สเตทเม้น (Bank Statement) สำคัญอย่างไรกับการขอสินเชื่อ

การขอสินเชื่อในปัจจุบันไม่ใช่แค่การมีรายได้ประจำเท่านั้น แต่สเตทเม้นหรือรายการเดินบัญชีย้อนหลังก็เป็นปัจจัยสำคัญที่สถาบันการเงินใช้พิจารณาอนุมัติสินเชื่อ เพราะสเตทเม้นสามารถสะท้อนพฤติกรรมทางการเงิน ความสามารถในการชำระหนี้ และความมั่นคงทางการเงินของผู้กู้ได้อย่างชัดเจน บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับความสำคัญของ Bank Statement และวิธีการสร้างประวัติทางการเงินให้น่าเชื่อถือ เพื่อเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อ

สเตทเม้น (Bank Statement) คืออะไร

สเตทเม้น คือเอกสารที่แสดงรายการเคลื่อนไหวทางการเงินในบัญชีธนาคาร ซึ่งจะบันทึกการทำธุรกรรมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการฝากเงิน ถอนเงิน โอนเงิน หรือการชำระค่าสินค้าและบริการต่าง ๆ โดย Bank Statement จะแสดงให้เห็นถึงที่มาของรายได้ พฤติกรรมการใช้จ่ายและยอดเงินคงเหลือในแต่ละเดือน ซึ่งสถาบันการเงินมักจะขอดูสเตทเม้นย้อนหลัง 6 เดือน เพื่อวิเคราะห์ความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ขอสินเชื่อ

ความสำคัญของสเตทเม้น (Bank Statement)

สเตทเม้นมีความสำคัญอย่างยิ่งในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ เพราะเป็นเครื่องมือที่สถาบันการเงินใช้ประเมินความน่าเชื่อถือทางการเงินของผู้กู้ Bank Statement ที่ดีจะแสดงให้เห็นถึงความสม่ำเสมอของรายได้ วินัยทางการเงิน และความสามารถในการบริหารจัดการเงิน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับอนุมัติสินเชื่อ และอาจส่งผลต่อวงเงินที่จะได้รับการอนุมัติอีกด้วย

ใช้ประกอบการทำธุรกรรม

สเตทเม้นเป็นเอกสารสำคัญในการทำธุรกรรมทางการเงินหลายประเภท โดยเฉพาะการขอสินเชื่อ ซึ่งสถาบันการเงินจะใช้ Bank Statement เป็นหลักฐานประกอบการพิจารณาร่วมกับเอกสารอื่นๆ เช่น บัตรประชาชน หนังสือรับรองเงินเดือนและสลิปเงินเดือน การมีสเตทเม้นที่แสดงถึงความมั่นคงทางการเงินจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและโอกาสในการได้รับอนุมัติสินเชื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบอาชีพอิสระที่อาจไม่มีหนังสือรับรองเงินเดือน สเตทเม้นจึงถือเป็นอีกเอกสารสำคัญที่เพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อได้

ใช้ประกอบการยื่นขอเอกสารต่าง ๆ

นอกจากการขอสินเชื่อแล้ว สเตทเม้นยังมีประโยชน์ในการยื่นขอเอกสารสำคัญอื่นๆ เช่น การขอวีซ่า การสมัครงาน หรือการทำสัญญาเช่า เพราะ Bank Statement สามารถแสดงให้เห็นถึงความมั่นคงทางการเงินและความน่าเชื่อถือของบุคคล ทำให้หน่วยงานหรือองค์กรที่เกี่ยวข้องสามารถประเมินความสามารถทางการเงินและความรับผิดชอบของผู้ยื่นเอกสารได้

วิธีการสร้างสเตทเม้น (Bank Statement) ให้ขอสินเชื่อผ่าน

มีรายการเดินบัญชีเข้า-ออกอย่างสม่ำเสมอ

การมีรายการเดินบัญชีที่สม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างสเตทเม้นที่ดี ควรมีการรับเงินเข้าบัญชีอย่างสม่ำเสมอทุกเดือน และมีการใช้จ่ายที่เป็นระบบ หลีกเลี่ยงการถอนเงินสดครั้งละมากๆ หรือการโอนเงินที่ผิดปกติ เพราะพฤติกรรมเหล่านี้อาจส่งผลต่อการพิจารณาสินเชื่อ นอกจากนี้ ควรใช้บัญชีนี้เป็นบัญชีหลักในการรับเงินเดือนและทำธุรกรรมต่าง ๆ

