external-popup-close

คุณกำลังออกจากเว็บไซต์ ทีทีบี
เพื่อเข้าสู่

https://www.ttbbank.com/

ตกลง

โค้งสุดท้ายปลายปี 67 ลดหย่อนภาษีอย่างไรให้คุ้มค่า

20 พ.ย. 2567

  • 3 วิธี วางแผนลดหย่อนภาษีปี 67 มือใหม่ก็จัดการภาษีได้ ไม่ใช่เรื่องยาก
  • ทีทีบี อี แท็กซ์ เซฟเวอร์ 10/4 ได้ลดหย่อนภาษี พร้อมรับความคุ้มครองชีวิต
  • รับคืนคุ้มสูงสุดถึง 5 เด้ง! สิทธิพิเศษที่รู้ใจลูกค้าบัญชีเงินเดือน ทีทีบี

ใกล้สิ้นปีแบบนี้ เชื่อว่าชาวมนุษย์เงินเดือนคงเริ่มมองหาวิธีจัดการเรื่องภาษีกันบ้างแล้ว เพราะการวางแผนลดหย่อนภาษีเปรียบเสมือนกุญแจสำคัญ ที่จะช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าของเรา การทำความเข้าใจและเลือกหาตัวช่วยในการลดหย่อนภาษี พร้อมใช้สิทธิประโยชน์ที่มีให้คุ้มค่า จึงเป็นเรื่องที่เราไม่ควรพลาด วันนี้ ทีทีบี จึงมี 3 วิธีง่าย ๆ ในการวางแผนลดหย่อนภาษีปี 2567 มาฝากเพื่อน ๆ พนักงานเงินเดือนกัน


3 วิธี วางแผนลดหย่อนภาษีปี 67 ฉบับมนุษย์เงินเดือน

เมื่อพูดถึงเรื่องการจัดการภาษี มนุษย์เงินเดือนบางท่านอาจจะเริ่มปวดหัว แต่ความจริงแล้วการจัดการภาษีนั้นไม่ใช่เรื่องยากเลย และเป็นเรื่องที่มนุษย์เงินเดือนทุกคนจะต้องเจอในทุกปี ดังนั้นการทำความเข้าใจกับวิธีการวางแผนลดหย่อนภาษี และอัพเดทข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่จะมาช่วยลดหย่อนภาษีของเราจึงสำคัญ มาเตรียมตัวลดหย่อนภาษีปี 67 ไปกับเราได้เลย

3 วิธี วางแผนลดหย่อนภาษีปี 67 ฉบับมนุษย์เงินเดือน

1. ประเมินเงินได้ทั้งปี เพื่อคำนวณภาษี
ก่อนจะเริ่มการลดหย่อนภาษี เราต้องประเมินเงินได้เพื่อลองคำนวณภาษีก่อน โดยสามารถทำได้ดังนี้

รายได้ทั้งปี – ค่าใช้จ่ายตามมาตรา 40(1) - ค่าลดหย่อน = เงินได้สุทธิ

ตัวอย่างเช่น หากคุณมีรายได้ต่อเดือน 50,000 บาท รวมรายได้ทั้งปีจะเท่ากับ 600,000 บาท ซึ่งเราสามารถหักค่าใช้จ่ายตามมาตรา 40(1) ได้ 50% ของรายได้ทั้งปี (แต่ไม่เกิน 100,000 บาท) ซึ่งในกรณีนี้จะได้ 100,000 บาท เมื่อนำไปหักค่าลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท และลดหย่อนประกันสังคมอีก 9,000 บาท จะคิดเป็นเงินได้สุทธิ = 431,000 บาท

2. เช็กสิทธิในการลดหย่อนภาษีที่เรามี
โดยสิทธิในการลดหย่อนภาษี สามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่

  • สิทธิลดหย่อนภาษีส่วนตัวและครอบครัว เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่จะช่วยให้เราเสียภาษีน้อยลง ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายเรื่องบ้าน, เรื่องบุตร, การเลี้ยงดูบิดา-มารดา ฯลฯ
  • สิทธิลดหย่อนจากการบริจาค หรือเพื่อการศึกษา ได้ทั้งทำบุญ และได้ลดหย่อนภาษีไปพร้อมกัน โดยการบริจาคในบางประเภทสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า แต่ไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าใช้จ่าย และค่าลดหย่อนอื่น ๆ
  • สิทธิลดหย่อนเพื่อการออมและการลงทุน เตรียมพร้อมเพื่ออนาคตทางการเงิน และยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย เช่น กองทุน กบข., กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, SSF, RMF, ThaiESG, ประกันชีวิต, ประกันสุขภาพ ฯลฯ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ไม่ควรมองข้าม เพราะนอกจากจะได้ลดหย่อนภาษีแล้ว ยังเป็นการสร้างความมั่นคงให้กับอนาคตตัวเองอีกด้วย

