การค้ำประกันเป็นเรื่องที่สำคัญและมีผลกระทบต่อผู้ค้ำประกันอย่างมาก หลายคนอาจไม่ทราบว่าการค้ำประกันไม่ได้เป็นเพียงการช่วยเหลือผู้อื่น แต่ยังเป็นการผูกพันให้เราต้องรับผิดชอบในหนี้สินหากผู้กู้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ ดังนั้นก่อนที่เราจะตัดสินใจค้ำประกันให้ใคร ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะหากเกิดปัญหา เราอาจต้องรับผิดชอบหนี้ก้อนใหญ่แทนผู้กู้
ผู้ค้ำประกัน คือใคร
ผู้ค้ำประกันคือ บุคคลที่ตกลงรับผิดชอบชำระหนี้แทนลูกหนี้ หากลูกหนี้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามข้อตกลง ตามกฎหมาย แล้วผู้ค้ำประกันจะต้องมีลักษณะอย่างไร ?
- เป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล
- มีความสามารถในการทำนิติกรรม
- มีฐานะทางการเงินที่มั่นคงพอที่จะรับภาระหนี้ได้
หน้าที่และความรับผิดชอบของผู้ค้ำประกัน
หน้าที่หลักของผู้ค้ำประกัน คือ รับผิดชอบต่อหนี้สินในกรณีที่ผู้กู้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ ซึ่งหมายความว่าผู้ค้ำประกันอาจต้องชำระหนี้ทั้งหมดแทนผู้กู้ รวมถึงดอกเบี้ยและค่าปรับต่าง ๆ
แล้วหนี้ของผู้ค้ำประกันจะเกิดขึ้นเมื่อใด ? คำตอบ คือเมื่อลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้และเจ้าหนี้ได้มีหนังสือบอกกล่าวไปยังผู้ค้ำประกันภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ลูกหนี้ผิดนัด
ดังนั้นการเป็นผู้ค้ำประกันจึงไม่ใช่เรื่องที่ควรมองข้าม เพราะมีผลกระทบต่อสถานะทางการเงินและความน่าเชื่อถือของผู้ค้ำประกันอย่างมาก
ข้อควรพิจารณาก่อนตัดสินใจค้ำประกัน
ก่อนจะตัดสินใจเป็นผู้ค้ำประกัน มีหลายสิ่งที่เราควรพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยข้อควรพิจารณาก่อนตัดสินใจค้ำประกัน มีดังนี้
ประเมินความสามารถทางการเงินของตนเอง
การค้ำประกันให้ใคร เราต้องมั่นใจว่าตัวเองมีความสามารถทางการเงินเพียงพอที่จะรับผิดชอบหนี้นั้นได้หากเกิดปัญหา ลองพิจารณาดังนี้
- รายได้และค่าใช้จ่ายปัจจุบันของเรา
- ภาระหนี้สินที่มีอยู่
- เงินออมและสินทรัพย์ที่มี
หากพบว่าการค้ำประกันอาจทำให้เราเดือดร้อนในอนาคต ควรพิจารณาไม่รับค้ำประกัน เพื่อตัดปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ความสัมพันธ์และความน่าเชื่อถือของผู้กู้
การค้ำประกันเป็นการเสี่ยงทางการเงิน ควรพิจารณาความสัมพันธ์และประวัติทางการเงินของผู้ที่ขอให้คุณค้ำประกัน โดยพิจารณาจากอะไรบ้าง ดังนี้
- คุณรู้จักและไว้ใจเขามากแค่ไหน?
- เขามีประวัติการชำระหนี้อย่างไร?
- เขามีความสามารถในการชำระหนี้หรือไม่?
ศึกษาเงื่อนไขและข้อตกลงในสัญญาค้ำประกันอย่างละเอียด
อ่านและทำความเข้าใจสัญญาค้ำประกันอย่างละเอียดก่อนลงนาม สิ่งที่ควรสังเกตเป็นพิเศษ ได้แก่
- วงเงินค้ำประกัน
- ระยะเวลาการค้ำประกัน
- เงื่อนไขการชำระหนี้แทนลูกหนี้
หากมีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะสอบถามเจ้าหน้าที่หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมาย
ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการค้ำประกัน
แม้ว่าการค้ำประกันจะเป็นการช่วยเหลือผู้อื่น แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่เราควรตระหนักด้วย ซึ่งมีความเสี่ยง คือ
ภาระหนี้สินที่อาจต้องรับผิดชอบ
หากผู้กู้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ เราในฐานะผู้ค้ำประกันจะต้องรับผิดชอบภาระหนี้นั้นทั้งหมด ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสถานะทางการเงินของเราอย่างมาก
ผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือทางการเงิน
หากคุณถูกเรียกให้ชำระหนี้แทนและไม่สามารถทำได้ จะส่งผลเสียต่อประวัติเครดิตของเรา ทำให้โอกาสในการขอสินเชื่อในอนาคตลดลง
ความเสี่ยงต่อทรัพย์สินส่วนตัว
การค้ำประกันอาจส่งผลให้เราต้องรับผิดชอบหนี้สินที่เกินความสามารถ หากผู้กู้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ อาจทำให้เราต้องใช้ทรัพย์สินส่วนตัวในการชำระหนี้แทน ซึ่งอาจนำไปสู่การสูญเสียทรัพย์สินที่มีค่าได้
ป้องกันความเสี่ยงยังไงเมื่อเป็นผู้ค้ำประกัน
ถึงแม้การเป็นผู้ค้ำประกันจะมีความเสี่ยง แต่ยังมีวิธีป้องกันความเสี่ยงเพื่อให้เราสามารถรับผิดชอบในส่วนนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้แก่
จำกัดวงเงินค้ำประกัน
ขอจำกัดวงเงินค้ำประกันให้อยู่ในระดับที่เราสามารถรับผิดชอบได้หากเกิดปัญหา ไม่ควรค้ำประกันเต็มจำนวนเงินกู้หากไม่จำเป็น
ติดตามการชำระหนี้ของผู้กู้อย่างสม่ำเสมอ
ควรติดตามการชำระหนี้ของผู้กู้อย่างใกล้ชิด หากพบว่าผู้กู้มีปัญหาในการชำระหนี้ ควรเข้ามาช่วยเหลือหรือเจรจากับผู้กู้หรือสถาบันการเงินเพื่อป้องกันไม่ให้หนี้สินกลายเป็นภาระของเราในอนาคต
พิจารณาทางเลือกอื่นแทนการค้ำประกัน
หากคุณรู้สึกไม่มั่นใจในการค้ำประกัน อาจพิจารณาทางเลือกอื่น เช่น การให้ยืมเงินโดยตรงในจำนวนที่เราสามารถรับความเสี่ยงได้ หรือแนะนำให้ผู้กู้ขอสินเชื่อที่ไม่ต้องใช้ผู้ค้ำประกันจากธนาคารที่มีความปลอดภัยและน่าเชื่อถือ
เช่น สินเชื่อบุคคล จากทีทีบีที่อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการเงินก้อนใหญ่ สินเชื่อส่วนบุคคล ทีทีบี แคชทูโก รับเงินด่วนไปใช้จัดการเรื่องจำเป็นในชีวิต วงเงินอนุมัติสูงสุดถึง 5 เท่าของรายได้หรือสูงสุดถึง 2 ล้านบาท ระยะเวลาผ่อนชำระคืนได้นานสูงสุดตั้งแต่ 12-72 เดือน พิเศษยิ่งกว่าใคร หากใช้บัญชีทีทีบี ออลล์ ฟรี 5 ครั้ง/เดือน พร้อมสมัครบริการหักบัญชีอัตโนมัติ รับไปเลยส่วนลดดอกเบี้ย 2% ต่อปี สมัครง่าย อนุมัติไว ไม่จำเป็นต้องใช้หลักค้ำประกันอีกด้วย
***กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว ดอกเบี้ย 18% - 25% ต่อปี
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการค้ำประกัน
กฎหมายใหม่เกี่ยวกับการค้ำประกันได้ให้ความคุ้มครองแก่ผู้ค้ำประกันมากขึ้น โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้
- ผู้ค้ำประกันมีสิทธิ์ชำระหนี้เฉพาะส่วนที่ลูกหนี้ผิดนัดเท่านั้น
- เจ้าหนี้ต้องเรียกให้ลูกหนี้ชำระหนี้ก่อน หากลูกหนี้ไม่ชำระจึงจะเรียกร้องจากผู้ค้ำประกันได้
- ข้อตกลงที่ให้ผู้ค้ำประกันต้องรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วม หรือในฐานะเป็นลูกหนี้ร่วม ให้ตกเป็นโมฆะ
สรุปเกี่ยวกับการค้ำประกัน
การค้ำประกันเป็นเรื่องที่มีความสำคัญและส่งผลกระทบต่อสถานะทางการเงินของเราอย่างมาก ก่อนตัดสินใจค้ำประกันให้ใคร ควรพิจารณาอย่างรอบคอบทั้งในด้านความสามารถทางการเงินของตนเอง ความสัมพันธ์กับผู้กู้ และข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
หากคุณกำลังพิจารณาเรื่องการค้ำประกันหรือต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับสินเชื่อส่วนบุคคลแคชทูโก ทีทีบีพร้อมให้คำปรึกษาและนำเสนอทางเลือกที่เหมาะสมกับคุณ ได้ผ่าน 3 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์ ttb หรือบนมือถือได้สะดวกมากยิ่งขึ้นผ่านแอปพลิเคชัน ttb touch หรือหากมีข้อสงสัย ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมก็สามารถเข้ารับคำแนะนำได้ที่ ttb ทุกสาขา