การจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิตน่ากลัวอย่างไร ทำไมถึงควรเลี่ยง
เหตุผลหลักที่บัตรเครดิตมีตัวเลือกให้จ่ายขั้นต่ำก็เพื่อช่วยแบ่งเบายอดเงินก้อนใหญ่ที่ต้องชำระเมื่อรอบบิลบัตรเครดิตรายเดือนมาถึง หากเดือนนั้นมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นเยอะ เช่น ต้องซ่อมรถ ข้าวของพัง จ่ายค่ารักษาพยาบาล จองตั๋วคอนเสิร์ต รูดซื้อของชิ้นใหญ่ที่รอมานานจนเกือบเต็มวงเงินที่มีในบัตร เหล่านี้ล้วนเป็นเหตุผลให้หลายคนลังเลใจว่าควรเลือกจ่ายขั้นต่ำไปก่อนดีหรือไม่ เพื่อให้เดือนนี้สามารถจ่ายเงินเพื่อชำระค่าบัตรเครดิตได้น้อยลง
แม้ยอดเงินขั้นต่ำจะทำให้ดูเหมือนจ่ายได้น้อยลง ยอดหลักหมื่นเหลือหลักพันย่อมเย้ายวนใจแต่การจ่ายขั้นต่ำก็ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีเสมอไป เพราะเมื่อไหร่ที่จ่ายขั้นต่ำก็เท่ากับเรายอมให้ธนาคารคิดดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นรายวัน คือ ดอกเบี้ยจากยอดที่ใช้ไป และ ดอกเบี้ยจากยอดที่ยังค้างอยู่ ซึ่งจะสะสมเพิ่มพูนขึ้นทุกๆ วัน ตามสูตรคำนวณดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย คือ จำนวนเงินที่รูดบัตรคูณด้วยอัตราดอกเบี้ยต่อปีคูณจำนวนวันแล้วค่อยหารด้วย 365 ซึ่งเป็นจำนวนวันในปีนั้นๆ
เท่ากับว่า หากตัดสินใจจ่ายขั้นต่ำแล้วนั้นเท่ากับยอดเงินที่เราต้องจ่ายในท้ายที่สุดก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามวันเวลา นอกจากจะหมายถึงการยอมซื้อของในราคาที่แพงขึ้นแล้วยังส่งผลเสียต่อเครดิตและความน่าเชื่อถือทางการเงินซึ่งสำคัญมากเมื่อต้องขอสินเชื่อจากธนาคารการจ่ายขั้นต่ำเป็นหนึ่งสัญญาณบอกธนาคารว่าเราอาจไม่สามารถชำระเงินคืนได้ตามที่สัญญาไว้ทำให้ธนาคารต้องใช้เวลาพิจารณาให้สินเชื่อที่นานขึ้นกว่าเดิม
ใช้บัตรเครดิตอย่างไร ให้ไม่ต้องจ่ายขั้นต่ำ
แน่นอนว่าตัวเลือกจ่ายขั้นต่ำในการชำระบัตรเครดิตมีไว้เพื่อรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน หากเกิดเรื่องชะงักติดขัดทางการเงินจนไม่สามารถชำระค่าบัตรเครดิตคืนทั้งหมดได้ ซึ่งช่วยให้เจ้าของบัตรเลือกจ่ายคืนแค่ขั้นต่ำก่อนได้โดยไม่ผิดนัดชำระบัตรเครดิต แต่ถึงอย่างไรการชำระบัตรเครดิตเต็มจำนวนและตรงเวลาตามปกติก็เป็นวิธีที่ดีที่สุด ด้วยเคล็ดลับการใช้บัตรเครดิตให้ไม่ต้องจ่ายขั้นต่ำดังต่อไปนี้
ตั้งงบการใช้ จัดสรรงบให้ชัดเจน
สาเหตุที่หลายคนเลือกจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิตอาจเป็นเพราะรายจ่ายที่เกิดขึ้นในเดือนนั้นสูงเกินกว่าที่จะจ่ายไหว ซึ่งสูตรสำเร็จของการประหยัดเงินให้ได้ผลดีคือการตั้งงบการใช้จ่ายให้ชัดเจน ด้วยการแบ่งแยกว่าในแต่ละเดือนจะใช้บัตรเครดิตจ่ายค่าอะไรบ้าง เช่น ใช้บัตรเครดิตจ่ายค่าเบี้ยประกัน ค่าใช้จ่ายไม่คาดคิดอย่างค่าซ่อมรถ หรือ ค่ารักษาพยาบาล เพื่อให้แน่ใจว่าใช้บัตรเครดิตในเรื่องจำเป็นจริงๆ การมีงบตั้งไว้จึงถือเป็นสิ่งช่วยเตือนให้ยับยั้งชั่งใจไม่ให้รูดใช้เกินกว่าที่จะจ่ายบิลไหวนั่นเอง
หมั่นสังเกตยอดบิล
เมื่อรายการสรุปยอดบิลบัตรเครดิตมาถึงหลายคนอาจเลือกดูเฉพาะยอดรวมเท่านั้น และมองข้ามรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ไป ทำให้ไม่ทันได้สังเกตรายการรูดจ่ายแต่ละรายการที่เกิดขึ้นตลอดทั้งเดือน การอ่านใบแจ้งยอดบัตรเครดิตอย่างละเอียดทุกครั้งจึงสำคัญเพื่อให้แน่ใจว่าเราได้ทำรายการใช้จ่ายต่างๆ นี้จริง และคอยสัญญาณเตือนจากมิจฉาชีพเพื่อป้องกันระวังภัยบัตรเครดิตจากโจรกรรม หากมียอดใช้จ่ายผิดปกติ เช่น มีการตัดบัตรซ้ำซ้อน รายการตัดบัตรเหมือนกันซ้ำๆ ไม่รู้ว่าจ่ายอะไร หรือ การตัดบัตรที่ถูกยกเลิกไปเฉยๆ หากมีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นควรติดต่อธนาคารทันที ผ่านช่องทาง ทีทีบี คอนแทค เซ็นเตอร์ โทร 1428
มีเงินสำรองสำหรับจ่ายค่าบัตรเครดิต
การมีแผนสำรองเท่ากับการสร้างเบาะรองรับหากมีเหตุการณ์ที่เกินความควบคุมเกิดขึ้นมา จึงเป็นเหตุผลให้แม้จะมีบัตรเครดิตไว้ใช้ในยามจำเป็นก็ตาม แต่เงินสำรองฉุกเฉินก็ยังคงเป็นเรื่องที่มองข้ามไปไม่ได้ ยิ่งมีวงเงินในบัตรอยู่มากและคาดเดารายจ่ายไม่ได้ มีรายจ่ายเกิดขึ้นอยู่ตลอด หากเดือนนั้นจำเป็นต้องใช้บัตรเครดิตรูดจ่ายเต็มจำนวน ก็ควรมีเงินสำรองสำหรับรองรับยอดจ่ายบัตรเครดิตส่วนนี้เผื่อไว้เพื่อหลีกเลี่ยงการจ่ายขั้นต่ำในทีหลัง เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย แม้จะใช้บัตรเครดิตจนเกิดกว่างบที่ตั้งไว้ก็ยังเบาใจได้ว่าสามารถชำระคืนค่าบัตรเครดิตได้เต็มจำนวนและตรงเวลา
ตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นออกบ้าง
จริงอยู่ว่าบัตรเครดิตเป็นตัวช่วยที่ดีในยามจำเป็นต้องใช้ และมีเงื่อนไขให้ชำระคืนตรงเวลา ไม่งั้นก็อาจต้องเสียดอกเบี้ยเพิ่ม เท่ากับว่าแม้จะใช้จ่ายได้ตามต้องการแต่ก็จ่ายแพงกว่าเดิมเพราะดอกเบี้ยที่พ่วงที่ดี ยิ่งบัตรเครดิตเป็นตัวช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย ไม่ว่าจะไปไหนซื้ออะไรก็เลือกได้เลยว่าจะตัดบัตรหรือรูดบัตร แต่ก็ต้องระวังการพึ่งพาบัตรเครดิตมากเกินไป รอบคอบอยู่เสมอว่าเราผูกบัตรไว้กับแอปอะไรบ้าง เลือกผูกบัตรไว้กับแอปที่จำเป็นจริงๆ เท่านั้นเพื่อระวังตัวเองจากการจ่ายไม่ยั้งและเผลอใช้เงินตามใจตัวเองเกินไป
ใช้คะแนนสะสมให้เป็นประโยชน์
เมื่อใช้บัตรเครดิตไปนานๆ โดยเฉพาะบัตรเครดิตแบบสะสมคะแนน เช่น บัตรเครดิต ttb so fast ที่ทุก 10 บาทรับ 1 คะแนน
คะแนนสะสมที่เพิ่มพูนขึ้นเหล่านี้ก็สามารถนำไปใช้แลกซื้อเป็นส่วนลดหรือแลกเป็นของรางวัลได้ด้วย เช่น บัตรกำนัลร้านอาหาร หรือ แลกคะแนนสะสมเป็นเครดิตเงินคืนกลับเข้ากระเป๋า เพื่อช่วยลดยอดชำระที่จะต้องจ่ายในบิลๆ
นั้นได้น้อยลงตามเครดิตเงินคืนที่แลกคืนได้กลับมาจากคะแนนผ่านแอป ttb touch ด้วยวิธีการดังนี้
- จากหน้าหลัก ไปเมนู สิทธิประโยชน์ของฉัน คลิกที่เมนู เปลี่ยนคะแนนเป็นเงินคืน
- อ่านรายละเอียดและเงื่อนไข หากสนใจแลก กดแลกทันที
- เลือกบัตรเครดิตที่ต้องการแลกคะแนน และระบุจำนวนคะแนนที่ต้องการแลก จากนั้นกดถัดไป
- กดยืนยันการแลกเครดิตเงินคืน
- ทำรายการแลกคะแนนบัตรเครดิตเป็นเงินคืนสำเร็จ
ทั้งนี้หากต้องการสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์บัตรเครดิต ttb หรือสิทธิประโยชน์และโปรโมชันบัตรเครดิต สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ttb contact center 1428 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง