ข้อดีของการมีรถยนต์ ไม่ได้มีแค่เอาไว้ขับขี่แต่เรายังสามารถนำรถไปใช้ประโยชน์ในด้านอื่นๆได้อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการนำไปทำธุรกิจ การนำไปหารายได้ด้วยการให้เช่า และที่สำคัญนั้น รถยนต์คือทรัพย์สินที่มีค่าสามารถนำไปใช้เป็นหลักประกันในการกู้เงินได้อีกด้วย การกู้เงินที่เป็นที่นิยมคือ รีไฟแนนซ์รถและการนำรถไปแลกเงิน ซึ่งสินเชื่อทั้ง 2 ประเภทนี้มีวัตถุประสงค์เดียวกัน คือการนำเอารถที่ตนเองมีเป็นหลักค้ำประกันเพื่อให้สามารถมีเงินก้อน ซึ่งเราจะมาดูกันว่าสินเชื่อทั้ง 2 ประเภทนั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร
รีไฟแนนซ์รถยนต์
รีไฟแนนซ์รถยนต์ คือ สินเชื่อสำหรับรถที่ยังมีภาระเพราะยังผ่อนไม่หมด แต่ก็นำรถมาเข้าไฟแนนซ์ เพื่อเป็นหลักประกันเงินกู้ได้ กู้แล้วก็ยังขับขี่รถได้เหมือนเดิม เป้าหมายของสินเชื่อในรูปแบบนี้คือ จะได้รับเงินก้อนเพื่อนำไปปิดหนี้ก้อนเดิม ซึ่งประโยชน์ที่จะได้จากหนี้ก้อนใหม่คือ การยืดระยะเวลาในการผ่อนให้นานขึ้น ได้ดอกเบี้ยในการผ่อนที่ถูกลงกว่ายอดหนี้เก่า ลดความตึงเครียดในการชำระลงเพราะมียอดผ่อนต่อเดือนในจำนวนที่น้อยลง หากมีเงินก้อนส่วนต่างเหลือก็สามารถนำมาใช้หมุนเวียนให้เกิดสภาพคล่องทางการเงินได้
ตัวอย่างเช่น หากเรากู้เงินเพื่อผ่อนรถ 500,000 บาท ผ่อนมาแล้ว 300,000 บาท เหลือเงินที่จะต้องปิดจำนวน 200,000 บาท ที่นี้พอมีการประเมินรถอีกครั้ง ไฟแนนซ์ประเมินและปล่อยกู้ได้ที่ 350,000 บาท เราก็สามารถเอาเงินก้อนนี้ไปโป๊ะเพื่อปิดยอดหนี้ที่เหลือ 200,000 บาท และเราจะมีเงินก้อนที่ได้มาจากการกู้อีกส่วนหนึ่งจำนวน 150,000 เพื่อไปใช้จ่ายในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเอาไปโป๊ะหนี้อื่นๆที่มีดอกเบี้ยสูงกว่า เช่น บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล หรือจะเป็นการเอาไปใช้จ่ายเรื่องที่จำเป็น หรือการนำไปใช้ทำธุรกิจก็ได้
สินเชื่อรถแลกเงิน
ในส่วนของสินเชื่อรถแลกเงินจะแตกต่างกันไปเพราะเป็นสินเชื่อสำหรับรถยนต์ที่ปลอดภาระ พูดง่ายๆก็คือเป็นรถยนต์ที่ผ่อนเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว ซึ่งเราสามารถเอารถไปเป็นหลักประกันในการขอเงินกู้ โดยที่เรายังสามารถใช้รถได้ปกติในชีวิตประจำวันเหมือนเดิม เมื่อเราขอสินเชื่อ เราจะได้รับเงินก้อนไปเป็นทุนในการทำกิจการต่างๆในชีวิตประจำวัน หรือเอาไว้ใช้จ่ายหากเกิดเหตุการณ์ที่ฉุกเฉินได้
สินเชื่อรถแลกเงินแบ่งออกได้อีก 2 ประเภทย่อยคือ
- แบบโอนเล่มทะเบียน
- แบบไม่โอนเล่มทะเบียน
และรถที่เอามาขอสินเชื่อนั้น ส่วนใหญ่สถาบันการเงินต่างๆ จะรับรถยนต์ที่มีอายุไม่เกิน 16 ปี
เพราะฉะนั้นแล้วหากเรามีรถแล้วต้องการเงินกู้ก็ต้องดูว่ารถของเราปลอดภาระแล้วหรือไม่ หากเรามีรถแต่ยังไม่ปลอดภาระ ยังมีหนี้อยู่ก็สามารถกู้ได้ แต่จะเป็นการกู้เพื่อปิดวงเงินเดิมและได้ดอกเบี้ยที่ต่ำลง และอาจจะมีเงินก้อนเหลือมาใช้ในวัตถุประสงค์อื่นๆได้ แต่กรณีที่ปลอดภาระแล้วสามารถใช้สินเชื่อรถแลกเงิน เพื่อนำเงินไปใช้ในวัตถุประสงค์ต่างๆทางการเงินที่เราต้องการ
อย่างไรก็ตาม ต้องอย่าลืมว่าก่อนการตัดสินใจว่าจะเลือกทำสินเชื่อแบบใดแบบหนึ่ง ควรหาข้อมูลและขอรายละเอียดต่างๆจากสถาบันการเงิน เช่น เงื่อนไขในการปล่อยเงินกู้ อัตราดอกเบี้ย วงเงินที่ให้ระยะเวลาการผ่อน การให้บริการ และรายละเอียดอื่นๆ โดยนำมาเปรียบเทียบกันหลายๆที่เพื่อให้เราสามารถได้รับสิ่งที่คุ้มค่าและดีที่สุด
คุณสมบัติในการสมัครสินเชื่อรถแลกเงินแบบปลอดภาระและสินเชื่อรถแลกเงินรีไฟแนนซ์ ของทางทีทีบีไดรฟ์
- มีอายุระหว่าง 20-65 ปี
- มีรายได้ขั้นต่ำ 9,000 บาท
- มีรถเก๋งหรือรถกระบะที่อายุรถไม่เกิน 16 ปี
- ดอกเบี้ยถูก ขึ้นอยู่กับปีของรถและระยะเวลาที่ผ่อน
- ได้วงเงินสินเชื่อสูงสุด 120% ของราคาประเมิณ
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากลิงก์นี้เลย https://www.ttbbank.com/th/personal/loans/hire-purchase/cash-your-car#register-section