การกู้ซื้อบ้านมือสองเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการมีบ้านเป็นของตัวเอง แต่มีงบประมาณจำกัด หรือต้องการบ้านในทำเลที่ดีแต่ราคาไม่สูงเกินไป แต่หลายคนก็กลัวว่าการกู้บ้านมือสองนั้นมีขั้นตอนที่ยากและวุ่นวาย แต่รู้ไหมว่าจริง ๆ แล้วการกู้ซื้อบ้านมือสองนั้นง่ายดายกว่าที่เราคิด
ทำความเข้าใจกับการกู้ซื้อบ้านมือสอง
การกู้บ้านซื้อมือสองมีข้อดีหลายประการเมื่อเทียบกับการซื้อบ้านใหม่ เช่น ราคาบ้านที่ถูกกว่า ทำเลที่อาจดีกว่า และโอกาสในการต่อรองราคามากกว่า อย่างไรก็ตาม ก็มีความแตกต่างบางประการเมื่อเทียบกับการซื้อบ้านหลังแรกที่เป็นบ้านใหม่ เช่น
- การประเมินสภาพบ้านที่ต้องทำอย่างละเอียด
- การตรวจสอบภาระผูกพันทางกฎหมาย
- อาจมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมหรือปรับปรุงเพิ่มเติม
ขั้นตอนการเลือกบ้านมือสอง
การเลือกบ้านมือสองที่ใช่ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ด้วยการวางแผนที่ดีและความระมัดระวัง เราสามารถหาบ้านที่ตรงใจและคุ้มค่าได้
ค้นหาและเปรียบเทียบบ้านมือสองในตลาด
ค้นหาและเปรียบเทียบบ้านมือสองในตลาดโดยใช้เว็บไซต์อสังหาริมทรัพย์ นายหน้า หรือการสำรวจพื้นที่ด้วยตัวเองเพื่อหาบ้านที่ตรงกับความต้องการของเรา และเปรียบเทียบราคาตลาดเพื่อให้แน่ใจว่าเราจะได้รับข้อเสนอที่ดีที่สุด
ตรวจสอบสภาพบ้านและเอกสารสำคัญ
เมื่อพบบ้านที่สนใจ ให้ตรวจบ้านก่อนโอนอย่างละเอียด ทั้งโครงสร้าง ระบบไฟฟ้า ประปา รวมถึงตรวจสอบเอกสารกรรมสิทธิ์ว่าถูกต้องหรือไม่ เพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต
ประเมินราคาบ้านเทียบกับราคาตลาด
การประเมินราคาบ้าน โดยเปรียบเทียบกับราคาตลาดจะช่วยให้เราทราบว่าราคาที่เสนอให้เหมาะสมหรือไม่ นอกจากนี้ควรตรวจสอบกับธนาคารว่าสามารถกู้เงินตามราคาประเมินได้หรือไม่
ก่อนยื่นกู้ซื้อบ้านมือสองเตรียมตัวยังไง
ก่อนจะเริ่มกระบวนการกู้ซื้อบ้านมือสอง ควรเตรียมตัวให้พร้อมในหลาย ๆ ด้าน เพื่อเพิ่มโอกาสในการได้รับอนุมัติสินเชื่อบ้านมือสองและได้บ้านในราคาที่เหมาะสม เช่น
ประเมินความสามารถในการผ่อนชำระ
คำนวณรายได้และค่าใช้จ่ายของเราอย่างละเอียด เพื่อดูว่าเราสามารถผ่อนบ้านมือสองได้เท่าไหร่ต่อเดือน โดยไม่กระทบกับค่าใช้จ่ายจำเป็นอื่น ๆ ซึ่งสามารถทำได้โดยการพิจารณาจากรายได้สุทธิและอัตราการผ่อนชำระบ้านที่ไม่ควรเกิน 40% ของรายได้ อาทิ สำหรับคนที่มีเงินเดือน 30,000 ซื้อบ้าน การเลือกบ้านที่มีค่าผ่อนไม่เกิน 12,000 บาทต่อเดือน (40% ของเงินเดือน 30,000) จะช่วยให้เรามีโอกาสผ่านการพิจารณาสินเชื่อมากขึ้น สามารถจัดการรายได้และค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้น โดยไม่ต้องมีภาระหนักเกินไป หรืออ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ หัวข้อ เงินเดือน 30000 ซื้อบ้านได้ไหม
เตรียมเงินดาวน์และค่าใช้จ่ายอื่นๆ
การเตรียมค่าใช้จ่ายส่วนแรกเป็นสิ่งสำคัญ ควรเตรียมเงินดาวน์ให้พร้อมเพื่อช่วยลดภาระการกู้ โดยเงินดาวน์ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 10%-20% ของมูลค่าบ้าน และนอกจากเงินดาวน์แล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ต้องเตรียม เช่น
- ค่าจดจำนอง (ประมาณ 1% ของวงเงินกู้)
- เงินดาวน์ ( ประมาณ 5-20% ของราคาบ้าน)
- ค่าประเมินหลักประกัน (ประมาณ 3,000-5,000 บาท)
- ค่าอากรแสตมป์ (0.05% ของวงเงินกู้)
- ค่าประกันอัคคีภัย
- เงินสำรองสำหรับค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ดอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม หากธนาคารที่คุณขอสินเชื่อบ้านนั้น มีโปรโมชัน ฟรี ค่าธรรมเนียมต่างๆ ก็จะช่วยประหยัดเงินส่วนนี้ไปได้อย่างมากเลยทีเดียว
กระบวนการยื่นขอสินเชื่อบ้านมือสอง
เมื่อเราพบบ้านที่ต้องการแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการยื่นขอสินเชื่อบ้านมือสอง ซึ่งมีขั้นตอนสำคัญดังนี้
เปรียบเทียบข้อเสนอจากธนาคารต่างๆ
ศึกษาและเปรียบเทียบสินเชื่อบ้านจากหลาย ๆ ธนาคาร เพื่อหาข้อเสนอที่ดีที่สุด ทั้งในแง่ของอัตราดอกเบี้ยคงที่ อัตราดอกเบี้ยลดต้นลดดอก ระยะเวลาผ่อน และเงื่อนไขอื่น เพื่อให้ได้ข้อเสนอที่คุ้มค่าที่สุด
เตรียมเอกสารสำคัญสำหรับการยื่นกู้
เตรียมเอกสารให้ครบถ้วนตามที่ธนาคารกำหนด เช่น หลักฐานแสดงรายได้ สำเนาบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน และเอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยให้กระบวนการยื่นกู้ซื้อบ้านมือสองเป็นไปอย่างราบรื่น
ยื่นใบสมัครและรอการพิจารณาอนุมัติ
ยื่นใบสมัครพร้อมเอกสารประกอบการกู้ซื้อบ้านมือ 2 กับธนาคารที่คุณเลือก และรอการพิจารณาอนุมัติ ซึ่งอาจใช้เวลาประมาณ 7-14 วันทำการ
การประเมินราคาบ้านโดยธนาคาร
การประเมินราคาบ้านโดยธนาคารเป็นขั้นตอนสำคัญในกระบวนการกู้บ้านมือสอง เพราะจะส่งผลต่อวงเงินกู้ที่เราจะได้รับด้วย
กระบวนการประเมินราคาของธนาคาร
ธนาคารจะส่งผู้ประเมินมาตรวจสอบสภาพบ้านและประเมินราคาตามหลักเกณฑ์ของธนาคาร โดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ทำเล สภาพบ้าน และราคาตลาด
เตรียมรับมือกับผลการประเมินที่ต่ำกว่าคาด
หากผลประเมินต่ำกว่าที่คาด เราอาจต้องเตรียมเงินดาวน์เพิ่ม หรือเจรจาต่อรองราคากับผู้ขายอีกครั้ง
ขั้นตอนปิดการซื้อขายและรับโอนกรรมสิทธิ์
เมื่อได้รับอนุมัติสินเชื่อบ้านมือสองแล้ว ขั้นตอนสุดท้ายคือการปิดการซื้อขายและรับโอนกรรมสิทธิ์
การทำสัญญาจะซื้อจะขาย
ก่อนการโอนกรรมสิทธิ์ เราจะต้องทำสัญญาซื้อขายกับผู้ขาย สัญญานี้จะกำหนดเงื่อนไขการซื้อขาย รวมถึงราคาซื้อขายและกำหนดการชำระเงิน
การชำระเงินและโอนกรรมสิทธิ์ที่สำนักงานที่ดิน
เมื่อถึงวันโอนกรรมสิทธิ์ เราจะต้องชำระเงินส่วนที่เหลือและดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ที่ สำนักงานที่ดิน ขั้นตอนนี้จำเป็นต้องมีเอกสารครบถ้วนและค่าธรรมเนียมการโอนที่ต้องชำระ
การเบิกจ่ายเงินกู้จากธนาคาร
หลังจากการโอนกรรมสิทธิ์เสร็จสิ้น ธนาคารจะทำการเบิกจ่ายเงินกู้ให้กับผู้ขาย ตามที่ระบุในสัญญา ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายในการปิดการซื้อขายบ้าน
สรุป
การกู้ซื้อบ้านมือสองเป็นกระบวนการที่มีหลายขั้นตอนและต้องการการเตรียมตัวที่ดี แต่หากมีการวางแผนที่รอบคอบ พร้อมศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนกู้อย่างละเอียด ก็จะสามารถบรรลุเป้าหมายการมีบ้านในฝันได้อย่างราบรื่นขึ้น
และสำหรับใครที่ต้องการขอสินเชื่อบ้าน-คอนโดมือสอง สินเชื่อบ้านทีทีบี พร้อมที่จะช่วยให้คุณเป็นเจ้าของบ้านในฝันด้วยดอกเบี้ยที่ต่ำ ผ่อนต่อเดือนสบาย ให้วงเงินสูง 100% และมีเจ้าหน้าที่พร้อมให้บริการถึงที่
อย่าลืมว่า การกู้เงินเพื่อซื้อบ้านเป็นภาระผูกพันระยะยาว ดังนั้น จงตัดสินใจอย่างรอบคอบและยึดหลัก "กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว" เพื่อสุขภาพทางการเงินที่ดีในระยะยาวของคุณและครอบครัว
*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว : สินเชื่อบ้านมือสองอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา 5.64% - 6.73% ต่อปี โดยอัตราดอกเบี้ย MRR = 7.83%ต่อปี ณ วันที่ 3 ต.ค.66 • อัตราดอกเบี้ยลอยตัวสามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ •เงื่อนไขการสมัคร และอนุมัติสินเชื่อเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนด