ทำงานมาก็หลายปี ทำไมยังไม่มีเงินเก็บ?
ปัญหาของเพื่อนๆ พนักงานประจำหลายๆ คน ที่เจอปัญหานี้อยู่ เราอาจจะมีพฤติกรรมที่เรียกว่า “Latte Factor” คือการที่เรามีค่าใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ แบบไม่รู้ตัวหลายรายการ ซึ่งถ้าลองนำมารวมๆ กันแล้ว มันเยอะกว่าที่เราคิดไว้มาก และนั่นจึงเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เราไม่สามารถเก็บเงินได้สักที
“Latte Factor” ค่าใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำให้เก็บเงินไม่ได้!
แนวคิด “Latte Factor” มาจากหนังสือ The Automatic Millionaire หรือ “เศรษฐีเงินล้านอัตโนมัติ” ของ David Bach ซึ่งทำให้เราฉุกคิดเรื่องค่าใช้จ่ายเล็กๆน้อยๆในชีวิตประจำวัน โดยเปรียบเทียบเป็นการจ่ายค่า “กาแฟลาเต้” ในทุกๆ วัน ถ้าเราลองนำค่าใช้จ่ายนี้ในแต่ละเดือนมารวมกันอาจจะเป็นเงินก้อนใหญ่ ที่เราคาดไม่ถึง ซึ่งไม่ใช่แค่กาแฟอย่างเดียว ยังหมายถึงค่าใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ อื่นๆ เช่น ค่าชานมไข่มุก ค่าบุหรี่ ค่าหวย ของที่ซื้อมาแล้วไม่ได้ใช้ ฯลฯ ซึ่งถ้าเราลด ละ เลิก ค่าใช้จ่ายเหล่านี้ได้ แล้วนำเงินไปลงทุน ก็มีโอกาสที่จะได้ผลตอบแทนกลับคืนมาในอนาคตอย่างคาดไม่ถึงเลยทีเดียว
ยกตัวอย่าง เมื่อเรานำค่าใช้จ่ายเหล่านี้ไปลงทุนที่ได้ผลตอบแทนในอัตรา10% ต่อปี นี่คือสิ่งที่เราจะได้รับ
จากภาพตัวอย่าง จะเห็นได้ว่า หากเราปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โดยการลดค่าใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ลง โดยค่อยๆปรับพฤติกรรมลดลงทีละ 10% 20% ไปจนถึงลดลงทั้งหมด เราจะสามารถมีเงินเก็บหลักล้านได้สบายๆภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปี
เช่น เลือกดื่มชานมไข่มุกราคาที่ถูกลงจากวันละ 120 บาท เป็นวันละ 60 บาท นอกจากเราจะได้ดื่มชาไข่มุกที่เราชอบแล้ว เรายังมีเงินเก็บอีกด้วย
เมื่อมีเงินเก็บก็ควรปล่อยให้เงินทำงานแทนที่จะเก็บไว้นิ่งๆ ในบัญชีออมทรัพย์ โดยเปลี่ยนไปลงทุนในกองทุนรวมแทนเพื่อจะได้เพิ่มโอกาสให้เงินสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แค่นี้ก็สามารถสร้างโอกาสมีเงินเก็บก้อนโตในอนาคตได้
โดยตัวช่วยสำคัญที่จะทำให้เงินทำงานตลอด แถมมีโอกาสงอกเงยไปถึงหลักล้านได้เร็วยิ่งขึ้น ก็คือการทยอยแบ่งเงินมาลงทุนเป็นงวดๆ แบบ DCA
ลองมาดูกันว่า พนักงานประจำอย่างเรา ทำไมถึงควรลงทุนด้วยวิธี DCA ?
เรามาเปลี่ยนค่าใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่จำเป็น ให้เป็นการออมผ่เพื่อลงทุนด้วย “DCA” หรือ “Dollar Cost Average” ซึ่งสามารถสร้างวินัยในการออมเงินที่ดีมาก เพราะเป็นวิธีทยอยแบ่งเงิน มาลงทุนเป็นงวดๆ ด้วยจำนวนเงินครั้งละเท่าๆกัน เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง เช่น ทุกสัปดาห์ หรือ ทุกเดือน เพื่อเป็นตัวช่วยสำหรับคนต้องการการออมเงินระยะยาว ให้เงินงอกเงยเป็นเงินก้อนโตในอนาคต
ลงทุนสไตล์ DCA “ยิ่งเงินก้อนใหญ่ยิ่งดี ยิ่งลงทุนยาว ยิ่งได้เปรียบ”
จากภาพด้านบนจะเห็นได้ว่า หากเรานำเงินมาลงทุนในกองทุนรวมที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยปีละ 10% ต่อปี เดือนละ 5,000 บาท เมื่อเวลาผ่านไป 10 ปี ก็ทำให้เรามีเงินออมถึง 1 ล้านบาทแล้ว และยิ่งทยอยลงทุนไปเรื่อย ๆ เป็นระยะเวลา 20 ปี คุณก็จะมีเงินออมเกือบ 4 ล้านบาทเลยทีเดียว
การออมผ่านการลงทุนสไตล์ “DCA” เป็นการลงทุนที่เน้นวินัย และระยะเวลาในการลงทุน เป็นหลักสำคัญ “ยิ่งเงินก้อนใหญ่ยิ่งดี ยิ่งลงทุนยาว ยิ่งได้เปรียบ” ที่สำคัญคือต้องเลือกนำเงินไปวางให้ถูกที่ด้วย เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนเต็มเม็ดเต็มหน่วย
โดยค่อยๆ เพิ่มเงินลงทุนตามรายได้ที่ได้รับ มีวินัยลงทุนต่อเนื่องให้ได้นานเพียงพอ แม้จะไม่ได้เริ่มด้วยเงินก้อนใหญ่ ก็สามารถช่วยให้เราไปถึง ”เงินหลักล้าน” ได้เช่นเดียวกัน
เพื่อทำให้คุณใช้ชีวิตอย่างอิสระ และมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น
สนใจเปลี่ยนมาลงทุนแบบ DCA ได้ที่ ทีทีบีธนชาต ทุกสาขา หรือปรึกษาเพิ่มเติม ttb investment line โทร 1428 กด#4 (วันเวลาทำการ จันทร์ - ศุกร์ เวลา 9:00 – 17:30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ)
Credit : เพจ Salary Investor
หมายเหตุ : ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน /ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต/การลงทุนในหน่วยลงทุน มิใช่การฝากเงิน และมีความเสี่ยงของการลงทุน/กองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศและไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรืออาจได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้/ ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลในหนังสือชี้ชวน โดยเฉพาะนโยบายการลงทุน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุน ก่อนตัดสินใจลงทุน