วิธีปิดการใช้งาน USB debugging และ Wireless debugging
เพื่อลดความเสี่ยงการโดนโจรกรรมข้อมูล
Samsung
1. ไปที่ “การตั้งค่า > ทางเลือกผู้พัฒนา“
2. ปิด “การแก้ไขข้อบกพร่อง USB”
และ
“การแก้ไขข้อบกพร่องผ่าน Wi-Fi” (ถ้ามี)
Huawei
1. ไปที่ “การตั้งค่า > ระบบและการอัปเดต”
2. “ระบบและการอัปเดต > ตัวเลือกสำหรับนักพัฒนา”
3. ปิด “การแก้ไขข้อบกพร่อง USB”
และ
“การแก้ไขข้อบกพร่องผ่าน Wi-Fi” (ถ้ามี)
Xiaomi / Redmi
1. ไปที่ “การตั้งค่า > การตั้งค่าเพิ่มเติม”
2. “การตั้งค่าเพิ่มเติม > ตัวเลือกโหมดนักพัฒนา”
3. ปิด “การแก้ไขข้อบกพร่อง USB” และ
“การแก้ไขข้อบกพร่องผ่าน Wi-Fi” (ถ้ามี)
Vivo
1. ไปที่ “การตั้งค่า > ระบบ”
2. ในกรณีมีเมนู “ตัวเลือกสำหรับนักพัฒนาแอป”
โปรด
คลิกที่นี่
*ถ้าไม่พบเมนู โปรดทำตามคำแนะนำในข้อถัดไป
3. กลับไปที่ “การตั้งค่า > เกี่ยวกับโทรศัพท์”
4. “เกี่ยวกับโทรศัพท์ > หมายเลขบิลด์”
5. กด “หมายเลขบิลด์” โดยกดย้ำต่อเนื่อง 7-10 ครั้ง หน้าจอจะแสดงข้อความ “ตอนนี้คุณเป็นนักพัฒนาซอฟต์แวร์แล้ว!”
6. กลับไปที่ “การตั้งค่า > ระบบ”
7. “ระบบ > ตัวเลือกสำหรับนักพัฒนาแอป”
8. ปิด “การแก้ไขข้อบกพร่อง USB” และ
“การแก้ไขข้อบกพร่องผ่าน Wi-Fi” (ถ้ามี)
Oppo
1. ไปที่ “การตั้งค่า > การตั้งค่าเพิ่มเติม”
2. ในกรณีมีเมนู “ตัวเลือกสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์” โปรด คลิกที่นี่
*ถ้าไม่พบเมนู โปรดทำตามคำแนะนำในข้อถัดไป
3. กลับไปที่ “การตั้งค่า > เกี่ยวกับโทรศัพท์”
4. เลือก “เวอร์ชั่น เบสแบนด์และเคอร์เนล”
5. กด “หมายเลขบิลด์” โดยกดย้ำต่อเนื่อง 7-10 ครั้ง เพื่อใส่รหัสผ่าน
6. เมื่อใส่รหัสผ่านสำเร็จ หน้าจอจะแสดงข้อความ “ขณะนี้คุณอยู่ในโหมดนักพัฒนาซอฟท์แวร์”
7. กลับไปที่ “การตั้งค่า > การตั้งค่าเพิ่มเติม”
8. “การตั้งค่าเพิ่มเติม > ตัวเลือกสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์”
9. ปิด “การแก้ไขข้อบกพร่อง USB” และ
“การแก้ไขข้อบกพร่องผ่าน Wi-Fi” (ถ้ามี)
Realme
1. ไปที่ “การตั้งค่า > การตั้งค่าเพิ่มเติม”
2. “การตั้งค่าเพิ่มเติม > ตัวเลือกสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์”
3. ปิด “การแก้ไขข้อบกพร่อง USB” และ
“การแก้ไขข้อบกพร่องผ่าน Wi-Fi” (ถ้ามี)
Asus
1. ไปที่ “การตั้งค่า > สำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์”
2. ปิด “การแก้ไขข้อบกพร่อง USB” และ
“การแก้ไขข้อบกพร่องผ่าน Wi-Fi” (ถ้ามี)
