ท่ามกลางภาวะตลาดมีความผันผวนสูง ตลาดเต็มไปด้วยปัจจัยที่ไม่แน่นอนในช่วงหลายปีที่ผ่านมาตั้งแต่มีสถานการณ์โควิด สงคราม ความขัดแย้งระหว่างประเทศ ตลอดจนภาวะเงินเฟ้อเร่งตัวสูงจนทำให้อัตราดอกเบี้ยในหลายประเทศเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว นักลงทุนหลายท่านคงมีความลังเลอยู่ไม่น้อยว่าจะกลับเข้าไปลงทุนได้หรือยัง จะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันจนทำให้ต้องเผชิญการขาดทุนเงินต้นที่สะสมมา หรือ ติดดอย จนยังเอาเงินออกไปใช้จ่ายไม่ได้ หรือไม่
เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการคลายความกังวล พร้อมโอกาสสร้างผลตอบแทนให้เงินลงทุนงอกเงย วันนี้ทีทีบีมีข่าวดีมาบอก
รู้หรือไม่ ว่าการลงทุนในกองทุนเพื่อให้เงินลงทุนเติบโตไม่จำเป็นต้องเผชิญความเสี่ยงสูงเสมอไป เพราะมีกองทุนบางประเภทที่นอกจากมุ่งหวังการสร้างผลตอบแทนที่ดี มีสภาพคล่องสูงสามารถขายทำกำไรได้ทุกวันทำการ ยังมีการรับประกันเงินต้นไปพร้อมกันด้วย ทำให้ผู้ลงทุนไม่ต้องกังวลเรื่องการขาดทุน นั่นคือ กองทุนเปิดเค การันตีสเตปอัป B หรือ K Guaranteed Step-up B Fund (KGSTEPB) ) ระดับความเสี่ยงกองทุน 5 จาก บลจ.กสิกรไทย ที่จะเสนอขายเฉพาะช่วง IPO วันที่ 28 มิ.ย.-19 ก.ค. 67 นี้
ทำความรู้จัก กองทุนรวมมีประกัน KGSTEPB
KGSTEPB เป็นกองทุนที่มีการผสมผสานลักษณะสำคัญของผลิตภัณฑ์ทางการเงิน 2 ส่วนหลักเข้าด้วยกัน นั่นคือ การรับประเงินลงทุนตั้งต้น (Capital Guarantee) ควบคู่กับ การมุ่งสร้างผลตอบแทนของเงินลงทุนให้งอกเงย (Performance) ซึ่งในปัจจุบัน KGSTEPB เป็นกองทุนเดียวในประเทศไทย1 ที่จดทะเบียนในลักษณะ Guaranteed Fund ที่บริษัทจัดการกองทุน จัดให้มีบุคคลอื่นรับประกันเงินต้น เมื่อลงทุนครบตามระยะเวลาที่กำหนด โดยในที่นี้ กองทุนมีการรับประกันเงินต้น โดยสถาบันการเงินชั้นนำระดับโลก Credit Agricole S.A. (Guarantor, ผู้ประกันเงินต้น) ธนาคารสัญชาติฝรั่งเศส ซึ่งใหญ่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก และยังได้รับการจัดอันดับเครดิตเรตติ้ง A+ จากทั้ง S&P และ Fitch Ratings1
ทำไมจังหวะนี้จึงน่าลงทุน ?
