เมื่อ COVID-19 ยังคงอยู่กับเราแบบไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดเมื่อใด สิ่งสำคัญที่เราต้องเรียนรู้และอยู่กับความเป็นจริงในปัจจุบันให้ได้ก็คือ คนที่มีเงินออมรอด! สำหรับพนักงานออฟฟิศที่ได้รายได้แน่นอนทุกเดือนเป็นประจำ นับได้ว่าเป็นกลุ่มคนที่ได้สามารถจัดการวางแผนการเงินได้ง่ายกว่าเมื่อเทียบกับอาชีพค้าขายหรือเหล่าฟรีแลนซ์ทั้งหลาย วันนี้ ttb มาบอกเล่าวิธีการออมเงินของแต่ละช่วงวัยกันว่าเราควรแบ่งเงินออมจากเงินเดือนมากน้อยแค่ไหน และควรใช้ไปกับการสร้างความมั่นคงด้านใดบ้าง
ที่มาภาพ : Freepik
ซีรีส์ 2 - อายุ 20-29 ปี
เป็นช่วงเริ่มต้นของการทำงาน ช่วงวัยแรกที่ได้รับเงินเดือน ถึงแม้จะยังไม่สูงมาก หากมีการวางแผนการเงินตั้งแต่ช่วงเวลานี้ ไม่ใช้จ่ายเกินตัว เริ่มออมเงินได้เร็วจะได้ช่วยให้มั่นคงได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะเงินออมเผื่อฉุกเฉินซึ่งเป็นเงินก้อนแรกที่ทุกคนควรมีเก็บไว้ รวมถึงยังเป็นช่วงวัยที่ควรมีประกันความเสี่ยงด้านสุขภาพไว้หน่อย เพราะเป็นช่วงเวลาที่ต้องโหมงานหนัก หากทำประกันสุขภาพในช่วยเริ่มต้นก็จะทำให้เราอุ่นใจขึ้นได้
เป้าหมายการออม : เงินสำรองฉุกเฉิน, เงินออมเพื่อต่อยอดในการทำงาน, ประกันสุขภาพ
ซีรีส์ 3 - อายุ 30-39
เป็นช่วงวัยที่ได้เรียนรู้การทำงาน ได้รู้จักความถนัด ความชื่นชอบ และน่าจะพอรู้เส้นทางชีวิตทางอาชีพของตัวเองได้อย่างชัดเจน ได้ขยับตำแหน่งที่สูงขึ้น มีความรับผิดชอบเยอะขึ้น และแน่นอนว่างานต้องเครียดขึ้น โดยรวมแล้วช่วงอายุเหล่านี้จะเน้นการออมเงินไว้เพื่ออนาคต เป็นวัยแห่งการสร้างความมั่นคง ซื้อบ้าน ซื้อรถ ซื้อคอนโด แต่งงาน ทำให้ต้องมีรายจ่ายก้อนใหญ่ตามมา เพราะฉะนั้นต้องประเมินการใช้จ่ายให้ดี ว่าเราสามารถใช้หนี้ก้อนโตเหล่านี้ได้หมดไหม เป็นช่วงวัยที่เหมาะสำหรับการเรียนรู้เรื่องการลงทุนเพื่อให้เงินงอกเงย และควรเริ่มต้นวางแผนเงินเกษียณได้แล้ว
เป้าหมายการออม : เงินออมงบสร้างความมั่นคงให้ชีวิต (บ้าน, รถ, แต่งงาน), แผนเงินเกษียณ, ลงทุนซื้อหุ้นหรือกองทุน
ซีรีส์ 4 - อายุ 40-49
วัยนี้อยู่ในจุดที่หน้าที่การงานและฐานะทางการเงินมั่นคงแล้ว มักมีรายได้สูง เป็นช่วงที่ควรโฟกัสการออมเพื่อเป้าหมายวัยเกษียณอย่างจริงจัง เพราะเป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุด เนื่องจากหนี้สินก้อนใหญ่ ๆ เช่น บ้าน รถ แต่งงาน ที่ต้องเจอในซีรีส์ 3 ก็เบาภาระไป รายจ่ายมักใช้ไปกับการวางแผนการศึกษาให้ลูกและการเติมเต็มชีวิตหลังจากเหนื่อยจากการทำงานมา และยังเป็นวัยที่หลายคนเริ่มต้นดูแลสุขภาพ เพราะร่างกายอาจส่งสัญญาณความเจ็บป่วย หากใครยังไม่ได้ทำประกันสุขภาพต้องห้ามพลาดในช่วงวัยนี้ ที่สำคัญอย่าลืมคำนวณภาษีและเตรียมเงินไว้สำหรับจ่ายรายปีด้วย
เป้าหมายการออม : แผนเงินเกษียณ, เงินออมงบการศึกษาลูก, แผนการจ่ายภาษี
ซีรีส์ 5 - อายุ 50 ขึ้นไป
เป็นช่วงวัยที่ต้องถามตัวเองว่า เรามีเงินเก็บในวัยเกษียณอันใกล้เพียงพอแล้วหรือยัง? ครอบคลุมทั้งการกินอยู่ ค่ารักษาพยาบาล ซีรีส์นี้ถือเป็นโค้งสุดท้ายที่เราจะสามารถเก็บเงินไว้ใช้ยามเกษียณได้ หากคำนวณแล้วไม่พอ เราควรจะทำอย่างไรต่อไป ควรคิดแผนการรับมือนี้ไว้ด้วย และหากใครที่ยังไม่มีประกันสุขภาพควรทำติดตัวไว้ แม้ทำในช่วงวัยนี้จะมีเบี้ยที่สูงสักหน่อยแต่ก็คุ้มค่าหากเจ็บป่วย
เป้าหมายการออม : แผนเงินเกษียณ, ประกันสุขภาพ ชาวออฟฟิศทั้งหลายเช็กซีรีส์ของตัวเองแล้วเป็นอย่างไรกันบ้าง มีเป้าหมายการออมด้านไหนที่ยังขาดเหลืออีกบ้างไหม สเต็ปต่อไปเราจะพามาดูกันว่ามีเครื่องมือไหนบ้างที่ช่วยออมเงินให้พี่น้องออฟฟิศได้ทุกช่วงวัย
1. กองทุนและประกันที่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ หักภาษีได้
เมื่อเริ่มมีรายได้ สิ่งที่ชาวออฟฟิศทุกคนไม่ควรละเลยก็คือการจ่ายภาษี ในช่วงเริ่มต้นทำงาน หลายคนอาจจะยังไม่ต้องเสียภาษี แต่เราขอแนะนำให้ยื่นภาษีทุกปี และหมั่นตรวจสอบให้เป็นนิสัยในทุกปีว่าปีนี้เราต้องเสียภาษีเท่าไหร่ และหาผลิตภัณฑ์ที่สามารถลดหย่อนภาษีได้ โดยเลือกจากความเหมาะสมของเป้าหมายการออมในแต่ละช่วงวัย
2. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
กองทุนสํารองเลี้ยงชีพ คือกองทุนที่นายจ้างและลูกจ้างร่วมกันจัดตั้งขึ้นด้วยความสมัครใจ เพื่อให้ลูกจ้างมีเงินออมไว้ใช้จ่ายยามเกษียณอายุ ออกจากงาน ทุพพลภาพ หรือเป็นหลักประกันให้แก่ครอบครัวในกรณีที่ลูกจ้างเสียชีวิต โดยใช้วิธีการหักจากเงินเดือน 2 - 15% พนักงานสามารถเลือกเปอร์เซ็นต์ได้ตามความสมัครใจ นับได้ว่าเป็นเครื่องมือที่ช่วยบังคับให้เราออมเงินได้อย่างสม่ำเสมอ และทำได้ในระยะยาวตราบเท่าที่เรายังทำงานอยู่
3. หักเงินเข้าบัญชีเงินออมที่ให้ผลตอบแทนสูง อัตโนมัติทุกเดือน
ใช้บริการหักบัญชีอัตโนมัติจากธนาคารต่าง ๆ ทางที่ดีควรเลือกวันตัดรอบบัญชีในช่วงต้นเดือน จะได้เป็นการบังคับออมก่อนใช้จ่ายที่ได้ผลและทำได้จริงที่ ttb เรามีบัญชี no fixed บัญชีสำหรับการออมเงิน ที่ให้ดอกเบี้ยรวมโบนัสสูงตั้งแต่บาทแรก มาพร้อมบริการหักเงินเข้าบัญชีอัตโนมัติ บนแอปพลิเคชัน ttb touch มอบความสะดวกสบายให้กับทุกเป้าหมายการออมด้วย savings goal แยกเป้าหมายเงินออมได้ถึง 30 เป้าหมาย รองรับชาวออฟฟิศทุกช่วยวัย ข้อมูลไม่หาย รู้ทุกความเคลื่อนไหว ติดตามผลง่ายในแอปเดียว
