external-popup-close

คุณกำลังออกจากเว็บไซต์ ทีทีบี
เพื่อเข้าสู่

https://www.ttbbank.com/

ตกลง

Flash Market Update

ตลาดหุ้นอินเดียยังทรงพลัง อย่าพลาดพลั้งไม่มีในพอร์ต

4 ก.ค. 2565


ตลาดหุ้นอินเดียยังทรงพลัง อย่าพลาดพลั้งไม่มีในพอร์ต  
  

·      ในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ดัชนีตลาดหุ้นอินเดีย (NIFTY 50) ปรับตัวลงมาใกล้ระดับ 15,000 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดของปี จากความกังวลเรื่องอัตราเงินเฟ้อทั่วไปที่เพิ่มขึ้นอย่างเร็วอันเนื่องมาจากราคาพลังงานและราคาอาหารที่สูงขึ้น ทำให้นักลงทุนต่างชาติเกิดความกังวลว่าอินเดียซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่จะขาดดุลบัญชีเดินสะพัดมากขึ้นจนส่งผลให้ปัจจัยพื้นฐานของประเทศถดถอยลง จึงมีแรงขายทำกำไรในตลาดหุ้นออกมาต่อเนื่อง  นอกจากนี้ การที่ธนาคารกลางอินเดีย (RBI) ต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย Repo Rate อย่างรวดเร็ว (ปรับขึ้นไปแล้ว 90 bps) เพื่อดึงเงินเฟ้อให้กลับมาอยู่ในกรอบ 2-6% เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ก่อให้เกิดแรงขายในตลาดหุ้น โดยเฉพาะหุ้นกลุ่ม Mid-Small ที่ค่อนข้างได้รับผลกระทบมากจากอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น


Outlook&Strategy: ในครึ่งหลังของปี 2022 ตลาดหุ้นอินเดียยังน่ากังวลอยู่หรือไม่?

·      เรามองว่าไม่น่ากังวล เนื่องจาก

 

1. ตลาดหุ้นรับมือภาวะ Sell Off ได้ดี: ในช่วงครึ่งแรกของปี 2022 ดัชนี NIFTY 50 ต้องถือว่ามีผลตอบแทนโดยรวมที่ “Outperform” ดัชนี MSCI Emerging Market Index มาก (-8.35% และ -17.63% ตามลำดับ) รวมทั้งมีผลตอบแทนโดยรวมที่สูสีกับตลาดหุ้นจีน A-Share อีกด้วย ดังนั้น ตลาดหุ้นอินเดียต้องถือว่ามีผลตอบแทนที่โดดเด่นกว่าตลาดหุ้นหลายตลาด ใน Emerging Market และไม่ได้ปรับตัวลงแรงเลย สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของตลาดที่ทนต่อภาวะ Sell off ได้ดี

2. ภาวะเศรษฐกิจแข็งแกร่ง ไม่ถดถอย: หุ้นกลุ่มธนาคารของอินเดียมีผลตอบแทนที่ Outperform ตลาด สะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจของอินเดียที่ยังแข็งแกร่ง Loan Growth ของอินเดียยังเติบโตต่อเนื่องจนสูงกว่าระดับ Pre Covid นอกจากนี้ World Bank ยังมองว่า GDP ของอินเดียในปี 2023 จะเติบโตกว่า 7% ซึ่งเรียกได้ว่าแทบสูงที่สุดในโลก และปัจจุบันทาง Bloomberg ยังคาดการณ์ว่าโอกาสในการเกิดภาวะ Recession ของอินเดียใน 1 ปีข้างหน้ายังอยู่ที่ 0% อีกด้วย นับว่าเศรษฐกิจอินเดียมีความแข็งแกร่งมาก

3. เงินเฟ้อลง RBI อาจไม่จำเป็นต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ยมากแล้วในครึ่งหลังของปี หุ้น Mid-Small ได้ประโยชน์: สาเหตุที่กองทุน TMBINDAE ปรับตัวลงมากกว่าดัชนี NIFTY 50 มาจากการปรับตัวลงแรงของกลุ่ม Small Cap ซึ่งกองทุนหลักมีสัดส่วนการลงทุนอยู่ประมาณ 32.20% (Fund Fact Sheet เดือน พ.ค.) โดยดัชนี NIFTY Small Cap 50 ปรับตัวลงประมาณ -27.45% ในช่วงครึ่งปีแรก จากความกังวลเรื่องเงินเฟ้อและการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ RBI แต่ทั้งนี้ ราคาพลังงานและอาหารมีแนวโน้มปรับตัวลงตั้งแต่เดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งจะส่งผลให้ดุลบัญชีเดินสะพัดของอินเดียมีแนวโน้มขาดดุลดลลง รวมทั้งอัตราเงินเฟ้อในประเทศจะมีแนวโน้มลดลงอีกด้วย จนในที่สุด RBI จะไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วเหมือนในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ซึ่งจะส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่ม Mid-Small และจะทำให้ผลตอบแทนของกองทุน TMBINDAE ฟื้นตัวกลับมา

4. ค่าเงินอินเดียรูปี (INR) มีแนวโน้มกลับมาแข็งค่าได้: ตั้งแต่ต้นปี ค่าเงิน INR อ่อนค่าไปเกือบ 6% จากแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ แต่ด้วยดุลบัญชีเดินสะพัดที่ขาดดุลลดลง ประกอบกับทาง RBI มีแนวโน้มที่จะเข้าคุมความผันผวนของค่าเงิน ซึ่งในที่สุดจะส่งผลให้ค่าเงิน INR มีแนวโน้มกลับมาแข็งค่า และดึงดูดให้นักลงทุนต่างชาติกลับมาลงทุนอีกครั้ง


·       Strategy:  ทยอยสะสมกองทุน TMBINDAE ในช่วงที่ดัชนี NIFTY 50 พึ่งกลับมาใกล้ระดับ 16,000 จุดนี้

Source: ttb Investment Strategist Team, Reuters, CNBC, Bloomberg, Tradingview