external-popup-close

คุณกำลังออกจากเว็บไซต์ ทีทีบี
เพื่อเข้าสู่

https://www.ttbbank.com/

ตกลง

เจาะลึก MRR MLR และ MOR ดอกเบี้ยทั้ง 3 แบบต่างกันอย่างไร?

#fintips #เคล็ดลับการเงิน #MRR #MLR #MOR #กู้ซื้อบ้าน #กู้ซื้อคอนโด #สินเชื่อบ้านทีทีบี #ดอกเบี้ยบ้าน
23 ธ.ค. 2567

การกู้ซื้อบ้านและดอกเบี้ยเป็นของคู่กันที่แยกกันไม่ออก โดยเฉพาะในยุคที่อัตราดอกเบี้ยมีความผันผวน ผู้กู้จำเป็นต้องทำความเข้าใจเรื่องดอกเบี้ยอย่างถ่องแท้ เพื่อให้สามารถวางแผนการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ วันนี้ ทีทีบี จะมาอธิบายความหมายของ MRR MLR และ MOR พร้อมความแตกต่างที่คุณควรรู้ก่อนตัดสินใจกู้ซื้อบ้าน


ทำความรู้จักดอกเบี้ย MRR MLR และ MOR คืออะไร

MRR MLR และ MOR เป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงที่ธนาคารใช้เป็นฐานในการคิดดอกเบี้ยเงินกู้ประเภทต่างๆ โดยมีลักษณะเป็นดอกเบี้ยลอยตัว (Floating Rate) ซึ่งจะมีการปรับเปลี่ยนไปตามต้นทุนทางการเงินของธนาคาร สภาวะเศรษฐกิจ และนโยบายการเงินของประเทศ โดยแต่ละธนาคารจะประกาศอัตราดอกเบี้ยเหล่านี้เป็นระยะ มาดูกันว่าแต่ละประเภทมีความหมายและความสำคัญอย่างไร

MLR (Minimum Loan Rate) คืออะไร

MLR (Minimum Loan Rate) คือ อัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารเรียกเก็บจากลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี เช่น มีประวัติการเงินที่ดี มีหลักทรัพย์ค้ำประกันอย่างเพียงพอ โดยส่วนใหญ่ใช้กับเงินกู้ระยะยาวที่มีระยะเวลาชำระตายตัว เช่น สินเชื่อเพื่อการประกอบธุรกิจ

MRR (Minimum Retail Rate) คืออะไร

MRR (Minimum Retail Rate) คือ อัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารเรียกเก็บจากลูกค้ารายย่อยชั้นดี ไม่มีประวัติเสียทางด้านการเงิน เช่น สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อที่อยู่อาศัย

MOR (Minimum Overdraft Rate) คืออะไร

MOR (Minimum Overdraft Rate) คือ อัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารเรียกเก็บจากลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี เป็นประเภทวงเงินเบิกเกินบัญชี หรือ Overdraft (OD)


ดอกเบี้ย MLR MRR และ MOR ต่างกันอย่างไร

ดอกเบี้ย MLR, MRR และ MOR เป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงแบบลอยตัวที่ธนาคารใช้คิดดอกเบี้ยเงินกู้ โดยสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสภาวะเศรษฐกิจและนโยบายการเงิน โดยดอกเบี้ยทั้ง 3 ประเภทมีความแตกต่างกันที่ MLR (Minimum Loan Rate) เป็นดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี มักใช้กับเงินกู้ระยะยาวที่มีกำหนดเวลาชำระแน่นอน เช่น สินเชื่อธุรกิจ ในขณะที่ MRR (Minimum Retail Rate) ใช้กับลูกค้ารายย่อยชั้นดีที่ไม่มีประวัติเสียทางการเงิน เหมาะสำหรับสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อบ้าน ส่วน MOR (Minimum Overdraft Rate) เป็นดอกเบี้ยสำหรับวงเงินเบิกเกินบัญชี (OD) ที่ใช้กับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ให้ความยืดหยุ่นในการกู้ยืมมากกว่า

วิธีคิดดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคาร


วิธีคิดดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคาร

ธนาคารมีวิธีคิดดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ 2 แบบหลัก โดยจะนำอัตรา MRR MLR และ MOR มาเป็นฐานในการคำนวณ ได้แก่ ดอกเบี้ยเงินต้นคงที่ และดอกเบี้ยลดต้นลดดอก ซึ่งแต่ละแบบมีวิธีการคำนวณที่แตกต่างกัน

1. ดอกเบี้ยเงินต้นคงที่ (Flat Rate)

ดอกเบี้ยเงินต้นคงที่ (Flat Rate) คือ อัตราดอกเบี้ยที่กำหนดไว้เป็นตัวเลขเฉพาะแบบคงที่ตลอดอายุสัญญาเงินกู้ จะไม่ขึ้นหรือลดลงตามต้นทุนหรือประกาศของสถาบันการเงิน โดยการคิดดอกเบี้ย คิดจากเงินต้นตั้งแต่เริ่มทำสัญญา แล้วนำไปหารจำนวนงวดที่ต้องผ่อนชำระ ก็จะได้ดอกเบี้ยเฉลี่ยที่ต้องจ่ายในแต่ละงวดแบบเท่ากันทุกเดือน แม้จะผ่อนไปเรื่อย ๆ ดอกเบี้ยก็ยังคงเท่าเดิม ไม่ได้ลดตามเงินต้น อัตราดอกเบี้ยลักษณะนี้จึงมักใช้กับกลุ่มสินเชื่อรถยนต์

2. ดอกเบี้ยลดต้นลดดอก (Effective Rate)

ดอกเบี้ยลดต้นลดดอก (Effective Rate) คือ การคิดดอกเบี้ยจากเงินต้นคงเหลือที่แท้จริงในแต่ละงวด ทำให้ค่างวดที่จ่ายในแต่ละเดือน ถูกนำมาลดทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย ซึ่งทำให้ดอกเบี้ยที่นำคิดคำนวณในงวดถัดไปลดลง ดังนั้น หากต้องการผ่อนหมดไว ปิดหนี้ได้เร็วขึ้น สามารถใช้วิธีการโปะเงินก้อนเข้าไป ยิ่งโปะมากยิ่งลดได้มาก การคิดดอกเบี้ยรูปแบบนี้มักใช้ในกลุ่มสินเชื่อบ้าน หรือสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย

สรุปเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย MRR MLR และ MOR


สรุป

MRR MLR และ MOR ความแตกต่างหลักของดอกเบี้ยทั้ง 3 ประเภท อยู่ที่วัตถุประสงค์การใช้งาน และกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ดังนั้น ผู้ที่วางแผนจะกู้ซื้อบ้าน จึงควรทำความเข้าใจความแตกต่างของดอกเบี้ยทั้ง 3 ประเภทนี้ให้ดี โดยเฉพาะ อัตรา MRR ที่มักจะถูกใช้อ้างอิงในกลุ่มสินเชื่อบ้าน เมื่อเราเข้าใจพื้นฐานเหล่านี้ได้ ก็จะช่วยให้สามารถเปรียบเทียบดอกเบี้ย เงื่อนไขต่าง ๆ ได้ และเลือกสินเชื่อที่เหมาะสมกับความต้องการของตนเองได้

สำหรับใครที่กำลังมองหาสินเชื่อบ้านที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ และคิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอกทีทีบี พร้อมมอบทางเลือกที่ดีที่สุดให้กับคุณ ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อบ้านใหม่-บ้านมือสอง หรือสินเชื่อรีไฟแนนซ์ ที่มีอัตราดอกเบี้ยพิเศษหลากหลายทางเลือกรวมถึงค่างวดผ่อนแต่ละเดือน ซึ่งสามารถผ่อนได้นานสูงสุดถึง 35 ปี ที่ให้วงเงินอนุมัติสูงสุด 100% หรือสูงสุด 50 ล้านบาท สนใจสอบถามรายละเอียดหรือรับคำแนะนำเพิ่มเติม ได้ที่สาขา ttb ทั่วประเทศ หรือลงทะเบียนผ่านช่องทางออนไลน์เพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสินเชื่อบ้านติดต่อกลับได้ที่ แอป ttb touch หรือเว็บไซต์

กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว : สินเชื่อบ้านใหม่ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา 4.939% - 5.949% ต่อปี • สินเชื่อบ้านมือสอง อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา 5.563%- 6.648% ต่อปี • สินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา 4.862% - 5.315% ต่อปี • อัตราดอกเบี้ย MRR = 7.705% ต่อปี ณ วันที่ 1 พ.ย. 67 • อัตราดอกเบี้ยลอยตัวสามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ • เงื่อนไขการสมัคร และอนุมัติสินเชื่อเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนด

สินเชื่อบ้าน รีไฟแนนซ์