กองทุน KGSTEPB มีวัตถุประสงค์มุ่งสร้างผลตอบแทนที่งอกเงยไปกับพอร์ตสินทรัพย์แบบ Multi-asset ที่กระจายการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ทั่วโลก ซึ่งสอดคล้องกับมุมมอง ttb Investment Office ที่คาดว่า ผลตอบแทนจากสินทรัพย์ ทั้งหุ้นทั่วโลกและตราสารหนี้ยังทยอยเติบโตได้ดีในภาวะดอกเบี้ยขาลงที่กำลังจะมาถึง โดยสรุปปัจจัยหลักได้ดังนี้
1. เศรษฐกิจโลกยังขยายตัวได้ต่อ และไม่เกิดเศรษฐกิจถดถอย โดยเฉพาะกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว อย่างสหรัฐฯและยุโรป เป็นปัจจัยบวกหนุนสินทรัพย์เสี่ยง และบรรยากาศการลงทุน ล่าสุด IMF4 ปรับประมาณการเศรษฐกิจโลกขึ้น ขยายตัว +3.2% ในปีนี้ โดยเป็นการขยายตัวจาก Real GDP ของสหรัฐฯ ถึง +2.7% (จาก +2.1% ช่วงเดือน ม.ค. 24)
2. วัฏจักรดอกเบี้ยขาลงจะเป็นบวกต่อการลงทุนในตราสารหนี้และหุ้น โดย เงินเฟ้อสหรัฐฯ ล่าสุดเร่งตัวขึ้นมากกว่าที่ตลาดคาด “เล็กน้อย” เท่านั้น ซึ่งสาเหตุหลักมาจาก “ราคาน้ำมัน” ที่เร่งตัวขึ้น ขณะที่ค่าเช่าค่อยๆ ชะลอตัวลงตามที่เราคาดการณ์ รวมถึงราคาอาหารที่ไม่ได้เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด ดังนั้น เมื่อราคาน้ำมันกลับมาปรับตัวลง ย่อมส่งผลให้เงินเฟ้อในสหรัฐฯ กลับมาชะลอตัวลง และจะส่งผลให้ Fed กลับมาพูดถึงเรื่องการลดดอกเบี้ยอีกครั้งได้
3. การจัดพอร์ตเพื่อกระจายความเสี่ยงกลับมามีประสิทธิภาพ ดอกเบี้ยที่เริ่มมีเสถียรภาพ และมีโอกาสกลับมาสู่ระดับปกติ ส่งผลให้การจัดพอร์ตด้วยกระจายความเสี่ยงไปในแต่ละสินทรัพย์กลับมามีประสิทธิภาพดังเดิม
ปัจจัยเหล่านี้เอง จึงสนับสนุนให้กองทุนที่มีการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ทั่วโลก และบริหารจัดการโดยทีมงานมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญระดับโลก มีความน่าสนใจ
กลยุทธ์และพอร์ตการลงทุน
ในส่วนพอร์ตการลงทุน กองทุนมีนโยบายการลงทุน แบบผสม สามารถกระจายการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ทั่วโลก โดยมีอายุโครงการประมาณ 5 ปี 2 เดือน บริหารจัดการเงินลงทุนโดย Amundi Asset Management ผู้เชี่ยวชาญในการบริหารสินทรัพย์ที่หลายหลากทั่วโลก มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารกว่า 2 ล้านล้านยูโร2 และมีความชำนาญในการบริหารผลิตภัณฑ์ประเภท Guarantee step-up โดยถือเป็นอันดับ 1 ของยุโรปด้านการทำ structured products3 ทำหน้าที่เป็น ผู้รับดำเนินการงานด้านการจัดการลงทุนของกองทุน (Outsourced fund manager)
แผนภาพ 2 แสดงโครงสร้างบทบาทการการันตีและการบริหารพอร์ตการลงทุน
ที่มา KAsset, ข้อมูล ณ 2 พ.ค. 2024
กลยุทธ์การลงทุนแบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก;
- ส่วนที่ 1: Protection Asset มีเป้าหมายเพื่อคุ้มครองเงินลงทุน ณ วันครบกำหนด จะเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน (US Treasury hedged to THB)
- ส่วนที่ 2: Dynamic Asset มีเป้าหมายเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับกองทุน โดยกระจายการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ทั่วโลก ผ่านกองทุนรวมและ ETFs มุ่งเน้นการสร้างพอร์ตที่มีการกระจายความเสี่ยงที่ดี มีความยืดหยุ่นสูง เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนสูงสุด ด้วย Drawdown ต่ำที่สุด
พอร์ตการลงทุนตั้งต้น คาดว่าจะประกอบไปด้วย สินทรัพย์สภาพคล่อง 5-15% ตราสารหนี้ 70-80% และหุ้น ประมาณ 10-20% เพื่อมุ่งสร้างผลตอบแทนที่ดี ให้สอดคล้องกับความเสี่ยงที่เหมาะสม โดยผู้จัดการกองทุนจะมีการบริหารแบบเชิงรุกและยืดหยุ่น ปรับสัดส่วนการลงทุนให้เหมาะสมกับสถานการณ์แต่ละขณะ นอกจากนี้ ยังมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลพินิจเพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ โดยเบื้องต้นคาดว่า ป้องกันความเสี่ยง FX ไม่ต่ำกว่า 75% เพื่อมุ่งส่งผ่านผลการดำเนินงานสู่ผู้ลงทุน
ดังนั้น กลยุทธ์ดังกล่าว จึงเหมาะกับผู้ลงทุนที่ไม่ค่อยมีเวลาติดตามตลาด หรือจับจังหวะการลงทุนเอง โดยมีผู้เชี่ยวชาญในการปรับพอร์ตการลงทุน สม่ำเสมอ รวมทั้ง มี Feature Step-up ความคุ้มครอง เพื่อเก็บกำไรบางส่วนให้ผู้ลงทุน อีกด้วย
กลไกการประกันเงินต้นเป็นอย่างไร ?
กองทุนมีกลไกการการันตีเงินต้นเมื่อลงทุนครบอายุ ประมาณ 5 ปี 2 เดือน โดยเริ่มการันตีที่ NAV 10 บาท ต่อหน่วย อย่างไรก็ตาม หากระหว่างทาง ราคา NAV ปรับเพิ่มขึ้น ทุกๆ 5% ของมูลค่าที่ตราไว้ NAV ที่รับประกัน (Protected NAV) จะปรับเพิ่มขึ้น 2.5% จากราคาตั้งต้น กลไกนี้ เรียกว่า Step-up Guarantee เสมือนการล็อกกำไรบางส่วนให้กับผู้ลงทุน แม้ว่าไม่ได้ขายทำกำไรออกมา นั่นเอง รายละเอียดแสดงดังภาพที่ 1 กลไกการันตีของกองทุน
แผนภาพ 1 แสดงกลไกการันตีของกองทุน K Guaranteed Step-up B Fund
ที่มา KAsset, ข้อมูล ณ 13 มิ.ย. 2024
ยกตัวอย่าง เช่น ผู้ลงทุนเข้าลงทุน ณ วัน IPO ได้ราคา NAV ตั้งต้นที่ 10 บาทต่อหน่วย สมมติ NAV ปรับตัวเพิ่มขึ้น 10% มาอยู่ที่ 11.00 บาท ต่อหน่วย เข้าเงื่อนไข Step-up ทำให้ NAV ที่รับประกันขยับขึ้นเป็น 10.50 บาท ต่อหน่วย ในช่วงปีแรก แม้ว่าระหว่างอายุการลงทุนหลังจากนั้น NAV อาจปรับย่อตัวลดลง และผู้ลงทุนยังไม่ทันได้ขายทำกำไรออกมา แต่เมื่อครบอายุโครงการที่ประมาณ 5 ปี 2 เดือน กองทุนจะรับประกันเงินลงทุนตั้งต้น พร้อม Step-up ที่ 10.50 บาท นั่นเอง
อย่างไรก็ตาม หากผู้ลงทุนยังลงทุนไม่ครบอายุโครงการ เช่น ลงทุนไป 2 ปี และมีความจำเป็นต้องเอาเงินลงทุนออกมาก่อน หรือพอใจกับผลการดำเนินงาน ผู้ลงทุนสามารถขายทำกำไรกองทุนได้ทุกวันทำการ โดยได้รับราคา NAV ณ ราคาวันที่ทำรายการนั้นๆ แต่จะไม่ได้รับสิทธิประกัน
กองทุนนี้ เหมาะกับใคร?
จากที่ได้ทราบถึงลักษณะสำคัญและจุดเด่นของกองทุนไปแล้วนั้น สุดท้ายนี้ เราขอชวนทุกคนมาสำรวจตัวเองกันสักนิดว่า กองทุน KGSTEPB เหมาะกับใคร และเราเหมาะกับกองทุนนี้มากน้อยแค่ไหน
1. คุณเป็นผู้ที่มองหาโอกาสเติบโตของเงินลงทุน แต่ไม่อยากรับความเสี่ยงสูง (Wellness Solution) ?
กองทุนมีการการันตี 2 ชั้น ด้วย Guarantor ชั้นนำและ Protection Asset ทำให้ผู้ลงทุนได้รับการคุ้มครองเมื่อครบอายุโครงการ
2. คุณเป็นผู้ที่สามารถลงทุนได้ระยะกลางถึงยาว แต่ไม่อยากล็อกเงิน เพราะอาจมีความต้องการใช้เงินระหว่างการลงทุน ?
ผู้ลงทุนสามารถขายออกได้ทุกวันทำการหากผลงานถึงระดับที่พอใจ (ณ ราคา NAV) หรือมีความจำเป็นต้องใช้เงินระหว่างอายุโครงการ (ก่อน 5 ปี 2 เดือน)
3. คุณเป็นผู้ที่ไม่มีเวลาติดตามตลาด หรือจับจังหวะการลงทุนเอง ?
กองทุนมีผู้เชี่ยวชาญในการปรับพอร์ตการลงทุน สม่ำเสมอ ยืดหยุ่นและ Dynamic รวมทั้ง มี Feature Step-up ความคุ้มครอง เพื่อเก็บกำไรบางส่วนให้ผู้ลงทุน
ถ้าคุณเป็นผู้ลงทุนใน 3 ข้อข้างต้น จะเห็นว่า กองทุน KGSTEPB นี้ ถือเป็นหนึ่งใน Investment Solution ที่น่าจะตอบโจทย์การลงทุนเบื้องต้น ทั้งในเชิงการบริหารจัดการความเสี่ยงที่มีกลไกการการันตีเงินลงทุนตั้งต้น พร้อมกับโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ลงทุน ผ่านการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากลายทั่วโลก โดยผู้ที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ น่าจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ลงทุนที่เคยลังเลในการกลับเข้าไปลงทุนเพื่อมุ่งหาผลตอบแทนที่ดี ในภาวะตลาดที่ผสมผสาน และอาจจะยังมีความไม่แน่นอนอยู่ นี่เอง
ข้อควรรู้ก่อนลงทุน กับ สถานการณ์ Cash-lock หรือ Monetization
เหตุการณ์ Cash-lock คือ เหตุการณ์ที่ พอร์ตการลงทุนจะเปลี่ยนสินทรัพย์เสี่ยง ได้แก่ หุ้นและหุ้นกู้ ที่ลงทุนอยู่ ให้เป็นสินทรัพย์สภาพคล่องที่มีความเสี่ยงต่ำทั้งหมด โดยปัจจัยที่เป็นเหตุของเหตุการณ์ Cash-lock นี้เกิดเมื่อความเสี่ยงของสินทรัพย์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจรวมถึง ราคาสินทรัพย์ปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็ว จนทำให้กองทุนไม่สามารถลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงต่อไปได้ ซึ่งมักเกิดเฉพาะในภาวะไม่ปกติ
ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ของผู้ลงทุน กองทุน KGSTEPB มี Feature ให้กองทุนสามารถพิจารณาเลิกกองทุนก่อนครบกำหนดได้ (Early Termination) โดยผู้ถือหน่วยจะได้ NAV วันที่บริษัทจัดการฯ ดำเนินการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติ หากเข้าเงื่อนไข ที่กระทบต่อประสิทธิภาพในการบริหาร และเพื่อไม่ให้ผู้ลงทุนเสียโอกาสในการลงทุนไปกับระยะเวลาที่เหลืออยู่ของโครงการ ได้แก่
เกิดเหตุการณ์ Cash-lock* หรือ ขนาดกองทุนลดลงเหลือ > 750 ล้านบาทติดต่อกัน 3 วันทำการ และ ผู้ลงทุนจะต้องได้รับ NAV ขั้นต่ำ ที่ 10 THB + Front end fee 0.50% (NAV 10.05 THB) หรือ NAV ที่ รับประกัน กรณีมีเหตุกาณ์การ Step-up แล้วแต่ NAV ใดที่สูงกว่า
ผู้ลงทุนที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมกองทุน ได้ที่
หรือที่ปรึกษาทางการเงินของท่าน หรือ ttb Investment Line โทร. 1428 กด # 4 ทุกวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 9:00 – 17:30 น. (ยกเว้นวันหยุดธนาคาร)
หมายเหตุ :
1/ ที่มา KAsset 30 เม.ย. 2024
2/ ที่มา Amundi 31 ธ.ค. 2023
3/ ที่มา Amundi 31 ธ.ค. 2022
4/ ที่มา IMF, World Economic Outlook, เม.ย. 2024
คำเตือน : การลงทุนในหน่วยลงทุนมิใช่การฝากเงิน และมีความเสี่ยงของการลงทุน / ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต/ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน / กองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศและไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนหรืออาจได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ / ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลในหนังสือชี้ชวน โดยเฉพาะนโยบายการลงทุน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุนก่อนตัดสินใจลงทุน / ผู้ลงทุนมีความจำเป็นในการขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ประกอบธุรกิจก่อนทำการลงทุน /กองทุนมีการประกันเงินลงทุน โดยผู้ลงทุนจะต้องถือหน่วยลงทุนจนครบอายุโครงการ ประมาณ 5 ปี 2 เดือน หรือตามเงื่อนไขที่กำหนด จึงจะได้รับเงินลงทุนคืนตามเงื่อนไขในการรับประกัน และตามความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ประกัน/ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับเงินต้นคืนเต็มจำนวนตามที่ได้รับสิทธิประกัน หากผู้ประกันเงินทุนไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดในสัญญาประกันหรือยกเลิกสัญญาประกัน/ผู้ประกันอาจยกเลิกสิทธิการประกัน ในกรณีที่กองทุนมีการเปลี่ยนแปลงผู้รับมอบหมายงานด้านการจัดการลงทุน (Outsourced Fund Manager) หรือเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขนโยบายการลงทุนซึ่งส่งผลกระทบทางลบต่อการจัดการลงทุนของผู้รับมอบหมายงานด้านการจัดการลงทุน (Outsourced Fund Manager) โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากผู้ประกัน หรือ กองทุนเข้าเงื่อนไขในการเลิกกองทุนตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด เป็นเหตุให้กองทุนต้องเลิกโครงการก่อนครบกำหนดอายุโครงการ หรือ มีการเปลี่ยนแปลงของกฎหมายหรือข้อบังคับใดๆ ที่ใช้บังคับในประเทศฝรั่งเศสและ/หรือประเทศไทย ที่ส่งผลกระทบทำให้การจ่ายเงินประกันเป็นการกระทำที่ขัดต่อกฎหมายหรือข้อบังคับดังกล่าว/ผู้ประกันอาจเปลี่ยนแปลงจำนวนเงินที่ประกัน ในกรณีที่เกิดการเปลี่ยนแปลงของกฎหมายหรือข้อบังคับใดๆที่ส่งผลกระทบทางลบต่อผลการดำเนินงานของกองทุนต่างประเทศที่กองทุนไปลงทุน/กองทุนมีนโยบายที่จะลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนต่างประเทศ ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงภายในประเทศที่กองทุนลงทุนอาจส่งผลกระทบต่อมูลค่าหน่วยลงทุนของกองทุนได้ รวมถึงได้รับเงินค่าขายคืนหน่วยลงทุนล่าช้ากว่าระยะเวลาที่กำหนดไว้ในหนังสือชี้ชวน/การแสดงความเห็นต่างๆที่ปรากฎอยู่ในเอกสารฉบับนี้ได้จัดทำบนพื้นฐานจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้ เพื่อเป็นการเผยแพร่ความรู้และให้ความเห็นตามหลักวิชาการเท่านั้น โดยไม่ได้มุ่งหมายให้ถือเป็นการชักชวนหรือชี้ให้ซื้อ และ/หรือขายผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุนประเภทต่างๆ ตามที่ปรากฎในเอกสารฉบับนี้ทั้งนี้ทีมงานไม่อาจยืนยันและรับรองความถูกต้องของข้อมูลดังกล่าวข้างต้นได้ และไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม ทีมงานไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายในรายได้หรือผลประโยชน์ใดๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อมที่เกิดขึ้นจากการนำข้อมูล ข้อความ ความเห็น และ/หรือบทสรุปต่างๆ ที่ปรากฎในเอกสารฉบับนี้ไปใช้ไม่ว่ากรณีใดๆ