการรักษาพยาบาลต่อเนื่อง ภายใน 30 วันหลังจากออกจากการเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในครั้งนั้น (ไม่รวมค่าบริการทางการแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย) • ค่ารักษาพยาบาลการบาดเจ็บกรณีผู้ป่วยนอก ภายใน 24 ชั่วโมง ของการเกิดอุบัติเหตุต่อครั้ง • ค่าเวชศาสตร์ฟื้นฟู ค่าบริการกายภาพบำบัด ค่าบริการกิจกรรมบำบัด ค่าผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูหรือนักกายภาพบำบัด ค่าเครื่องมือและเวชภัณฑ์ สำหรับการรักษาต่อเนื่องในแผนกผู้ป่วยนอกของสถานพยาบาล ที่เกิดขึ้นภายในระยะเวลา 30 วันหลังออกจากการเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในแต่ละครั้งต่อรอบปีกรมธรรม์ • ค่าบริการทางการแพทย์เพื่อการบำบัดรักษาโรคไตวายเรื้อรัง โดยการล้างไตผ่านทางเส้นเลือด ต่อรอบปีกรมธรรม์ • ค่าบริการทางการแพทย์เพื่อการบำบัดรักษาโรคเนื้องอกหรือมะเร็ง โดยรังสีรักษา รังสีร่วมรักษา เวชศาสตร์นิวเคลียร์รักษา ต่อรอบปีกรมธรรม์ • ค่าบริการทางการแพทย์เพื่อการบำบัดรักษาโรคมะเร็ง โดยมีเคมีบำบัด ต่อรอบปีกรมธรรม์ • ค่าบริการรถพยาบาลฉุกเฉิน • ค่ารักษาพยาบาลโดยการผ่าตัดเล็ก	จ่ายตามจริง แต่ไม่เกินผลประโยชน์สูงสุดต่อรอบปี กรมธรรม์
บริการเสริมพิเศษ
บริการความเห็นที่ 2 ทางการแพทย์ (Medical Second Opinion; MSO)	ให้บริการทุกแผนความคุ้มครอง
ส่วนลดเบี้ยประกันภัย
กรณีไม่มีการจ่ายค่าสินไหมทดแทนเป็นระยะเวลา 2 ปีกรมธรรม์ต่อเนื่อง	บริษัทฯ จะให้ส่วนลด 10% ของค่าเบี้ยประกันภัยสำหรับความคุ้มครอง ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยในในปีต่ออายุกรมธรรม์ถัดไป
เลือกจ่ายเบี้ยถูกกว่า
ชำระแบบความรับผิดส่วนแรก (Deductible) ต่อรอบปีกรมธรรม์	เลือกได้ระหว่าง 30,000 บาท / 60,000 บาท / 100,000 บาท / 200,000 บาท
เลือกรับการมีความคุ้มครองเพิ่มเติม
ผลประโยชน์กรณีผู้ป่วยนอก ต่อรอบปีกรมธรรม์	เลือกซื้อเพิ่มได้ระหว่าง 20,000 บาท / 30,000 บาท
ผลประโยชน์ความคุ้มครองโรคมะเร็ง แบบเงินก้อนจ่ายครั้งเดียว	เลือกซื้อเพิ่มได้ระหว่าง 1,000,000 บาท / 2,000,000 บาท
ผลประโยชน์ความคุ้มครองค่าชดเชยรายวัน กรณีนอนพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน	เลือกซื้อเพิ่มได้ระหว่าง (ทั้งนี้ ไม่เกิน 1 เท่าของรายได้ต่อวัน) 1,000 / 2,000 บาท / 3,000 บาท / 4,000 บาท

¹โรคร้ายแรงที่ได้รับความคุ้มครอง 1) โรคมะเร็งระยะลุกลาม (บริษัทฯ จะให้ความคุ้มครองเฉพาะ 1 โรคมะเร็งระยะลุกลามที่แพทย์ได้วินิจฉัยและ/หรือยืนยันจากแพทย์เป็นครั้งแรกเท่านั้น) 2) กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากการขาดเลือด 3) โรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน 4) ไตวายเรื้อรัง 5) การผ่าตัดเส้นเลือดเลี้ยงกล้ามเนื้อ 6) โรคสมองเสื่อมชนิดอัลไซเมอร์ 7) โรคพาร์กินสัน
²ผลประโยชน์คุ้มครองการให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิตโดยจิตแพทย์ รวมอยู่ในผลประโยชน์สูงสุดต่อรอบปีกรมธรรม์ ในปีกรมธรรม์ที่ตรวจวินิจฉัยและ/หรือยืนยันจากแพทย์ว่าเป็น 7 โรคร้ายแรง1 และเข้ารับการรักษา
³จำนวนสูงสุด 365 วัน รวมการรักษาตัวในค่าห้องผู้ป่วยวิกฤติ ในกรณีห้องผู้ป่วยวิกฤติ (ICU) จะจ่ายค่าห้อง และค่าอาหาร ค่าบริการในโรงพยาบาล (ผู้ป่วยใน) ให้เป็นจำนวน 2 เท่า ของผลประโยชน์สำหรับค่าห้อง และค่าอาหาร ค่าบริการในโรงพยาบาล (ผู้ป่วยใน) (สูงสุดไม่เกิน 90 วัน)
⁴ผลประโยชน์สำหรับค่ายาและค่าเวชภัณฑ์สิ้นเปลือง (เวชภัณฑ์ 1) สำหรับกลับบ้านเพื่อใช้รักษาต่อเนื่องหลังออกจากการเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในครั้งนั้น สูงสุดไม่เกิน 14 วัน

กรณีเสียชีวิต รับผลประโยชน์จากทุนประกันชีวิต 100,000 บาท

เงื่อนไขผลิตภัณฑ์

เอกสารประกัน

ใบคำขอเอาประกันชีวิตสำหรับครอบครัว (Full Application)
แบบสอบถามความต้องการซื้อผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตผ่านธนาคาร
หนังสือให้ความยินยอมตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและกฎหมาย FATCA
หนังสือแสดงรายละเอียดสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้บริโภค
หนังสือแถลงข้อมูลเพื่อทราบข้อเท็จจริงของผู้ซื้อประกันชีวิต
หนังสือมอบฉันทะ เพื่อขอประวัติ
หนังสือแบบสอบถามสุขภาพและโรคต่าง ๆ
หนังสือแจ้งความจำนงขอรับเงินผลประโยชน์ และเงินอื่นใดที่เกี่ยวข้องตามกรมธรรม์
แบบฟอร์มการชำระเงิน PAY IN SLIP (สำหรับธุรกิจใหม่)/ใบรับเงินชั่วคราว (กรณีเลือกจ่ายเบี้ยฯ โดยเงินสด)
หนังสือยินยอมชำระค่าเบี้ยประกันภัยผ่านบัตรเครดิต/บัตรสินเชื่อบุคคล (กรณีเลือกจ่ายเบี้ยฯ โดยบัตรเครดิต/บัตรกดเงินสด)
แบบฟอร์มใบรับเงินชั่วคราว (กรณีเลือกจ่ายเบี้ยฯ โดยบัตรเครดิต/บัตรกดเงินสด)
เอกสารแสดงความสัมพันธ์ความเป็นครอบครัว (ตามเงื่อนไขการพิจารณา)

ดาวน์โหลดโบรชัวร์ (PDF File)

หมายเหตุ

ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง (รายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นเป็นไปตามข้อกำหนดที่ระบุในกรมธรรม์)
เบี้ยประกันภัยสัญญาเพิ่มเติมและบันทึกสลักหลังจะมีการเปลี่ยนแปลงตามอายุ และอาชีพของผู้เอาประกันภัยที่มีการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้เป็นไปตามที่กรมธรรม์กำหนด
เงื่อนไขโปรโมชันเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด และไม่ถือเป็นส่วนหนึ่งของข้อกำหนดในกรมธรรม์
เบี้ยประกันภัยคุ้มครองชีวิตสามารถนำมาใช้เป็นสิทธิประโยชน์ทางภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี เบี้ยประกันภัยในส่วนของความคุ้มครองสุขภาพ สามารถนำมาใช้เป็นสิทธิประโยชน์ทางภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 25,000 บาทต่อปี และเมื่อรวมกับเบี้ยประกันชีวิตที่ใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี ทั้งนี้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกรมสรรพากร

รับประกันโดย

รับประกันชีวิตโดย บริษัท พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต ประเทศไทย จำกัด (มหาชน)
ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) เป็นเพียงนายหน้าประกันชีวิต และรับผิดชอบในฐานะนายหน้าเท่านั้น

คำถามที่พบบ่อย

7 โรคร้ายที่ได้รับผลประโยชน์ผู้ป่วยในจะเพิ่มเป็น 2 เท่า ได้แก่โรคอะไรบ้าง

คำตอบ :

1) โรคมะเร็งระยะลุกลาม*
2) กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากการขาดเลือด
3) โรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน
4) ไตวายเรื้อรัง
5) การผ่าตัดเส้นเลือดเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ
6) โรคสมองเสื่อมชนิดอัลไซเมอร์
7) โรคพาร์กินสัน

