ใกล้จะเข้าสู่ปีใหม่กันแล้ว สำหรับใครที่ยังหาเครื่องมือที่ช่วยลดหย่อนภาษีอยู่เราขอแนะนำ กองทุนรวม SSF และ RMF ที่นอกจากจะตอบโจทย์การลดหย่อนภาษีแล้ว ยังเป็นตัวช่วยให้เงินทำงานต่อเพื่อให้มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่งอกเงยและสามารถบรรลุแผนการลงทุนในระยะยาวได้อีกด้วย แต่ก่อนที่เราจะเริ่มต้นลงทุน เรามาทำความรู้จักกับกองทุนดังกล่าวก่อน เพื่อให้เข้าใจการลงทุนในกองทุน SSF และ RMF มากยิ่งขึ้น
ทำความรู้จักกองทุน SSF และ RMF คืออะไร?
ปัจจุบัน มีกองทุนที่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้อยู่ 2 ประเภท ได้แก่
- SSF หรือ Super Savings Fund เป็นกองทุนรวมเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว
- RMF หรือ Retirement Mutual Fund เป็นกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ส่งเสริมการออมระยะยาวสำหรับใช้จ่ายยามเกษียณอายุ
ซึ่งทั้ง 2 กองทุนให้สิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีแก่ผู้ลงทุน และมีนโยบายลงทุนในสินทรัพย์ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นหุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ ตราสารหนี้ กองทุนอสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ
SSF vs RMF ต่างกันอย่างไร
ทั้ง 2 กองทุนข้างต้นเป็นกองทุนที่ให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษีควบคู่การลงทุนในระยะยาวไปด้วย อย่างไรก็ตาม ยังมีเงื่อนไขในรายละเอียดหลายอย่างที่แตกต่างกันอยู่ ดังนี้
ในภาพรวม จะเห็นว่าข้อแตกต่างระหว่างกองทุน SSF และ RMF คือ
1. เงื่อนไขในการลดหย่อนภาษี
SSF สามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30% ของรายได้ ไม่เกิน 200,000 บาท ส่วน RMF จะลดหย่อนได้ไม่เกิน 500,000 บาท แต่ทั้ง 2 กองทุนนี้ เมื่อรวมกับค่าลดหย่อนการออมเพื่อเกษียณอื่น ๆ แล้วจะต้องไม่เกิน 500,000 บาทด้วย
2. ระยะเวลาการลงทุนและเงื่อนไขการซื้อ
SSF จะต้องถือหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 10 ปีนับจากวันที่ซื้อ แต่ไม่จำเป็นต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี ส่วน RMF ต้องถือไม่น้อยกว่า 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ซื้อครั้งแรก ขายได้ตอนอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ และต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี หรือซื้อปีเว้นปี
3.เป้าหมายการลงทุน
โดย SSF ออกแบบมาเพื่อคนที่ต้องการออมระยะกลาง-ยาว ตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป และเหมาะกับคนที่อายุยังไม่มากนัก หรืออายุต่ำกว่า 45 ปี ในขณะที่ RMF ออกแบบมาเพื่อการวางแผนสร้างเงินก้อนให้มีเงินใช้ยามเกษียณ
ทำไมต้องลงทุนและข้อดีของกองทุน SSF และ RMF
ก่อนที่เราจะมีเงินเก็บเพื่อเป้าหมายในระยะต่าง ๆ แน่นอนว่าจะต้องใช้แรงกาย แรงสมองในการทำงานเพื่อให้ได้เงินมา ซึ่งแน่นอนว่าหากเรามีเงินเก็บเพื่อใช้ยามเกษียณไว้เฉย ๆ แล้วไม่ได้นำมา
ต่อยอดด้วยการลงทุนเพื่อเอาชนะเงินเฟ้อ จะทำให้เงินก้อนนั้นมูลค่าลดลง ครั้นจะเริ่มต้นลงทุนก็คงมีความกลัวที่เงินต้นจะลดน้อยถอยลงไปอีกและยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเรามีรายได้ เราก็จะต้องเสียภาษี ซึ่งหากเสียมากจนเกินไป อาจทำให้แผนการเงินที่เราวางไว้สะดุดได้
จากปัญหาต่าง ๆ ข้างต้นที่เรายกมา จึงเป็นเหตุผลว่า เราอาจต้องหาตัวช่วยที่สามารถเพิ่มมูลค่าของเงินโดยประหยัดเวลาการศึกษาเรื่องการลงทุนได้ นั่นคือกองทุนรวม และนอกจากนี้ หากเราทั้งอยากลงทุนและลดหย่อนภาษีไปด้วยในตัว กองทุนรวมที่ตอบโจทย์ทั้ง 2 ข้อนี้ คือ SSF และ RMF ซึ่งกองทุนดังกล่าวมีข้อดีอะไรบ้าง ไปดูกันได้เลย
1. โอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุนเพิ่มขึ้น
หลาย ๆ คนอาจเคยได้ยินประโยคที่ว่า “เก็บเงินไว้เฉย ๆ มูลค่าของเงินก็ลดลง” วิธีหนึ่งที่จะช่วยไม่ให้มูลค่าของเงินลดลงก็คือการลงทุนในกองทุนรวม ตัวช่วยหนึ่งที่สามารถเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นจากการลงทุนได้ ทำให้มูลค่าของเงินในอนาคตเพิ่มสูงขึ้น แต่บางคนอาจมองเรื่องการลงทุนเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเอาเสียเลย กองทุนรวมจึงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ดังกล่าวได้
2. ช่วยประหยัดภาษี หรือ มีโอกาสรับเงินภาษีคืน
เป็นจุดเด่นของกองทุนประเภทนี้ ซึ่งนอกจากจะให้เงินได้ทำงานแล้ว ยังทำให้เราประหยัดภาษีได้มากขึ้น สามารถมีเงินเหลือเก็บไปต่อยอดเป้าหมายต่าง ๆ ในชีวิต
3. เป็นการลงทุนสำหรับเป้าหมายในระยะยาว
สำหรับใครที่ต้องการวางแผนเก็บออมระยะยาวหรือวางแผนเกษียณ การลงทุนในกองทุน SSF และ RMF มีเงื่อนไขในการขายที่แตกต่างกัน โดย SSF จะต้องถือไม่ต่ำกว่า 10 ปี ส่วน RMF จะขายได้ต่อเมื่ออายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ ซึ่งเงื่อนไขเหล่านี้ เป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้สามารถลงทุนได้ในระยะยาว
4. SSF RMF ลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย
กองทุนประเภทดังกล่าว มีนโยบายลงทุนในสินทรัพย์ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นหุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ ตราสารหนี้ กองทุนอสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ ซึ่งสามารถเลือกลงทุนได้ตามระดับความเสี่ยงที่เหมาะสมกับตัวเอง
5. ลงทุนได้อย่างมั่นใจ น่าเชื่อถือ
การลงทุนในกองทุน เป็นวิธีที่ช่วยให้คุณลงทุนได้อย่างสบายใจได้ เพราะถ้าคุณไม่มีความรู้ด้านการลงทุน และไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไงดี หรือไม่มีเวลาศึกษาเรื่องการลงทุน การลงทุนในกองทุนก็เป็นตัวช่วยที่ดีที่จะเพิ่มโอกาสให้คุณได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนเพิ่มมากขึ้น เพราะมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลและบริหารจัดการการลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ ทั่วโลก ทำให้คุณสามารถลงทุนได้อย่างมั่นใจนั่นเอง
แนะนำกองทุน SSF RMF ที่น่าลงทุน
แนะนำกองทุน SSF