นอกจากที่กล่าวมาแล้ว ในแต่ละปีอาจจะมีสิทธิการลดหย่อนภาษีเพิ่มเติม เพื่อส่งเสริมการออมและการลงทุน หรือกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ เช่น โครงการ “Easy E-Receipt” ที่สามารถใช้ลดหย่อนได้สูงสุด 50,000 บาท โดยมีเงื่อนไขตามที่ภาครัฐกำหนด

3. วางแผนการออมและการลงทุน เพื่อใช้ในการลดหย่อนภาษี
เมื่อทราบถึงวิธีการประเมินเงินได้ และสิทธิการลดหย่อนภาษีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราก็จะมาดูกันว่าผลิตภัณฑ์ไหนที่สามารถช่วยให้เราลดหย่อนภาษีได้อย่างคุ้มค่า หรือผลิตภัณฑ์ไหนที่ตอบโจทย์ความต้องการของเราได้มากที่สุด ทีทีบี จึงอยากแนะนำตัวช่วยในการลดหย่อนภาษีดี ๆ ที่จะมาตอบโจทย์ลูกค้าบัญชีเงินเดือน ทีทีบี นอกจากจะได้ลดหย่อนภาษีแล้ว ยังได้รับความคุ้มครองชีวิต และรับคืนคุ้มสูงสุดถึง 5 เด้ง!

ลดหย่อนภาษีปีนี้ ได้คืนคุ้ม

เด้งที่ 1: ลดหย่อนภาษีพร้อมคุ้มครองชีวิตด้วย ประกันชีวิตสะสมทรัพย์ทีทีบี อี แท็กซ์ เซฟเวอร์ 10/4
จ่ายเบี้ยฯ สั้นเพียง 4 ปี คุ้มครองชีวิตตลอดสัญญา 10 ปี สามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาท ต่อปี (เป็นไปตามเงื่อนไขของกรมสรรพากร) สมัครง่ายในแอป ttb touch อนุมัติฯ รับกรมธรรม์อิเล็กทรอนิกส์ทันที พิเศษ! ลูกค้าบัญชีเงินเดือน ทีทีบี รับฟรีของสมนาคุณมูลค่าสูงสุดถึง 48,900 บาท* เมื่อซื้อประกันชีวิต ทีทีบี อี แท็กซ์ เซฟเวอร์ 10/4 ผ่านแอป ttb touch ตั้งแต่ 20,000 บาทขึ้นไป ตั้งแต่ 27 กันยายน 2567 – 31 ธันวาคม 2567 รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก

เด้งที่ 2: วางแผนอนาคตอุ่นใจด้วย ประกันมะเร็ง ttb all stage cancer
ตัวช่วยที่จะทำให้คุณพร้อมรับมือกับค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด ด้วยความคุ้มครองสูงสุด 1.5 ล้านบาท ครอบคลุมมะเร็งทุกชนิด ทุกระยะ โดยไม่ต้องตรวจสุขภาพ เพียงตอบคำถามสั้นๆ ก็รับความคุ้มครองได้ทันที พร้อมสิทธิประโยชน์ในการนำไปลดหย่อนภาษี

พิเศษ! เมื่อซื้อความคุ้มครองเป็นคู่ภายในเดือนเดียวกัน พร้อมสมัครชำระค่าเบี้ยประกันอัตโนมัติสำหรับปีถัดไป คุ้มค่า อุ่นใจกว่า รับเงินคืน 25% ของค่าเบี้ยประกันมะเร็งในปีแรก** ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2567 – 31 ธันวาคม 2567

  • ประกันชีวิตสะสมทรัพย์ ทีทีบี อี แท็กซ์ เซฟเวอร์ 10/4 ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม คลิก
  • ประกันมะเร็ง รับเงินก้อนทุกระยะ (ttb all stage cancer) ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม คลิก

