การซื้อรถมือสองเป็นทางเลือกที่ประหยัดและคุ้มค่า แต่ก็มาพร้อมความเสี่ยงที่อาจโดนหลอกขายได้ โดยเฉพาะสำหรับมือใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์ในการเลือกซื้อรถ การรู้จักวิธีเช็กประวัติรถมือสองและมีข้อมูลว่าซื้อรถมือสองต้องดูอะไรบ้าง จึงเป็นทักษะสำคัญที่จะช่วยให้เราได้รถคุณภาพดีในราคาที่เหมาะสม ตรงตามงบประมาณ
13 วิธีเช็กรถมือสองจากผู้เชี่ยวชาญ
เพื่อให้การซื้อรถมือสองของเราเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย นี่คือ 13 วิธีดูรถมือสองที่แนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญ ไปดูกันเลยว่าซื้อรถมือสองต้องดูอะไรบ้าง
1. เช็กเอกสารรถยนต์ประวัติย้อนหลัง
วิธีดูรถมือสองอย่างแรกที่แนะนำคือการตรวจสอบเอกสารออกรถมือสอง เช่น เล่มทะเบียน สมุดคู่มือประจำรถ หรือเอกสารการซ่อมบำรุง เพื่อให้มั่นใจว่ารถไม่มีปัญหาหรือประวัติอุบัติเหตุร้ายแรง
นอกจากนี้ควรตรวจสอบทะเบียนรถก่อนซื้อกับกรมการขนส่งทางบก เพื่อยืนยันความถูกต้องของเอกสารและตรวจสอบว่าไม่มีภาระผูกพันทางกฎหมาย
2. เช็กสภาพตัวรถ
การตรวจสอบสภาพภายนอกของรถเป็นวิธีเช็กประวัติรถมือสองอีกหนึ่งขั้นตอนที่สำคัญ เพราะสภาพภายนอกสามารถบอกเล่าประวัติการใช้งานของรถได้ ควรสังเกตการเกิดรอยบุบ รอยขีดข่วน หรือการซ่อมแซมสีรถในบางจุด ซึ่งอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่ารถคันนั้นเคยประสบอุบัติเหตุ หรือถูกซ่อมแซมมาก่อน นอกจากนี้ยังควรตรวจสอบว่าไม่มีส่วนใดของรถที่ได้รับการดัดแปลงหรือซ่อมแซมอย่างไม่ถูกต้อง
3. เช็กสภาพสีรถรอบคัน
การตรวจเช็กสีรถรอบคันสามารถบอกได้ว่ารถเคยผ่านการทำสีหรือซ่อมแซมสีมาก่อนหรือไม่ โดยการสังเกตความเงางามและความสม่ำเสมอของสีรถ หากพบความแตกต่างของเฉดสีในบางจุด เช่น บริเวณฝากระโปรง หรือประตู อาจเป็นสัญญาณว่ารถเคยได้รับการซ่อมแซมจากอุบัติเหตุหรือการทำสีใหม่บางส่วน
4. เช็กเลขไมล์บนหน้าปัด
ซื้อรถมือสองต้องดูอะไรบ้าง หนึ่งในนั้นคือเลขไมล์ที่เป็นตัวบ่งชี้ที่ดีถึงการใช้งานรถ หากเลขไมล์ต่ำเกินไปเมื่อเทียบกับสภาพของรถ อาจเป็นไปได้ว่าเลขไมล์ถูกปรับเปลี่ยนมา ดังนั้นจึงควรตรวจสอบว่าเลขไมล์ที่แสดงบนหน้าปัดตรงกับเอกสารประวัติการซ่อมบำรุงหรือไม่ เพื่อหลีกเลี่ยงการซื้อรถที่มีประวัติการใช้งานหนักแต่มาแสดงเลขไมล์ที่ต่ำกว่าความจริง
5. เช็กตัวถังของรถ
วิธีเลือกรถมือสอง ตัวถังของรถก็เป็นส่วนที่ต้องตรวจสอบอย่างละเอียด โดยเฉพาะใต้ท้องรถที่มักจะมีร่องรอยของสนิมหรือการซ่อมแซม หากพบสนิมในบริเวณนี้ อาจเป็นสัญญาณว่ารถเคยผ่านการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม หรือเคยถูกน้ำท่วมหรือประสบอุบัติเหตุที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อโครงสร้างรถ
6. เช็กตะเข็บรอบตัวถัง
ซื้อรถมือสองต้องดูอะไรบ้าง ที่มองข้ามไม่ได้เลยคือตะเข็บรอบตัวถังเป็นจุดที่มักถูกซ่อมแซมหากรถเกิดอุบัติเหตุ ควรตรวจสอบว่าตะเข็บทั้งหมดอยู่ในสภาพดีและไม่มีการดัดแปลง สังเกตความสม่ำเสมอของช่องว่างระหว่างประตู ฝากระโปรง และฝาท้าย ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงการซ่อมแซมที่ไม่ได้มาตรฐาน
7. เช็กเครื่องยนต์ ของเหลว และแบตเตอรี่
การตรวจสอบเครื่องยนต์และส่วนประกอบที่เกี่ยวข้อง เช่น ของเหลวต่างๆ และแบตเตอรี่ เป็นวิธีเช็กประวัติรถมือสองที่ไม่ควรมองข้าม ควรตรวจสอบว่าระดับน้ำมันเครื่อง น้ำหล่อเย็น และแบตเตอรี่อยู่ในระดับที่เหมาะสม และไม่มีคราบน้ำมันรั่วไหลหรือสนิมที่อาจบ่งบอกถึงปัญหาที่ซ่อนอยู่
8. เช็กเกียร์รถยนต์
การตรวจสอบเกียร์รถยนต์สามารถทำได้โดยการทดลองเข้าเกียร์ทุกตำแหน่ง ตรวจสอบว่าการเข้าเกียร์เป็นไปอย่างราบรื่นหรือไม่ หากรู้สึกว่ามีความสะดุดหรือมีเสียงผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณว่าระบบเกียร์มีปัญหา ซึ่งอาจมีค่าซ่อมแซมหรือค่าใช้จ่ายในการออกรถมือสองที่สูงเกินควร
9. เช็กช่วงล่างของรถยนต์
ทดสอบโช้คอัพและระบบกันสะเทือน โดยกดที่มุมรถทั้งสี่ด้าน หากรถไม่คืนตัวกลับมาทันทีหรือส่ายไปมา อาจมีปัญหากับช่วงล่าง โดยสังเกตเสียงผิดปกติจากช่วงล่างขณะขับผ่านพื้นที่ขรุขระ ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงปัญหาในระบบกันสะเทือน
10. เช็กระบบไฟของรถยนต์
วิธีเลือกรถมือสอง ควรตรวจสอบไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเลี้ยว และไฟเบรกว่าทำงานได้ปกติหรือไม่ ระบบไฟที่ทำงานผิดปกติอาจบ่งบอกถึงปัญหาทางไฟฟ้า ตรวจสอบความสว่างและการปรับระดับของไฟหน้า รวมถึงสภาพของเลนส์ไฟที่อาจเสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน
11. เช็กนอตทุกจุด
การตรวจสอบนอตต่างๆ บนรถสามารถช่วยบ่งบอกได้ว่ารถเคยถูกซ่อมแซมหรือเปลี่ยนชิ้นส่วนใดๆ หรือไม่ หากพบร่องรอยการขันนอตที่ผิดปกติ อาจเป็นไปได้ว่าชิ้นส่วนนั้นเคยถูกถอดออกหรือมีการซ่อมแซม
12. เช็กปีรถยนต์ที่ออก
วิธีเลือกรถมือสองที่ดีควรคำนึงถึงอายุการใช้งานด้วย รถมือสองควรซื้อไม่เกินกี่ปีนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย แต่โดยทั่วไปไม่ควรเกิน 5-7 ปี เพื่อให้มั่นใจว่ายังสามารถหาอะไหล่ทดแทนได้ง่าย และควรพิจารณาถึงความนิยมของรุ่นรถนั้น ๆ ในตลาด ซึ่งจะส่งผลต่อราคาขายต่อและความสะดวกในการหาอะไหล่ในอนาคต
13. ทดลองขับจริงเพื่อความมั่นใจ
ซื้อรถมือสองต้องดูอะไรบ้าง แน่นอนว่าการทดลองขับเป็นสิ่งสำคัญที่สุด สังเกตการทำงานของเครื่องยนต์ ระบบเบรก พวงมาลัย และความรู้สึกโดยรวมขณะขับขี่ ว่ามีความมั่นคงและปลอดภัยในการใช้งานหรือไม่ รวมถึงทดสอบการขับในสภาวะต่าง ๆ เช่น การเร่งความเร็ว การเบรกกะทันหัน และการขับบนถนนที่มีสภาพแตกต่างกัน เพื่อให้มั่นใจว่ารถสามารถตอบสนองได้อย่างปลอดภัยในทุกสถานการณ์
สรุปบทความ
การทราบข้อมูลว่า ซื้อรถมือสองต้องดูอะไรบ้างอย่างละเอียด จะช่วยให้เราสามารถเลือกรถที่มีคุณภาพดีและคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป แต่หากเราไม่มั่นใจในความสามารถของตนเอง ควรพาช่างที่ไว้ใจได้ไปตรวจสอบด้วยก็เป็นทางเลือกที่ดี
เมื่อมั่นใจในสภาพรถแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการจัดการด้านการเงิน หากคุณกำลังมองหาสินเชื่อเพื่อซื้อรถมือสอง สินเชื่อรถยนต์ใช้แล้ว ทีทีบีไดรฟ์ คือตัวเลือกที่น่าสนใจ รู้ผลอนุมัติเบื้องต้นไว ภายใน 30 นาที วงเงินสูง ดอกเบี้ยต่ำ และบริการที่ครบวงจร พร้อมจุดเด่นของบริการที่ประกอบไปด้วย
- รู้ผลอนุมัติเบื้องต้นไวใน 30 นาที
- วงเงินสินเชื่อสูงสุด 100%
- ผ่อนสบายสูงสุด 84 เดือน
- บริการจัดไฟแนนซ์ให้ถึงที่
และหากคุณมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการออกรถมือสอง หรือต้องการคำปรึกษาด้านสินเชื่อ ทีมงาน ttb พร้อมให้บริการคุณเสมอ ด้วยทีมงานมืออาชีพที่พร้อมให้คำปรึกษาตลอดกระบวนการ คุณจึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณอย่างแท้จริง
*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 7.48% - 15.00% ต่อปี