ONE-UGG-ASSF
หากท่านรับความเสี่ยงได้มากและต้องการสร้างความมั่งคั่งในระยะยาว กองทุน ONE-UGG-ASSF เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ครบครัน ด้วยการคัดเลือกหุ้นที่มีแนวโน้มเติบโตดีในระยะยาวจากหลากหลายประเทศผ่านผู้จัดการกองทุนมากด้วยฝีมือ
UEV-SSF
“รถยนต์ไฟฟ้า” กำลังจะกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนเราในอนาคตอันใกล้ กระแสพลังงานสะอาดกำลังมาแรงในขณะนี้ แล้วแบบนี้เราจะไม่ลงทุนในกองทุน UEV-SSF ซึ่งเน้นการลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างไร ดังนั้นทุกท่านจึงไม่ต้องรอช้า ทยอยลงทุนกับกองทุนแห่งอนาคตกันได้แล้วตั้งแต่วันนี้
T-ES-GTech-SSF
ถ้าพูดถึงหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่อัตราการเติบโตที่สูงในระยะยาวแล้ว ย่อมต้องคิดถึงกองทุน T-ES-GTech-SSF ที่เน้นการลงทุนในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีอย่าง Apple และ Microsoft เป็นต้น รวมทั้ง กองทุนยังมีการลงทุนในบริษัทกลุ่มเทคโนโลยีที่มีชื่อเสียงในตลาดเอเชียเราอีกด้วย ดังนั้น เราจึงอยากให้ท่านที่รับความเสี่ยงได้มาก พิจารณากองทุน T-ES-GTech-SSF เป็นหนึ่งในทางเลือกการลงทุนของท่าน เพื่อความมั่งคั่งในระยะยาว
ttb smart port SSF
สุดยอดกองทุน Flagship ของเรา “ttb Smart Port” มาอยู่ในรูปแบบกองทุน SSF ให้ทุกท่านได้ลงทุนตามระดับความเสี่ยงของท่านกันแล้วตั้งแต่วันนี้ ด้วยความเป็นกองทุนผสมที่มีการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ จึงมีการกระจายความเสี่ยงภายในกองทุนอย่างลงตัว พร้อมด้วยการดูแลกองทุนจากผู้จัดการกองทุนมืออาชีพระดับโลก “Amundi Asset Management” ดังนั้นแล้ว เราขอแนะนำทุกท่านอย่าได้รอช้าที่จะลงทุนใน ttb Smart Port เพื่อให้ท่านได้สะสมความมั่งคั่งจนกระทั่งมีชีวิตทางการเงินอันมั่นคงอย่างยาวนาน
แนะนำกองทุน RMF
UGQGRMF, TMBGQGRMF, T-ES-GCG-RMF
สำหรับการลงทุนระยะยาวแล้ว เราขอแนะนำให้ทุกท่านอย่าได้พลาดการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลกผ่านกองทุน UGQGRMF, TMBGQGRMF , T-ES-GCG-RMF ซี่งกองทุนทั้ง 3 นั้น มีการกระจายการลงทุนไปยังตลาดหุ้นทั่วโลกและหลากหลายอุตสาหกรรม ทำให้กองทุนมีการกระจายความเสี่ยงไปในตัวและมีความผันผวนของผลตอบแทนที่น้อยกว่าการเลือกลงทุนในประเทศใดประเทศหนึ่งเพียงประเทศเดียว เพื่อให้ทุกท่านได้มีความสุขทางการเงินในระยะยาวอย่างแท้จริง
TMBGINCOMERMF
หากท่านรับความเสี่ยงได้ปานกลาง หรืออยากกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนมายังตราสารหนี้ เราขอนำเสนอกองทุน TMBGINCOMERMF มาให้ทุกท่านได้ลงทุน ซึ่งกองทุนมีการกระจายการลงทุนในตราสารหนี้หลากหลายประเภทและมีอันดับความน่าเชื่อถือที่สูง จึงมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ อายุเฉลี่ยของตราสารหนี้ในกองทุนไม่ยาวนัก ผลตอบแทนของกองทุนจึงมีความผันผวนไม่มากอีกด้วย
จะเห็นได้ว่าการลงทุนในกองทุน SSF และ RMF นอกจากจะช่วยลดหย่อนภาษีแล้วยังช่วยเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนจากการลงทุนมากยิ่งขึ้น ด้วยนโยบายการลงทุนที่หลากหลาย ทำให้นักลงทุนสามารถจัดพอร์ตและกระจายการลงทุนมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้ลงทุนมีเงินออมระยะยาวและให้คุณมีเงินใช้ในยามเกษียณ เป็นการลงทุนเพื่ออนาคตและเพิ่มโอกาสให้คุณมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น
อีกไม่กี่วันก็จะสิ้นปีแล้ว หากไม่อยากพลาดโอกาสในการลงทุนพร้อมลดหย่อนภาษี อย่าลืมลงทุนในกองทุน SSF หรือ RMF กันด้วยน่ะ
พิเศษ !! ลดหย่อนภาษีคุ้มค่า 2 ต่อ กับโปรโมชันลดหย่อนภาษี ปี 2564 จาก ttb
ต่อที่ 1 เมื่อซื้อกองทุนลดหย่อนภาษี SSF RMF ทุก ๆ 50,000 บาท รับเงินลงทุนเพิ่มเติมในกองทุนตราสารตลาดเงิน (Money Market) จำนวน 100 บาท (ตามบลจ.ที่ลงทุน) โดยสามารถรูดซื้อด้วยบัตรเครดิต ttb ได้ทุกกอง ตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค. 64 – 30 ธ.ค. 64
ต่อที่ 2 สำหรับผู้ถือบัตรเครดิต ttb ให้คะแนนสะสมของคุณ ต่อยอดความมั่งคั่งผ่านการลงทุนที่คุ้มค่ากว่าใคร เพียงใช้คะแนนสะสม ttb rewards plus แลกรับเครดิตเงินคืนเมื่อซื้อกองทุนรวมกับ ttb สามารถขอรายละเอียดและแลกคะแนนสะสมผ่าน ttb reserve line 02-010-1428 สำหรับผู้ถือบัตรเครดิต ttb reserve และ ttb investment line โทร. 1428 กด #4 สำหรับผู้ถือบัตรเครดิต ttb ประเภทอื่น ๆ ที่มีคะแนนสะสม ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 64 – 30 ธ.ค. 64
ดูรายละเอียดโปรโมชันเพิ่มเติม ได้ที่ https://www.ttbbank.com/th/promotion/detail/rmf-ssf-2021
- กิจกรรมส่งเสริมการตลาดนี้ สำหรับลูกค้าที่มีบัญชีผู้ถือหน่วยลงทุนผ่าน ttb และลงทุนในกองทุน SSF หรือ RMF หรือ ttb smart port SSF ระหว่างวันที่ 4 ม.ค. – 30 ธ.ค. 2564
- การคำนวณสิทธิ์รับเงินคืนจะคำนวณจากยอดเงินลงทุนสุทธิในกองทุน SSF หรือ RMF หรือ ttb smart port SSF ที่อยู่ภายใต้ บลจ.เดียวกัน โดย ttb จะคำนวณสิทธิ์รับหน่วยลงทุนคืนต่อชื่อผู้ถือหน่วยลงทุนตามเลขที่บัตรประจำตัวประชาชนต่อ บลจ. และผู้ถือหน่วยลงทุนต้องคงยอดเงินลงทุนสุทธิจนถึงวันที่ 30 เม.ย. 2565
- ยอดเงินลงทุนสุทธิ คือ ยอดรวมของรายการซื้อและยอดรับโอนจาก บลจ.อื่น หักด้วยยอดรวมของรายการขายคืนที่ผิดเงื่อนไขทางภาษีของกรมสรรพากร และยอดโอนไปยังบลจ.อื่น ระหว่างวันที่ 4 ม.ค. – 30 ธ.ค. 2564 โดยไม่นับรวมการโอนยอดหน่วยลงทุนภายในและระหว่าง บลจ. ที่ ttb เป็นตัวแทนผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุน
- ttb จะทำการโอนหน่วยลงทุนกองทุนตราสารตลาดเงิน (Money Market) ที่ธนาคารกำหนด ให้ลูกค้าที่ได้รับตามโปรโมชันนี้โดยโอนเข้าบัญชี ผู้ถือหน่วยลงทุนที่เปิดไว้กับ ttb ภายในวันที่ 30 มิ.ย. 2565
- ttb ขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงของสมนาคุณที่มีมูลค่าเทียบเท่า รวมทั้งเงื่อนไข ข้อกำหนดของรายการส่งเสริมการตลาดนี้ โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของ ttb และคำตัดสินของ ttb ให้ถือเป็นที่สุด
หมายเหตุ: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน / การลงทุนในหน่วยลงทุนมิใช่การฝากเงิน และมีความเสี่ยงของการลงทุน / ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลในหนังสือชี้ชวน โดยเฉพาะนโยบายการลงทุน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุน รวมทั้งศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุน กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ก่อนตัดสินใจลงทุน / ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจและปฏิบัติตามเงื่อนไขการลงทุน หากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการลงทุน ผู้ลงทุนจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี และต้องคืนสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เคยได้รับพร้อมเงินเพิ่ม รวมทั้งเสียภาษีสำหรับกำไรจากการขายคืนหน่วยลงทุน
หมายเหตุ:
- ข้อมูล บทความ บทวิเคราะห์และการคาดหมาย รวมทั้งการแสดงความคิดเห็นทั้งหลายที่ปรากฏอยู่ในรายงานฉบับนี้ ทำขึ้นบนพื้นฐานของแหล่งข้อมูลที่ดีที่สุด ที่ได้รับมาและพิจารณาแล้วเห็นว่าน่าเชื่อถือ แต่ทั้งนี้ไม่อาจรับรองความถูกต้อง ความสมบูรณ์แท้จริงของข้อมูลดังกล่าว ความเห็นที่แสดงไว้ในรายงานฉบับนี้ได้มาจากการพิจารณาโดยเหมาะสมและรอบคอบแล้ว และอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งล่วงหน้าแต่อย่างใด รายงานฉบับนี้ไม่ถือว่าเป็นคำเสนอหรือคำชี้ชวนให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์และจัดทำขึ้นเป็นการเฉพาะเพื่อประโยชน์แก่บุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทเท่านั้น มิให้นำไปเผยแพร่ทางสื่อมวลชน หรือโดยทางอื่นใด ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) ไม่ต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นโดยตรงหรือเป็นผลจากการใช้เนื้อหาหรือรายงานฉบับนี้ การนำไปซึ่งข้อมูล บทความ บทวิเคราะห์ และการคาดหมาย ทั้งหลายที่ปรากฏอยู่ในรายงานฉบับนี้ เป็นการนำไปใช้โดยผู้ใช้ยอมรับความเสี่ยงและเป็นดุลยพินิจของผู้ใช้แต่เพียงผู้เดียว
- การลงทุนในหน่วยลงทุนมิใช่การฝากเงิน และมีความเสี่ยงของการลงทุน /ผลการดำเนินงานในอดีต/ ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุนมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต /ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน / กองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศและไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนหรืออาจได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ / ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลในหนังสือชี้ชวน โดยเฉพาะนโยบายการลงทุน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุนก่อนตัดสินใจลงทุน /ผู้ลงทุนสามารถรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ ทีทีบี ทุกสาขา หรือ ttb Investment Line โทร. 1428 กด # 4 ทุกวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 9:00 – 17:30 น. (ยกเว้นวันหยุดธนาคาร)