เด้งที่ 3: ซื้อกองทุนลดหย่อนภาษี มีเงินคืน
กองทุนลดหย่อนภาษีอย่าง SSF (Super Savings Fund) หรือ RMF (Retirement Mutual Fund) และ กองทุนไทยเพื่อความยั่งยืน หรือ Thailand ESG Fund (ThaiESG) คือ กองทุนที่ให้สิทธิประโยชน์แก่ผู้ลงทุนในการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะนอกจากจะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากกองทุนแล้ว ยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย โดย SSF สามารถลดหย่อนได้สูงสุด 30% ของเงินได้ แต่ไม่เกิน 200,000 บาท และ RMF สามารถลดหย่อนได้สูงสุด 30% ของเงินได้ แต่ไม่เกิน 500,000 บาท นอกจากนี้ ThaiESG ก็สามารถลดหย่อนภาษีได้เช่นกัน สูงสุด 30% ของเงินได้ แต่ไม่เกิน 300,000 บาท โดยต้องลงทุนไม่น้อยกว่า 5 ปี นับตั้งแต่วันที่เริ่มลงทุน

ทีทีบี ได้คัดสรรกองทุน SSF หรือ RMF และ ThaiESG หลากหลายรูปแบบ พร้อมจัดระดับความเสี่ยงที่เหมาะสมในแต่ละประเภท เพื่อให้การลงทุนของคุณสะดวกและมั่นคงยิ่งขึ้น ทุกการลงทุน 50,000 บาท กับ บลจ. รับเงินลงทุนเพิ่ม 100 บาท ในกองทุนรวมตลาดเงิน (Money Market) ของ บลจ. ที่ลงทุนตลอดระยะเวลาโครงการ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน – 30 ธันวาคม 2567 เมื่อดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้

  • ซื้อหรือสับเปลี่ยนเข้ากองทุน RMF/SSF ของ บลจ. 5 แห่งที่ร่วมรายการ
  • โอนกองทุน LTF จาก บลจ. อื่นเข้ากองทุน LTF ของ บลจ. 4 แห่งที่ร่วมรายการ (ยกเว้น ONEAM)
  • ซื้อหรือสับเปลี่ยนเข้ากองทุน Thai ESG ของ บลจ. EASTSPRING และ UOBAM

ซื้อกองทุนเพื่อลดหย่อนภาษี คลิกเลย

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะของสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนในกองทุนรวมก่อนตัดสินใจลงทุน เงื่อนไขเป็นไปตามกรมสรรพากรกำหนด

เด้งที่ 4: คุ้มกว่าที่เคยเมื่อซื้อประกันลดหย่อนภาษี คู่กับกองทุนลดหย่อนภาษี
วางแผนทางการเงินได้คุ้มค่ามากยิ่งขึ้น สำหรับชาวมนุษย์เงินเดือนที่กำลังมองหาโอกาสในการลงทุนควบคู่ไปกับการวางแผนความคุ้มครองชีวิต เมื่อซื้อกองทุน SSF หรือ RMF, ttb smart port SSF และ Thai ESG ที่มีมูลค่าหน่วยลงทุนสะสมตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป พร้อมกับซื้อผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่ใช้สิทธิขอลดหย่อนภาษีได้ ของบริษัท พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) สามารถรับรับเงินคืนเพิ่ม 1% ของค่าเบี้ยประกัน*** โดยไม่จำกัดยอดขั้นต่ำของเบี้ยประกัน พร้อมรับสิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษีจากทั้งการลงทุนในกองทุนและการทำประกันชีวิต ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2567 – 31 ธันวาคม 2567 สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ทีทีบี ทุกสาขาทั่วประเทศ

เด้งที่ 5: ซื้อประกันคู่กองทุน ลดหย่อนภาษีได้มากกว่า

ซื้อประกันคู่กองทุน ลดหย่อนภาษีได้มากกว่า

จากเด้งที่ 4 การซื้อประกันคู่กับกองทุน นอกจากจะได้รับเงินคืนเพิ่ม 1% ของค่าเบี้ยประกัน*** แล้ว ยังสามารถลดหย่อนภาษีได้มากกว่าที่คุณคิดอีกด้วย หากมีการวางแผนภาษีมาเป็นอย่างดี ในกลุ่มของประกันจะสามารถลดหย่อนได้สูงสุด 100,000 บาท และในกลุ่มของกองทุนจะลดหย่อนได้สูงสุด 500,000 บาท นอกจากนี้ยังมีกองทุน Thai ESG ที่ลดหย่อนได้สูงสุด 300,000 บาทอีกด้วย เรียกได้ว่าหากมีการวางแผนลดหย่อนภาษีมาเป็นอย่างดี ก็สามารถใช้สิทธิในการลดหย่อนได้มากกว่าที่คุณคิดแน่นอน

ตัวอย่าง การลดหย่อนภาษีกลุ่มประกัน และกลุ่มลงทุน

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะของสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนในกองทุนรวมก่อนตัดสินใจลงทุน เงื่อนไขเป็นไปตามกรมสรรพากรกำหนด

3 วิธี วางแผนลดหย่อนภาษีปี 67 ฉบับมนุษย์เงินเดือน

หมายเหตุ:

  • ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้น ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง
  • ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตเป็นของบริษัท พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) เป็นเพียงนายหน้าประกันชีวิต และรับผิดชอบในฐานะนายหน้าประกันชีวิตเท่านั้น

*เงื่อนไขโปรโมชัน รับฟรี ของสมนาคุณ เมื่อซื้อผลิตภัณฑ์ประกันสะสมทรัพย์ออนไลน์ ทีทีบี อี แท็กซ์ เซฟเวอร์ 10/4 ผ่านแอป ทีทีบี ทัช : สำหรับลูกค้าที่ซื้อผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตสะสมทรัพย์ ทีทีบี อี แท็กซ์ เซฟเวอร์ 10/4 โดยชำระค่าเบี้ยประกันชีวิตแบบรายปี ปีแรก ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 – 31 ธันวาคม 2567

และมียอดชำระค่าเบี้ยประกันชีวิต ผ่านแอป ทีทีบี ทัช ตั้งแต่ 20,000 บาทขึ้นไป โดยกรมธรรม์ต้องได้รับการอนุมัติภาย ในวันที่ 31 ธันวาคม 2567 และพ้นระยะเวลาใช้สิทธิ์ยกเลิกกรมธรรม์ (Free-look period) และมีผลบังคับจนถึงวันที่ธนาคารจัดส่งของสมนาคุณ / ลูกค้าที่เข้าเงื่อนไขจะได้รับฟรีของสมนาคุณ ตามรายละเอียดด้านล่าง 1 สิทธิ์ต่อกรมธรรม์ ไม่สามารถรวมค่าเบี้ยประกันชีวิตหลาย ๆ กรมธรรม์เพื่อรับของสมนาคุณได้

**เงื่อนไขโปรโมชันรับเงินคืนเข้าบัญชีเงินฝาก 25% ของค่าเบี้ยประกันมะเร็ง รายปี ปีแรก

  1. เมื่อสมัครผลิตภัณฑ์ประกันมะเร็ง รับเงินก้อนทุกระยะ พร้อม ทีทีบี อี แท็กซ์ เซฟเวอร์ 10/4 ผ่านแอป ทีทีบี ทัช ภายในเดือนเดียวกัน และสมัครบริการหักชำระค่าเบี้ยประกัน อัตโนมัติผ่านบัตรเครดิต (recurring) หรือ บริการหักบัญชีเงินฝากอัตโนมัติ (direct debit) พร้อมชำระค่าเบี้ยประกันแบบรายปี ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2567 – 31 ธันวาคม 2567 โดยกรมธรรม์ต้องได้รับการอนุมัติภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2567 และพ้นระยะเวลาใช้สิทธิยกเลิกกรมธรรม์ (Free-look period) และกรมธรรม์ยังมีผลบังคับจนถึงวันที่รับเงินคืน จะได้รับเงินคืนเข้าบัญชีเงินฝาก (Cash Back) 25% ของค่าเบี้ยประกันประกันมะเร็ง รับเงินก้อนทุกระยะ ปีแรก
  2. สำหรับการรับเงินคืนเข้าบัญชีเงินฝาก (Cash Back) ธนาคารขอสงวนสิทธิ์ในการโอนเงินภายใน 60 วัน นับจากวันที่กรมธรรม์ได้รับการอนุมัติ เข้าบัญชี ทีทีบี โนฟิกซ์ บัญชี ทีทีบี ออลล์ฟรี หรือบัญชีออมทรัพย์อื่น ๆ ของทีทีบี ของผู้เอาประกันภัยที่มีสถานะปกติเท่านั้น กรณีผู้เอาประกันภัยมีอายุต่ำกว่า 15 ปี ธนาคารจะดำเนินการโอนเงินคืนเข้าบัญชีเงินฝากของผู้ชำระค่าเบี้ยประกันชีวิต หากผู้เอาประกันภัยหรือผู้ชำระค่าเบี้ยประกันชีวิตไม่มีบัญชีเงินฝากทีทีบีให้ถือว่าสละสิทธิ์ในการรับเงินคืน
  3. รายการส่งเสริมการขายนี้ไม่สามารถใช้ร่วมกับรายการส่งเสริมการขายอื่น ๆ ของธนาคาร
  4. ธนาคารขอสงวนสิทธิ์ในการเรียกคืนเงินและผลประโยชน์อื่น ๆ ที่จ่ายไปแล้ว ในกรณีมีการยกเลิกกรมธรรม์ หรือยกเลิกหนังสือรับรองการประกันชีวิต ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม อันเป็นเหตุให้ต้องคืนค่าเบี้ยประกันภัยทั้งหมดให้แก่ผู้เอาประกันภัย กรณีมีข้อพิพาทให้ถือคำตัดสินของธนาคารเป็นที่สิ้นสุด
  5. สามารถสอบถามสถานะของการคืนเงิน (Cash Back) ได้ที่ โทร. 1428 ภายในระยะเวลา 180 วัน หลังจากกรมธรรม์ได้รับการอนุมัติ หากพ้นกำหนดดังกล่าวแล้วจะถือว่าสละสิทธิในการรับเงินคืน
  6. ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไขและข้อยกเว้นในกรมธรรม์ ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง
  7. ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตเป็นของบริษัท พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) เป็นเพียงนายหน้าประกันชีวิตและรับผิดชอบในฐานะนายหน้าเท่านั้น
  8. ระยะเวลาโปรโมชัน : 1 พฤศจิกายน 2567 – 31 ธันวาคม 2567