ไม่มีประวัติการติดเครดิตบูโร

การมี Bank Statement ที่ดีต้องไม่มีประวัติการผิดนัดชำระหนี้หรือเช็คคืน เพราะสิ่งเหล่านี้จะส่งผลเสียต่อการพิจารณาสินเชื่อ ควรชำระหนี้และค่าใช้จ่ายต่างๆ ตรงตามกำหนดเวลา หากมีการผิดนัดชำระ ควรรีบดำเนินการแก้ไขและสร้างประวัติการชำระที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างน้อย 6-12 เดือน ก่อนยื่นขอสินเชื่อ

ควรมีเงินเหลือติดบัญชี

สเตทเม้นที่ดีควรแสดงให้เห็นว่ามีเงินเหลือในบัญชีอย่างสม่ำเสมอ โดยไม่ควรให้ยอดเงินในบัญชีเหลือน้อยเกินไปหรือใกล้ศูนย์ การมีเงินสำรองในบัญชีแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการบริหารจัดการการเงินที่ดี และมีเงินสำรองสำหรับชำระหนี้ในอนาคต ควรพยายามรักษายอดเงินในบัญชีให้มีเสถียรภาพ ไม่ขึ้นลงผิดปกติ

สร้างวินัยทางการเงินที่ดี

การสร้างวินัยทางการเงินเป็นสิ่งสำคัญในการทำให้สเตทเม้นดูน่าเชื่อถือ ควรมีการวางแผนการใช้จ่ายอย่างรอบคอบ หลีกเลี่ยงการใช้จ่ายฟุ่มเฟือย และพยายามเก็บออมอย่างสม่ำเสมอ Bank Statement ที่แสดงให้เห็นถึงการมีวินัยทางการเงินจะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับอนุมัติสินเชื่อ และอาจได้รับวงเงินที่สูงขึ้น

ตกแต่งบัญชีให้พร้อม

การเตรียม Bank Statement ให้พร้อมก่อนยื่นขอสินเชื่อเป็นสิ่งสำคัญ ควรจัดการธุรกรรมทางการเงินให้เป็นระเบียบ หลีกเลี่ยงการทำธุรกรรมที่น่าสงสัย และพยายามแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการบริหารจัดการเงินที่ดี ทั้งนี้ ไม่ควรพยายามปลอมแปลงหรือแก้ไขข้อมูลใน Bank Statement เพราะอาจมีความผิดทางกฎหมายและส่งผลเสียต่อการขอสินเชื่อในอนาคต

สรุปบทความ

การมีสเตทเม้นที่ดีเป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มโอกาสการอนุมัติสินเชื่อ การสร้างประวัติทางการเงินที่ดีผ่าน Bank Statement ควบคู่กับการมีหนังสือรับรองเงินเดือนที่น่าเชื่อถือ จะช่วยให้การขอสินเชื่อเป็นไปอย่างราบรื่น

สำหรับผู้ที่กำลังมองหาสินเชื่อที่ตอบโจทย์ความต้องการ ทีทีบีมีบริการสินเชื่อหลากหลายรูปแบบ ทั้งสินเชื่อส่วนบุคคล ทีทีบี แคชทูโก และบัตรกดเงินสด ทีทีบี แฟลช ที่พร้อมให้คุณเข้าถึงเงินทุนได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว เพียงมีเอกสารครบถ้วนและมีประวัติทางการเงินที่ดี สามารถสมัครได้ที่สาขา ทีทีบี ทั่วประเทศ หรือผ่านช่องทางออนไลน์ ทั้งเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน ttb touch

กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว : สินเชื่อบุคคล ทีทีบี แคชทูโก ดอกเบี้ย 18 - 25% ต่อปี และบัตรกดเงินสด ทีทีบี แฟลช ดอกเบี้ย 25% ต่อปี เงื่อนไขการพิจารณาสินเชื่อเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด