external-popup-close

คุณกำลังออกจากเว็บไซต์ ทีทีบี
เพื่อเข้าสู่

https://www.ttbbank.com/

ตกลง

เจาะกลยุทธ์การลงทุนปี 67 เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในจังหวะดอกเบี้ยขาลง

1 เม.ย. 2567

จากแนวโน้มทิศทางดอกเบี้ยนโยบายในหลายประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐฯ ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว ประกอบกับ เงินเฟ้อปรับตัวลงมาต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจนทำให้ “อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง” กลับมาเป็นบวก ธนาคารกลางอย่าง Fed จึงอาจไม่มีความจำเป็นต้องกลับมาขึ้นดอกเบี้ยอีก ปัจจัยเหล่านี้ ลดแรงกดดันที่จะทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) สหรัฐฯ กลับมาปรับขึ้นตามดอกเบี้ย ขณะที่เราเห็นการคาดการณ์ เงินเฟ้อในประเทศหลักมีแนวโน้มชะลอตัวลงต่อเนื่องตามการบริโภคที่อ่อนตัว ราคาพลังงานที่ทรงตัวในระดับต่ำ และอัตราค่าเช่าที่ยังมีโอกาสลดลงต่อ ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ (Bond Yield) ในตลาดมีแนวโน้มปรับตัวลง (ราคาตราสารหนี้ปรับเพิ่มขึ้น)

ในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มขาลงแบบนี้ นักลงทุนในตราสารหนี้มักเผชิญกับความกังวลว่า ผลตอบแทนจากการลงทุนพอร์ตตราสารหนี้เรากำลังจะลดลงตามไปด้วยไหม หนึ่งในกลยุทธ์ที่อาจช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจ คือ การลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอายุเฉลี่ยตราสารยาว (Long Duration Bond) แทนที่จะลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอายุสั้น (Short Duration Bond)

เหตุผลหลักที่ควรลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอายุเฉลี่ยตราสารยาว

โอกาสล็อกอัตราผลตอบแทนที่สูงกว่า : โดยทั่วไป ตราสารหนี้ที่มีอายุเฉลี่ยตราสารยาว มักให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าตราสารหนี้ที่มีอายุสั้น สาเหตุเพราะนักลงทุนต้องรับความเสี่ยงที่สูงขึ้นจากการผันผวนของอัตราดอกเบี้ยในระยะยาว ดังนั้นหากเราคาดว่าทิศทางอัตราดอกเบี้ยในตลาดมีแนวโน้มลดลงในระยะข้างหน้า และไม่ได้ต้องการใช้เงินในระยะสั้น จึงควรลงทุนในตราสารหนี้อายุยาวเพื่อสร้างโอกาสล็อกอัตราผลตอบแทน

โอกาสรับผลตอบแทนจากการปรับตัวของราคา : เมื่ออัตราดอกเบี้ยขาลง ราคาตราสารหนี้ที่มีอายุเฉลี่ยตราสารยาวมักจะปรับตัวสูงขึ้น

สร้างกระแสเงินสดสม่ำเสมอ : ตราสารหนี้จ่ายดอกเบี้ยเป็นระยะๆ ช่วยให้นักลงทุนได้รับกระแสเงินสดอย่างสม่ำเสมอ

วันนี้ ทีทีบี ขอเสนอกลยุทธ์การลงทุนเพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนเพิ่มขึ้นในจังหวะดอกเบี้ยขาลง จำกัดโอกาสการขาดทุนเงินต้นโดย พร้อมตอบโจทย์ความต้องการด้านสภาพคล่องได้อีกด้วย ดังนี้

คัดสรรผลิตภัณฑ์การลงทุนที่มุ่งเน้นปกป้องเงินต้น พร้อมทั้งผู้ลงทุนสามารถคาดการณ์ผลลัพธ์จากการลงทุนที่เป็นไปได้ หรือ เห็นภาพรวมของ Payoff เบื้องต้นจากการลงทุน และระยะเวลาการลงทุน เพื่อให้สามารถจัดการด้านสภาพคล่องได้ ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้ มักมีความเสี่ยงต่ำถึงปานกลาง และมีลักษณะการจ่ายผลตอบแทนตามกรณี ที่ประเมินเบื้องต้นได้ เช่น

1. กองทุน Term fund หรือกองทุนตราสารหนี้แบบกำหนดอายุ ซึ่งปัจจุบัน กองทุนกลุ่มนี้ได้รับความนิยมจากผู้ลงทุนจำนวนมากในปีที่ผ่านมา เนื่องจากอัตราผลตอบแทนปรับเพิ่มสูงขึ้นตามอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ที่เพิ่มสูงขึ้นตามอัตราดอกเบี้ยนโยบายจนมีความน่าสนใจนั่นเอง

จุดเด่นผลิตภัณฑ์ :

กองทุนใช้กลยุทธ์ Buy & Hold ในการบริหารพอร์ต ทำให้สามารถประมาณการรายได้ของพอร์ตการลงทุนได้ตามประมาณการอัตราผลตอบแทน (Indicative Return) หากตราสารที่กองทุนถือไม่ผิดนัดชำระหนี้
พอร์ตลงทุนในตราสารหนี้ โดยมีทั้งพอร์ตที่ลงทุนในตราสารรัฐบาลไทย 100% ที่ถือได้ว่าแทบไม่มีความเสี่ยงด้านเครดิต และพอร์ตที่กระจายการลงทุนในตราสารหนี้ประมาณ 5-7 รายผู้ออก ที่มีอันดับเครดิตคุณภาพลงทุนได้ (Investment Grade) รวมถึงผู้ออกตราสารที่มีอันดับเครดิตต่างประเทศสูงกว่ารัฐบาลไทยอีกด้วย มีการป้องกันความเสี่ยงค่าเงินเต็มจำนวนกรณีมีการลงทุนในต่างประเทศ
มีระยะเวลาการลงทุนให้เลือกเหมาะสม ตั้งแต่ระยะสั้นๆ (ไม่เกิน 1 ปี) ถึง ปานกลาง (ไม่เกิน 1-3 ปี)
ผลตอบแทนจากการลงทุนกองทุน term fund ไม่เสียภาษี ไม่เหมือนการลงทุนในตราสารหนี้หรือเงินฝากทั่วไป

2. กองทุน Structured Fund หรือกองทุนที่มีการใช้อนุพันธ์เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนตามโอกาสทางการลงทุนแต่ละขณะ

จุดเด่นผลิตภัณฑ์ :

กองทุนตอบโจทย์กลยุทธ์การลงทุนที่เน้นปกป้องความเสี่ยงขาลง/จำกัดการขาดทุนเงินต้น ด้วยการลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพ เช่น พันธบัตรรัฐบาล เงินฝาก หรือหุ้นกู้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือระดับ Investment Grade ขึ้นไป กว่า 95% ของเงินลงทุน เพื่อให้ผลตอบแทนเติบโตมาครอบคลุมค่าใช้จ่ายกองทุน ต้นทุน options บางส่วน ณ เมื่อครบกำหนดอายุกองทุน
เพิ่มโอกาสทำกำไร ตามมุมมองการลงทุน ไม่ว่าจะเป็น ตลาดขาขึ้น หรือลง ด้วยการแบ่งส่วนลงทุนในตราสารอนุพันธ์ ประเภทออปชั่น (Option) หรือ วอร์แรนท์ (Warrant)
สำหรับลักษณะการจ่ายผลตอบแทนของกองทุน Structured Fund มีหลากหลายลักษณะ เหมาะสมตามสภาวะตลาด ตามกลยุทธ์การลงทุนส่วนตราสารอนุพันธ์ที่กองทุนลงทุนซึ่งแตกต่างกันออกไป เช่น Shark-fin ทำกำไรในภาวะตลาดขาใดขาหนึ่ง ได้แก่ ตลาดขาขึ้น (Bullish Shark-fin) หรือ ทำกำไรฝั่งตลาดขาลง (Bearish Shark-fin) และ Twin-win ทำกำไรทั้งตลาดขาขึ้นและขาลง เหมาะกับผู้ที่มีมุมมองต่อตลาดที่ไม่แน่นอน มีอาจแกว่งตัวขึ้นและลงได้ในกรอบที่กำหนด เป็นต้น
ระยะการลงทุนตอบโจทย์ทั้งระยะเวลาสั้นๆ (เพียง 6 เดือน ถึง 1 ปี) หรือปานกลางที่ไม่เกิน 2 ปี

จัดสัดส่วนการลงทุนให้มีการกระจายการลงทุนในแต่ละผลิตภัณฑ์อย่างเหมาะสม นอกจากมีผลิตภัณฑ์การลงทุนที่เน้นปกป้องเงินต้นแต่ไม่เสียโอกาสในการทำกำไรแล้ว การจัดสรรสัดส่วนการลงทุน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์จากการลงทุนที่สอดคล้องกับความมุ่งหวัง ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ตลอดจนระยะเวลาที่สามารถลงทุนได้เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน ทั้งนี้ สัดส่วนการลงทุนในแต่ละผลิตภัณฑ์ของผู้ลงทุนอาจแตกต่างกันออกไป เพื่อให้ตรงตามความต้องการที่ต่างกัน

ตัวอย่างการจัดสรรเงินลงทุน
ทีทีบีตัวอย่างการจัดสรรเงินลงทุนสำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อยถึงปานกลาง และสามารถลงทุนได้ไม่เกิน 1 ปี อาจพิจารณาแบ่งเงินลงทุนเป็น 2 ส่วน ด้วยสัดส่วน 60:40 ซึ่งแบ่งเป็น

ส่วนที่ 1 เน้นปกป้องเงินต้น : 60% ของเงินลงทุนใน Term fund ที่เน้นลงทุนในพันธบัตรและตราสารหนี้คุณภาพ อายุ 6 เดือน หรือ 1 ปี เช่น ปัจจุบัน ผลตอบแทนเฉลี่ย ประมาณ 2.0%* ต่อปี สำหรับ 6 เดือน และ 2.2%* ต่อปี สำหรับ 1 ปี

*ผลตอบแทนกองทุน term fund อ้างอิงจากอัตราผลตอบแทนประมาณการที่ได้รับจาก บลจ.ใน เดือน กพ 2567

ส่วนที่ 2 เน้นโอกาสจับจังหวะทำกำไร ตามมุมองการลงทุน : 40% ของเงินลงทุนใน Structured Fund ที่ผลตอบแทนอ้างอิงดัชนี พร้อมทั้งจำกัดการขาดทุนสูงสุด ตัวอย่างลักษณะการจ่ายผลตอบแทน เช่น กองทุนอายุ 6 เดือน ให้ผลตอบแทนอ้างอิงดัชนี US Treasury ระยะยาว หากดัชนีไม่ปรับตัวเพิ่มสูงเกินกว่า 20% เทียบกับวันเริ่มต้น (ไม่เกิด Knock Out Event) ผู้ลงทุนมีโอกาสได้ผลตอบแทนสูงสุด +14%ขณะที่หากไม่เป็นไปตามมุมมอง ผู้ลงทุนมีโอกาสขาดทุนสูงสุดได้ -3% รวมค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมซื้อ


ตารางแสดงลักษณะผลตอบแทนของการจัดสรรการลงทุน ที่เป็นไปได้ กรณีต่างๆ

ตารางแสดงลักษณะผลตอบแทนของการจัดสรรการลงทุน

Source: ttb Investment Product Team


จะเห็นได้ว่าการลงทุนคู่กันใน Term Fund และ Structured Fund เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนสูงสุดกว่าการลงทุนใน Term Fund เพียงอย่างเดียว 100% ขณะเดียวกัน ลดโอกาสการขาดทุนสูงสุดใน Structured Fund เพียงอย่างเดียว 100% ทั้งรอบระยะเวลาการลงทุน 6 เดือน และ 1 ปี ดังนี้

สำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนระยะสั้น 6 เดือน ผ่านการลงทุนใน Term fund และ Structured fund อายุ 6 เดือน ผู้ลงทุนมีโอกาสได้ผลตอบแทนสูงสุด สูงถึงประมาณ 6.2% ต่อการลงทุน 6 เดือน ขณะที่มีโอกาสขาดทุนสูงสุดเพียง -0.6% เท่านั้น

สำหรับผู้ที่สามารถลงทุนได้ยาวขึ้น ถึง 1 ปี ผู้ลงทุนอาจพิจารณาลงทุนใน Term fund อายุ 1 ปี ที่ได้ผลตอบแทนที่ดีขึ้น ประมาณ 2.2% และลงทุนใน Structured fund อายุ 6 เดือน 2 ครั้ง หรือ Structured fund อายุ 1 ปี เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างกำไร ในกรณีนี้ ผลตอบแทนสูงสุด สูงถึงประมาณ 12.5% ต่อปี ขณะที่มีโอกาสขาดทุนสูงสุดเพียง 1.1% เท่านั้น

ดังนั้น จะเห็นได้ว่า ผู้ลงทุนอาจไม่จำเป็นต้องมุ่งหาการลงทุนที่เสี่ยงสูงเพื่อหวังผลตอบแทนที่สูงเสมอไป ทีทีบี ขอเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เพิ่มโอกาสสร้างกำไรที่ดี พร้อมทั้งลดโอกาสเกิดความผิดพลาดจากการลงทุน ด้วยการจำกัดการขาดทุน ไปจนถึงการคุ้มครองเงินต้นให้เราเติบโตไปด้วยกัน อย่างไรก็ดี ข้อจำกัดของกองทุนประเภท Term Fund และ Structured Fund คือ นักลงทุนจะสามารถซื้อได้ครั้งเดียวช่วงเสนอขาย (IPO period) และจะต้องถือจนครบอายุกองทุนเท่านั้น ไม่สามารถขายคืนระหว่างทางได้ ดังนั้น นักลงทุนจึงควรมั่นใจว่าไม่มีความจำเป็นต้องใช้เงินก้อนนี้ก่อนครบกำหนดอายุกองทุน

ผู้ลงทุนที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมของกองทุนทั้ง Term Fund และ Structured Fund ที่ ทีทีบีคัดเลือกมาให้หรือสามารถลงทุนด้วยตัวเองผ่านแอป ttb touch หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและติดต่อรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ ทีทีบี ทุกสาขา หรือที่ปรึกษาทางการเงินของท่าน หรือ ttb Investment Line โทร. 1428 กด # 4 ทุกวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 9:00 – 17:30 น. (ยกเว้นวันหยุดธนาคาร)


หมายเหตุ :
ผลตอบแทนกองทุน Structured Fund ข้างต้นอ้างอิงถึง payoff กองทุนเปิด Principal Sharkfin Structure Complex Return 6M1 (PRINCIPAL SHARK6M1) เท่านั้น โดยผลตอบแทนที่แสดง เป็นการคิดรวมค่าธรรมเนียมการขายที่ 0.5% โดยผลตอบแทนดังกล่าว ไม่รวมการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินบาท ณ วันสิ้นสุดกองทุน / *ผลตอบแทนกองทุน term fund อ้างอิงจากอัตราผลตอบแทนประมาณการที่ได้รับจาก บลจ. ใน เดือน กพ. 2567 / ผลตอบแทนรวมของพอร์ตการลงทุน มีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนในส่วนของการลงทุนใน structured fund แต่ไม่มีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนสำหรับการลงทุนใน Term Fund / กรณีที่อัตราแลกเปลี่ยนไม่เปลี่ยนแปลง ณ วันครบกำหนดสัญญา ผลตอบแทนจะมีผลกระทบ Structured Fund จะเป็นในทางบวก (มากขึ้น) ในกรณีเงินบาทอ่อนค่าเทียบกับเงินสกุลดอลลาร์ ผลตอบแทนจะมีผลกระทบในทางลบ (น้อยลง) ในกรณีเงินบาทแข็งค่าขึ้นเทียบกับเงินสกุลดอลลาร์ / ผลตอบแทนกองทุน Term Fund และ Payoff ของ Structured Fund ที่ ทีทีบีเสนอขาย ณ ช่วงที่นักลงทุนสนใจลงทุนอาจเหมือน หรือแตกต่างจากกองทุนที่นำมาเป็นตัวอย่างข้างต้น นักลงทุนควรทำความเข้าใจข้อมูลผลิตภัณฑ์ก่อนลงทุน และ/หรือ ปรึกษาผู้แนะนำการลงทุนที่ดูแลท่าน / ผลตอบแทนรวมของพอร์ตการลงทุน มีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนในส่วนของการลงทุนใน structured fund แต่ไม่มีความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนสำหรับการลงทุนใน Term Fund / Scenario 1, 2, 3, 4 เป็นผลตอบแทนของดัชนีอ้างอิง ที่ ณ ระดับต่างๆ

การลงทุนหรือใช้บริการที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุนที่มีความเสี่ยงสูงหรือมีความซับซ้อนมีความแตกต่างจากการลงทุนหรือใช้บริการผลิตภัณฑ์ในตลาดทุนทั่วไป / การลงทุนในหน่วยลงทุนมิใช่การฝากเงิน และมีความเสี่ยงของการลงทุน / ผลการดำเนินงานในอดีต / ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุนมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต/ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน / กองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศและไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนหรืออาจได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ / ผู้ลงทุนไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนก่อนครบกำหนดอายุกองทุนได้ / ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลในหนังสือชี้ชวน โดยเฉพาะนโยบายการลงทุน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุนก่อนตัดสินใจลงทุน / ผู้ลงทุนมีความจำเป็นในการขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ประกอบธุรกิจก่อนทำการลงทุน


คำเตือน : ข้อมูล บทความ บทวิเคราะห์และการคาดหมาย รวมทั้งการแสดงความคิดเห็นทั้งหลายที่ปรากฏอยู่ในรายงานฉบับนี้ ทำขึ้นบนพื้นฐานของแหล่งข้อมูลที่ดีที่สุด ที่ได้รับมาและพิจารณาแล้วเห็นว่าน่าเชื่อถือ แต่ทั้งนี้ไม่อาจรับรองความถูกต้อง ความสมบูรณ์แท้จริงของข้อมูลดังกล่าว ความเห็นที่แสดงไว้ในรายงานฉบับนี้ได้มาจากการพิจารณาโดยเหมาะสมและรอบคอบแล้ว และอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งล่วงหน้าแต่อย่างใด รายงานฉบับนี้ไม่ถือว่าเป็นคำเสนอหรือคำชี้ชวนให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์และจัดทำขึ้นเป็นการเฉพาะเพื่อประโยชน์แก่บุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทเท่านั้น มิให้นำไปเผยแพร่ทางสื่อมวลชน หรือโดยทางอื่นใด ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) ไม่ต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นโดยตรงหรือเป็นผลจากการใช้เนื้อหาหรือรายงานฉบับนี้ การนำไปซึ่งข้อมูล บทความ บทวิเคราะห์ และการคาดหมาย ทั้งหลายที่ปรากฏอยู่ในรายงานฉบับนี้ เป็นการนำไปใช้โดยผู้ใช้ยอมรับความเสี่ยงและเป็นดุลยพินิจของผู้ใช้แต่เพียงผู้เดียว