วันแม่ปีนี้เตรียมตัวให้พร้อม! ก่อนพาคุณแม่และครอบครัวเที่ยว ชวนทุกคนมาปักหมุดสถานที่ท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ กับ 5 สถานที่ห้ามพลาด! ทั้งแลนด์มาร์กและไฮไลต์สำคัญที่อยู่คู่เมืองสมุทรปราการ เพื่อใช้ช่วงเวลาดี ๆ กับคุณแม่และทุกคนในครอบครัวให้เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขด้วยกัน จะที่ไหนบ้าง มาอัปเดตไปพร้อมกัน!
วัดอโศการาม
วัดอโศการาม เดิมก่อนเรียกว่า “นาแม่ขาว” เป็นวัดสีขาวที่มีพระเจดีย์หมู่รวม 13 องค์ ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 53 ไร่ ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2497 เป็นวัดที่สวย ดูสะอาดตา ร่มรื่น และดูกว้างขวางถูกล้อมรอบด้วยต้นไม้นานาชนิด และติดป่าชายเลน ติดทะเล ภายในพระธาตุมีหลวงปู่แหวน หลวงปู่ชา พระพุทธชินราชจำลอง ให้ผู้คนเข้ามาไหว้ สักการะ ถือเป็นหนึ่งในวัดของจังหวัดสมุทรปราการที่สายมู สายถ่ายรูปห้ามพลาดเด็ดขาด เปิดให้เข้าสักการะทุกวัน เวลา 06:00 - 18:00 น.
ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง
ใครอยากแวะช้อปปิ้งของกินต้องไม่พลาดไปที่นี่ ตลาดน้ำสมุทรปราการที่อุดมไปด้วยของกิน! มา “ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง” แห่งนี้ไม่ต้องกลัวร้อน เพราะตลอดทางเดินยาวกว่า 2 กม. มีซุ้มกันแดดให้ ของขายมีตั้งแต่ของกินเล่นอย่าง ทอดมัน แจงรอน หมึกไข่เสียบไม้ ฯลฯ อาหารจานหลักก็มีให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ก๋วยเตี๋ยว ก๋วยจั๊บ กระเพาะปลา อย่าลืมเผื่อพื้นที่ในกระเพาะสำหรับของหวานและผลไม้ เช่น ขนมถ้วย ขนมจาก มะพร้าวอ่อน ทำท้องว่างก่อนไป แล้วกินแค่อย่างละนิดเป็นดีที่สุด จะได้ลองชิมได้ทุกอย่าง
เปิดเวลา 7:00 - 16:00 น.
หอชมเมืองสมุทรปราการ
อุทยานการเรียนรู้ และหอชมเมืองสมุทรปราการ แลนด์มาร์กใหม่ของเมืองปากน้ำที่ออกแบบให้เป็นป้อมปราการ สามารถมองเห็นทิวทัศน์โดยรอบ 360 องศา ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่บางกระเจ้า ปากอ่าวไทย ป้อมผีเสื้อสมุทร หรือในวันที่อากาศดีสามารถมองเห็นถึงเกาะสีชัง จ.ชลบุรี ซึ่งนอกจากจะเป็นจุดชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาที่สวยงาม พื้นที่ดังกล่าวยังจัดแสดงนิทรรศการชุด “ร้อยเป็นเรื่องเมืองปากน้ำ” นำเสนอเอกลักษณ์ ประวัติศาสตร์ วิถีชีวิต และเรื่องราวของจังหวัดสมุทรปราการ ที่สามารถสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้ชมแบบ 4D เสมือนจริง
โดยพื้นที่ให้บริการแบ่งเป็น การเข้าชมนิทรรศการ “ร้อยเป็นเรื่องเมืองปากน้ำ” เปิดให้เข้าชมทุกวันอังคาร – เสาร์ วันละ 3 รอบ รอบละ 25 ท่าน ในเวลา 10:00 / 13:30 / 15:00 น. เพียงลงทะเบียนหน้างานที่จุดประชาสัมพันธ์ชั้น 1 สำหรับจุดชมวิวชั้น 23 และชั้น 25 เปิดให้เข้าชมทุกวันอังคาร – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 10:00 – 17:00 น. ทุกพื้นที่เข้าชมฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
พิพิธภัณฑ์ครุฑ โดย ทีเอ็มบีธนชาต
พิพิธภัณฑ์ครุฑแห่งเดียวในประเทศไทยและอาเซียน ที่รวบรวมครุฑอันมีเอกลักษณ์เฉพาะองค์จากทุกภาคของไทย มีความโดดเด่นด้วยองค์ครุฑไม้ที่แกะสลักอย่างวิจิตรงดงาม สะท้อนถึงความประณีตของศิลปิน โดยอัญเชิญตราที่ประดิษฐาน ณ ธนาคารสาขาต่าง ๆ มากกว่า 150 องค์ มาไว้ด้วยกัน ภายในพิพิธภัณฑ์ได้จัดแสดงเรื่องราวประวัติความเป็นมาของพญาครุฑ ผ่าน 6 โซนนิทรรศการ ที่นำเสนอเรื่องราวความเป็นมาของพญาครุฑอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ ทั้งแสง สี เสียง ในรูปแบบทั้งแอนิเมชันและมัลติมีเดีย ทำให้คนรุ่นใหม่ที่เข้ามาเยี่ยมชมจะได้เรียนรู้เรื่องราวของ “พญาครุฑ” สัตว์หิมพานต์ สัญลักษณ์แห่งความกตัญญู ความซื่อสัตย์ และความดีงาม และเข้าถึงความเป็นไทยได้อย่างง่าย ๆ และในเดือนสิงหาคมนี้ทางพิพิธภัณฑ์ครุฑได้จัดเตรียมของขวัญพิเศษเพื่อมอบให้คู่แม่ลูกที่มาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ครุฑ (ของมีจำนวนจำกัด)
เปิดให้เข้าชม ทุกวันศุกร์-เสาร์ วันละ 3 รอบ ในเวลา 10:00 / 13:00 / 15:00 น. พร้อมผู้นำชม โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย พร้อมมีบริการจัดรถตู้บริการรับ-ส่งจากสถานีรถไฟฟ้า บีทีเอส สถานีเคหะสมุทรปราการ ถึง พิพิธภัณฑ์ครุฑ ฟรีเช่นกัน! เพียงแจ้งความประสงค์ผ่านระบบการจองล่วงหน้าที่ https://www.ttbfoundation.org/th/garudamuseum/
เมืองโบราณ
ปิดท้ายกันที่เมืองโบราณ พิพิธภัณฑ์เอกชนบนพื้นที่กว่า 800 ไร่ สร้างขึ้นเพื่อจัดแสดง 120 สถาปัตยกรรมไทย ที่โดดเด่นในแต่ละภูมิภาค เพียงเดินทางมาที่เดียวก็เที่ยวครบทุกแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ทั่วประเทศ อาทิ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท กรุงเทพฯ, คุ้มขุนแผน จ.อยุธยา, เจดีย์เจ็ดยอด จ.เชียงใหม่, วิหารวัดภูมินทร์ จ.น่าน, ปราสาทหินพนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์, พระธาตุเชิงชุม จ.สกลนคร, พระบรมธาตุไชยา จ.สุราษฎร์ธานี, เทวรูปปัลลวะ จ.นครศรีธรรมราช เป็นต้น
ซึ่งความสวยงามและเอกลักษณ์การถ่ายทอดผลงานอย่างประณีตของเมืองโบราณทำให้เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยเด็กเล็กอายุไม่เกิน 6 ขวบเข้าชมฟรี เด็กอายุตั้งแต่ 6-14 ปี ท่านละ 200 บาท และอายุ 14 ปีขึ้นไป ท่านละ 400 บาท สำหรับเด็กต่างชาติท่านละ 350 บาท และผู้ใหญ่ต่างชาติ 700 บาท โดยเปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่ 09:00 – 19:00 น.