***เงื่อนไขรับเงินคืนเพิ่ม 1% ของค่าเบี้ยประกัน เมื่อซื้อประกันลดหย่อนภาษี คู่กับกองทุนลดหย่อนภาษี:

  1. สำหรับลูกค้าที่ซื้อกองทุน SSF หรือ RMF หรือ ttb smart port SSF หรือ Thai ESG มูลค่าหน่วยลงทุนสะสมตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป / เดือน และซื้อผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่ใช้สิทธิ์ขอลดหย่อนภาษีได้ ของบริษัท พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ที่ซื้อผ่านธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) โดยชำระค่าเบี้ยประกันชีวิตแบบรายปี และไม่กำหนดยอดขั้นต่ำ ภายในเดือนเดียวกับที่ซื้อกองทุน ยกเว้นประกันชีวิตควบการลงทุน (ยูนิตลิงค์) ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 67 – 31 ธ.ค. 67 โดยกรมธรรม์ต้องได้รับการอนุมัติภายในวันที่ 31 ธ.ค. 67 และพ้นระยะเวลาใช้สิทธิยกเลิกกรมธรรม์ (Free-look) และกรมธรรม์มีผลบังคับอยู่ในวันที่จัดส่งกรมธรรม์
  2. ลูกค้าจะต้องมีบัญชีผู้ถือหน่วยลงทุนผ่าน ttb และมียอดเงินลงทุน (AUM) ในกองทุน SSF / RMF / ttb smart port SSF หรือ Thai ESG สะสมรวมกันไม่น้อยกว่า 10,000 บาท / เดือน ภายในเดือนเดียวกับที่ซื้อผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต
  3. ลูกค้ามีสิทธิ์ได้รับเงินคืนเพิ่ม 1% ของค่าเบี้ยประกันชีวิตรายปี ปีแรก ของผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตตามที่กำหนด โดยจะได้รับเงินคืนดังกล่าวภายในวันที่ 31 มกราคม 2568 ทั้งนี้ ธนาคารขอสงวนสิทธิ์ในการโอนเงินเข้าบัญชี ทีทีบี โนฟิกซ์ บัญชี ทีทีบี ออลล์ฟรี หรือบัญชีออมทรัพย์อื่น ๆ ของทีทีบี ของผู้เอาประกันชีวิตที่มีสถานะปกติเท่านั้น กรณีผู้เอาประกันชีวิตมีอายุต่ำกว่า 15 ปี ธนาคารจะดำเนินการโอนเงินคืนเข้าบัญชีของผู้ชำระเบี้ยประกันชีวิต หากผู้เอาประกันชีวิตไม่มีบัญชีออมทรัพย์ ทีทีบี ให้ถือว่าลูกค้าสละสิทธิ์ในการรับเงินคืน ทั้งนี้ รายละเอียดเงื่อนไขการใช้บริการบัญชีออมทรัพย์ดังกล่าวเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด
  4. รายการส่งเสริมการขายนี้สามารถใช้ร่วมกับรายการส่งเสริมการขายประกันชีวิตอื่น ๆ ได้
  5. ธนาคารขอสงวนสิทธิ์ในการเรียกคืนเงินและผลประโยชน์อื่นๆ ที่จ่ายไปแล้ว ในกรณีมีการยกเลิกกรมธรรม์ ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม อันเป็นเหตุให้บริษัทประกันชีวิตฯ ต้องคืนเบี้ยประกันชีวิตทั้งหมดให้แก่ผู้เอาประกันชีวิต
  6. เงื่อนไขโปรโมชันเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด และอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม โดยหากมีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขและรายละเอียดอื่น ๆ ธนาคารจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์ธนาคาร ในกรณีมีข้อพิพาท คำตัดสินของธนาคารถือเป็นเด็ดขาดและที่สิ้นสุด
  7. กรณีสอบถามผลการจัดส่งกรมธรรม์แผนความคุ้มครอง และสอบถามผลการรับเงินคืนเข้าบัญชี (Cash back) ตามโปรโมชันผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต ลูกค้าสามารถสอบถามได้ที่ ttb contact center 1428 ภายในระยะเวลา 180 วันหลังจากกรมธรรม์ได้รับการอนุมัติ หากพ้นกำหนดดังกล่าวแล้วจะถือว่าลูกค้าสละสิทธิในการรับเงินคืน
  8. ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้น ก่อนตัดสินใจทำประกันชีวิตทุกครั้ง
  9. ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตเป็นของบริษัท พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) เป็นเพียงนายหน้าประกันชีวิต และรับผิดชอบในฐานะนายหน้าเท่านั้น
  10. ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน / ผลการดำเนินงานในอดีต ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ใน ตลาดทุนมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต / การลงทุนในหน่วยลงทุนมิใช่การฝากเงิน และมีความเสี่ยงของการลงทุน / กองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศและไม่ได้ป้องกันความ เสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรืออาจได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ / ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลในหนังสือชี้ชวน โดยเฉพาะนโยบายการลงทุน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุน รวมทั้งศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุน กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ก่อนตัดสินใจลงทุน / ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจและปฏิบัติตามเงื่อนไขการลงทุน หากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการลงทุน ผู้ลงทุนจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี และต้องคืนสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เคยได้รับพร้อมเงินเพิ่ม รวมทั้งเสียภาษีสำหรับกำไรจากการขายคืนหน่วยลงทุน
  11. รายการส่งเสริมการขายนี้ ไม่สามารถแลก เปลี่ยน ทอน เป็นเงินสดหรือโอนสิทธิ์ให้ผู้อื่นได้
  12. เบี้ยประกันชีวิตสามารถนำมาใช้เป็นสิทธิประโยชน์ทางภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท ต่อปี เบี้ยประกันภัยในส่วนของความคุ้มครองสุขภาพ สามารถนำมาใช้เป็นสิทธิประโยชน์ทางภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 25,000 บาท ต่อปี และเมื่อรวมกับเบี้ยประกันชีวิตที่ใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีได้รวมกันต้องไม่เกิน 100,000 บาท ต่อปี ทั้งนี้ เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกรมสรรพากร
  13. เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ ใช้เป็นสิทธิประโยชน์ทางภาษีได้ในอัตราร้อยละ 15 ของเงินได้พึงประเมินที่ได้รับ ซึ่งต้องเสียภาษีเงินได้ในแต่ละปี สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท และเมื่อรวมกับเงินสะสมเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือเงินสะสมเข้ากองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือเงินสะสมเข้ากองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน แล้วแต่กรณี หรือเงินค่าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือเงินสะสมเข้ากองทุนการออมแห่งชาติ ตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนการออมแห่งชาติ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท ในปีภาษีเดียวกัน ทั้งนี้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกรมสรรพากร
  14. เงื่อนไขการลดหย่อนภาษีเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกรมสรรพากร
  15. สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ ttb contact center 1428 หรือศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ttbbank.com

เงื่อนไขโปรโมชันเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด

วางแผนภาษี ที่มา : setinvestnow