ในปีกรมธรรม์ที่ผู้เอาประกันภัยเข้ารับการรักษาพยาบาลและได้รับการวินิจฉัยและ/หรือยืนยืนจากแพทย์เป็นครั้งแรกในระหว่างที่ยังมีชีวิตอยู่ว่าเป็น 7 โรคร้ายแรง และพ้นระยะเวลาที่ไม่คุ้มครอง (Waiting Period)

*สำหรับโรคมะเร็งระยะลุกลาม บริษัทฯ จะให้ความคุ้มครองเฉพาะ 1 โรคมะเร็งระยะลุกลามที่แพทย์ได้วินิจฉัยและ/หรือยืนยันจากแพทย์เป็นครั้งแรกเท่านั้น

หากต้องรักษาตัวจากโรคร้ายต่อเนื่องจากปีที่ตรวจพบเป็นครั้งแรก จะยังได้รับผลประโยชน์ผู้ป่วยในที่เพิ่มเป็น 2 เท่าไหม

คำตอบ : ได้รับความคุ้มครองในปีกรมธรรม์ที่ผู้เอาประกันภัยเข้ารับการรักษาพยาบาลด้วยโรคร้ายแรง 7 โรคร้ายแรง

หากต้องเข้ารับการรักษาด้านสุขภาพจิตโดยจิตแพทย์ เงื่อนไขการได้รับผลประโยชน์เป็นอย่างไร

คำตอบ :

1) ผู้เอาประกันภัยได้รับการวินิจฉัยและ/หรือยืนยืนจากแพทย์เป็นครั้งแรกในระหว่างที่ยังมีชีวิตอยู่ว่าเป็น 7 โรคร้ายแรง โดยพ้นระยะเวลาที่ไม่คุ้มครอง (Waiting Period) และเข้ารับการรักษา
2) ผู้เอาประกันภัยต้องยื่นคำร้องขอเบิกค่ารักษาพยาบาลอาการป่วยทางจิตเวชนี้มายังบริษัทภายในปีกรมธรรม์ที่ตรวจวินิจฉัยและ/หรือยืนยันจากแพทย์ หรือเข้ารับการรักษา 7 โรคร้ายแรง ภายใน 60 วัน และคุ้มครองสูงสุดตามวงเงินของแต่ละแผน (แผน 1: 60,000 บาทต่อปี แผน 2: 100,000 บาทต่อปี)

กรณีที่มีสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลอื่นอยู่แล้ว ไม่อยากซื้อเต็มจำนวน สามารถทำได้หรือไม่

คำตอบ : สามารถออกแบบค่าใช้จ่ายได้ด้วยการเลือกร่วมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนแรก (Deductible) ตามจำนวนที่บริษัทฯ มีให้เลือก โดยบริษัทประกันชีวิตจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนที่เหลือตามจำนวนเงินความคุ้มครองที่ระบุในกรมธรรม์

กรณีเลือกร่วมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนแรก (Deductible) แต่เมื่ออายุ 60 ปี ไม่มีสวัสดิการจากบริษัทแล้ว สามารถเปลี่ยนมาเลือกแบบคุ้มครองเต็มจำนวน (Full coverage) ได้หรือไม่

คำตอบ : เปลี่ยนได้ตามรอบปีกรมธรรม์ โดยเป็นไปตามเงื่อนไขการพิจารณาของบริษัทฯ

การได้รับส่วนลดค่าเบี้ยประกันภัยผู้ป่วยใน 10% จะได้รับเพียงครั้งเดียวหรือหลายครั้ง

คำตอบ : ได้หลายครั้ง ในกรณีที่ไม่มีการเรียกร้องค่าสินไหมเป็นเวลา 2 ปีต่อเนื่อง ในปีต่ออายุกรมธรรม์ถัดไปจะรับส่วนลดเบี้ยประกันภัยค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยใน 10% ต่อเนื่องทุกปี จนกว่าจะเรียกร้องค่าสินไหมอีกครั้ง

เบี้ยประกันภัยที่ชำระกรมธรรม์ ทีทีบี ประกันเหมาเหมา อัลตร้า แคร์ จะสามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปีได้หรือไม่

คำตอบ : เบี้ยประกันภัยคุ้มครองชีวิตสามารถนำมาใช้เป็นสิทธิประโยชน์ทางภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี เบี้ยประกันภัยในส่วนของความคุ้มครองสุขภาพ สามารถนำมาใช้เป็นสิทธิประโยชน์ทางภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 25,000 บาทต่อปี และเมื่อรวมกับเบี้ยประกันชีวิตที่ใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี ทั้งนี้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกรมสรรพากร