การขายบ้านที่ยังผ่อนไม่หมดเป็นสถานการณ์ที่หลายคนอาจต้องเผชิญด้วยเหตุผลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความจำเป็นทางการเงิน การย้ายที่อยู่ หรือต้องการเปลี่ยนไปอยู่บ้านหลังใหม่ แต่หลายคนอาจสงสัยว่า บ้านยังผ่อนไม่หมดขายได้ไหม และมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีขายบ้านที่ยังผ่อนไม่หมด พร้อมทั้งข้อควรระวังและทางเลือกทางการเงินที่คุณควรรู้ ไปติดตามอ่านกันเลย
บ้านที่ยังผ่อนไม่หมดมีแบบไหนบ้าง
ก่อนจะเข้าสู่ขั้นตอนการขายบ้านที่ยังผ่อนไม่หมด เรามาทำความเข้าใจก่อนว่าบ้านที่ยังผ่อนไม่หมดนั้นมีลักษณะอย่างไรบ้าง ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว เราสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก คือ
บ้านที่ติดธนาคาร
บ้านประเภทนี้คือบ้านที่เรากำลังผ่อนชำระสินเชื่อบ้านกับธนาคาร โดยธนาคารจะถือกรรมสิทธิ์ในบ้านไว้จนกว่าเราจะผ่อนชำระครบตามสัญญา การขายบ้านที่ยังผ่อนไม่หมดให้ธนาคารในกรณีนี้จะต้องได้รับความยินยอมจากธนาคารก่อน
บ้านที่ติดจำนอง
บ้านที่ติดจำนองคือบ้านที่เราเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ แต่ได้นำไปจำนองไว้กับสถาบันการเงินเพื่อเป็นหลักประกันในการกู้ยืมเงิน การขายบ้านที่ยังผ่อนไม่หมดในลักษณะนี้จะต้องดำเนินการไถ่ถอนจำนองก่อนจึงจะสามารถโอนกรรมสิทธิ์ให้ผู้ซื้อได้
ขายบ้านที่ยังผ่อนไม่หมดทำได้ไหม
บ้านยังผ่อนไม่หมดขายได้ไหม ? คำตอบคือ ทำได้ แต่ต้องปฏิบัติตามขั้นตอนที่ถูกต้อง การขายบ้านยังผ่อนไม่หมดนั้นไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมายแต่อย่างใด แต่เราจะต้องได้รับความยินยอมจากธนาคารหรือสถาบันการเงินที่เรากู้เงินมาซื้อบ้านก่อน หรืออาจต้องรอให้ผ่านการผ่อนชำระบ้านไปสักระยะหนึ่งเพื่อให้มูลค่าของบ้านเพิ่มขึ้นหรือภาระการผ่อนลดลง
ผ่อนบ้านกี่ปีถึงจะขายได้
โดยทั่วไปแล้ว ไม่มีกฎตายตัวว่าต้องผ่อนบ้านกี่ปีถึงจะขายได้ แต่ธนาคารส่วนใหญ่มักจะพิจารณาให้ขายได้หลังจากผ่อนมาแล้วอย่างน้อย 6 เดือนถึง 1 ปี อย่างไรก็ตาม ยิ่งเราผ่อนมานานเท่าไหร่ ยอดหนี้คงเหลือก็จะยิ่งน้อยลง ทำให้การขายบ้านทำได้ง่ายขึ้น
ขั้นตอนการขายบ้านที่ยังผ่อนไม่หมด
หากเราตัดสินใจที่จะขายบ้านที่ยังผ่อนไม่หมด มาดูขั้นตอนการขายบ้านที่ยังผ่อนไม่หมดกันว่ามีอะไรบ้าง
1. ตรวจสอบสถานะสินเชื่อปัจจุบัน
ก่อนอื่นควรตรวจสอบยอดคงเหลือของสินเชื่อบ้านที่ยังไม่ได้ชำระ เพื่อให้ทราบว่ายอดหนี้ปัจจุบันเท่าไร และต้องการเงินเพิ่มเท่าไรจากการขายบ้านเพื่อชำระหนี้ที่คงค้างอยู่
2. ประเมินมูลค่าบ้านในตลาด
การประเมินมูลค่าบ้านในปัจจุบันจะช่วยให้เราทราบราคาที่เหมาะสมในการตั้งขาย ซึ่งสามารถทำได้โดยการสอบถามจากตัวแทนอสังหาริมทรัพย์หรือใช้บริการประเมินราคาออนไลน์
3. ปรึกษาธนาคารผู้ให้สินเชื่อ
ควรติดต่อธนาคารที่เรากู้สินเชื่อเพื่อสอบถามถึงขั้นตอนการขายบ้านและการปลดหนี้ รวมถึงการจัดการเอกสารต่าง ๆ ที่จำเป็น
4. หาผู้ซื้อและเจรจาต่อรอง
เมื่อมีคนสนใจซื้อบ้านของเรา เราสามารถเจรจาต่อรองราคาและเงื่อนไขการขาย ซึ่งหากเราต้องการโอนภาระสินเชื่อไปยังผู้ซื้อใหม่ ธนาคารอาจต้องประเมินความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ซื้อด้วย
5. ดำเนินการทางกฎหมายและการโอนกรรมสิทธิ์
วิธีขายบ้านที่ยังผ่อนไม่หมดขั้นตอนสุดท้าย คือการดำเนินการทางกฎหมายในการขายบ้านและโอนกรรมสิทธิ์ โดยต้องชำระค่าธรรมเนียมต่างๆ และลงนามในเอกสารตามที่กฎหมายกำหนด
ขายบ้านที่ยังผ่อนไม่หมดต้องระวังอะไรบ้าง
การขายบ้านที่ยังผ่อนไม่หมดมีข้อควรระวังหลายข้อที่เราควรทราบ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในภายหลัง เช่น
1. ระวังเรื่องยอดหนี้คงค้าง
ควรตรวจสอบยอดหนี้คงค้างอย่างละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่าการขายบ้านจะไม่ทำให้เราต้องแบกรับภาระหนี้สินเพิ่มขึ้น
2. ระวังเรื่องการประเมินมูลค่าบ้าน
การประเมินมูลค่าบ้านควรทำอย่างเป็นธรรมและสอดคล้องกับตลาดในปัจจุบัน หากประเมินมูลค่าต่ำเกินไปอาจทำให้เราขาดทุนได้
3. ระวังเรื่องการโอนภาระหนี้
หากต้องการโอนภาระหนี้ให้กับผู้ซื้อใหม่ ควรปรึกษาธนาคารให้ชัดเจนว่ามีขั้นตอนอย่างไร และผู้ซื้อมีความสามารถในการผ่อนชำระต่อหรือไม่
4. ระวังเรื่องค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่าย
ในการขายบ้านยังผ่อนไม่หมด อาจมีค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่ต้องชำระ เช่น ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ ค่าประเมินราคาบ้าน หรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ ควรตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนดำเนินการ
5. ระวังความเสี่ยงในการหาที่อยู่ใหม่
ต้องวางแผนเรื่องที่อยู่ใหม่ให้รอบคอบก่อนตัดสินใจขาย การตัดสินใจเรื่องบ้านเป็นเรื่องสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตในระยะยาว บางคนถึงกับฝันเห็นบ้านบ่อยครั้งเมื่อกำลังพิจารณาเรื่องนี้ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณว่าเรากำลังให้ความสำคัญกับการตัดสินใจขายบ้านที่ยังผ่อนไม่หมดนี้อย่างมาก
สรุป
การขายบ้านที่ยังผ่อนไม่หมดเป็นเรื่องที่ทำได้ แต่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบและวางแผนให้ดี แต่หากคุณกำลังประสบปัญหาทางการเงิน เช่น ดอกเบี้ยผ่อนบ้านสูง อยากลดดอกเบี้ย อยากลดค่างวดให้ถูกลง หรือต้องการวงเงินกู้เพิ่ม แนะนำให้เลือกวิธี การรีไฟแนนซ์บ้านก่อน หรือหากจำเป็นต้องขายบ้านให้กับญาติหรือคนรู้จักจริงๆ ก็สามารถใช้วิธีการโอนสัญญาเดิม หรือทำสัญญาใหม่ร่วมกับธนาคาร โดยการเลือกขอสินเชื่อบ้านมือสอง ซึ่งทีทีบี เรามีสินเชื่อบ้านมือสองพร้อมให้บริการ และมีผู้เชี่ยวชาญด้านสินเชื่อบ้าน พร้อมให้คำแนะนำในการขอสินเชื่อ ตั้งแต่การเตรียมเอกสาร การประเมินความสามารถในการผ่อนชำระ และช่วยคุณวางแผนการเงินได้อย่างให้เหมาะสมกับความต้องการของคุณ
ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจอย่างไร สิ่งสำคัญคือต้องกู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว เพื่อสุขภาพทางการเงินที่ดีในระยะยาว
*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว : สินเชื่อบ้านมือสอง อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา 5.64% - 6.73% ต่อปี ● สินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา 4.97- 5.39% ต่อปี ● อัตราดอกเบี้ย MRR = 7.83%ต่อปี ณ วันที่ 3 ต.ค. 66 ● อัตราดอกเบี้ยลอยตัวสามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ ● เงื่อนไขการสมัคร และอนุมัติสินเชื่อเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนด