external-popup-close

คุณกำลังออกจากเว็บไซต์ ทีทีบี
เพื่อเข้าสู่

https://www.ttbbank.com/

ตกลง

ผ่อนรถไม่ไหว เตรียมพร้อมยังไงไม่ให้โดนยึด

#fintips #รอบรู้เรื่องกู้ยืม
28 ส.ค. 2567

การผ่อนรถเป็นภาระที่หลายคนต้องเจอ แต่หากวันหนึ่งคุณพบว่าการผ่อนรถไม่ไหว อาจทำให้เกิดความกังวลใจว่า ถ้าผ่อนรถไม่ไหวทำไงดี บทความนี้จะนำเสนอวิธีการเตรียมพร้อมและทางออกที่ช่วยให้คุณไม่ต้องสูญเสียเครดิตหรือโดนยึดรถ รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับการ คืนรถไฟแนนซ์ และการรีไฟแนนซ์รถยนต์ เพื่อให้คุณมีทางเลือกในการจัดการภาระการเงินได้อย่างเหมาะสม


ถ้าผ่อนรถไม่ไหวทำไงดี

หากเราพบว่าการผ่อนรถเริ่มเป็นภาระหนัก ควรพิจารณาวิธีการจัดการต่าง ๆ ดังนี้

ขายดาวน์ให้กับคนอื่น

ผ่อนรถไม่ไหว เราสามารถขายดาวน์ให้กับคนอื่นได้ สามารถทำได้ 2 วิธีคือ

1. ขายในราคาตลาด
วิธีนี้จะเป็นการขายรถในราคาที่ตรงกับราคาตลาดในปัจจุบัน วิธีนี้จะช่วยให้เราได้รับเงินก้อนใหญ่เพียงพอที่จะนำมาชำระหนี้ที่ค้างคาได้ทันเวลา การขายในราคาตลาดมีข้อดีหลายอย่าง เช่น

  • ได้รับเงินก้อนใหญ่ทันที : เงินที่ได้จากการขายในราคาตลาดสามารถนำมาชำระหนี้สินได้ทันที ทำให้คุณหลุดพ้นจากภาระหนี้ได้รวดเร็ว
  • ลดภาระดอกเบี้ย : การชำระหนี้ที่ค้างคาในทันทีจะช่วยลดภาระดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายในอนาคต

2. ขายตามจำนวนเงินดาวน์แล้วให้เจ้าของใหม่ไปผ่อนต่อเอง
วิธีนี้คือการขายรถในราคาที่เท่ากับจำนวนเงินดาวน์ที่เราได้จ่ายไปแล้ว จากนั้นให้ผู้ซื้อใหม่เข้ามารับผิดชอบในการผ่อนชำระต่อ วิธีนี้จะช่วยให้เราไม่เสี่ยงคืนรถไฟแนนซ์ ไม่ถูกยึดรถ และไม่เสียเครดิตในระยะยาว ข้อดีของวิธีนี้คือ

  • ลดความเสี่ยงในการถูกยึดรถ : การขายรถแบบนี้ช่วยให้เราไม่เสี่ยงถูกยึดรถและไม่ต้องเสียประวัติทางการเงิน
  • ง่ายต่อการหาผู้ซื้อ : ราคาขายตามจำนวนเงินดาวน์ที่จ่ายไปแล้วมักจะถูกกว่า ทำให้หาผู้ซื้อได้ง่ายกว่า

ตัวอย่างเช่น หากเราจ่ายเงินดาวน์ไปแล้ว 100,000 บาท และยังมีหนี้สินที่ต้องผ่อนต่อเดือนละ 10,000 บาท ผู้ซื้อใหม่จะต้องจ่ายเงินดาวน์ 100,000 บาทให้เราและรับผิดชอบการผ่อนชำระเดือนละ 10,000 บาทต่อไป

ถ้าผ่อนรถไม่ไหวทำไงดี ? การเลือกวิธีใดวิธีหนึ่งขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเงินและความต้องการของเรา การขายดาวน์ให้กับคนอื่นเป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยให้เราสามารถจัดการภาระการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องเสี่ยงต่อการถูกยึดรถหรือติดเครดิตบูโร


คืนรถยนต์ให้กับไฟแนนซ์

ผ่อนรถไม่ไหวคืนรถได้ไหม ? หากรู้ตัวว่ากำลังจะผ่อนไม่ไหว การคืนรถไฟแนนซ์ อาจเป็นทางออกที่ดีที่สุด การคืนรถเองจะดีกว่าการปล่อยให้รถถูกยึด การคืนรถเพราะผ่อนไม่ไหวจะไม่ทำให้เสียประวัติทางการเงิน

แล้วคืนรถให้ไฟแนนซ์เสียเครดิตไหม? คำตอบคือถ้าคืนรถเองและไม่มีการค้างชำระจะไม่เสียเครดิต แต่ถ้าปล่อยให้ค้างชำระจนถูกยึดจะเสียเครดิตและติดแบล็กลิสต์


รีไฟแนนซ์รถยนต์

ผ่อนรถไม่ไหวคืนรถได้ไหม หากมีความจำเป็นต้องใช้รถแนะนำให้ลองรีไฟแนนซ์รถยนต์ก่อน การรีไฟแนนซ์รถยนต์ คือ การขอสินเชื่อใหม่เพื่อมาชำระสินเชื่อเดิม วิธีนี้จะช่วยลดค่างวดรายเดือนหรือขยายระยะเวลาการผ่อนชำระ ทำให้เราสามารถจัดการภาระการเงินได้ง่ายขึ้น โดยปกติแล้วการรีไฟแนนซ์จะมีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าและเงื่อนไขการผ่อนชำระที่ยืดหยุ่นมากขึ้น

ประโยชน์ของการรีไฟแนนซ์รถยนต์มีดังนี้

  • ลดค่างวดรายเดือน : การรีไฟแนนซ์จะช่วยลดภาระค่างวดรายเดือน ทำให้เราสามารถบริหารจัดการเงินได้ดีขึ้น
  • ขยายระยะเวลาการผ่อนชำระ : สามารถขยายระยะเวลาการผ่อนชำระออกไปได้ ทำให้เรามีเวลาในการจัดการภาระหนี้สิน
  • ลดอัตราดอกเบี้ย : โดยปกติแล้วการรีไฟแนนซ์จะมีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าสินเชื่อเดิม ทำให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว


ปรึกษากับธนาคาร

หากรู้สึกว่าภาระการเงินเริ่มหนักเกินไป การปรึกษากับธนาคาร เพื่อหาทางออกเป็นสิ่งที่ควรพิจารณา ธนาคารมักมีหลายวิธีที่จะช่วยลูกหนี้ให้สามารถจัดการกับภาระหนี้ได้ดีขึ้นโดยไม่ต้องเสียเครดิต โดยวิธีที่นิยมใช้มีดังนี้

  • การปรับโครงสร้างหนี้ : เป็นการเจรจากับธนาคารเพื่อปรับเปลี่ยนเงื่อนไขการชำระหนี้ เช่น การขยายระยะเวลาการผ่อนชำระหรือลดอัตราดอกเบี้ย
  • การผ่อนชำระเฉพาะดอกเบี้ย : ในบางกรณีธนาคารอาจอนุญาตให้คุณผ่อนชำระเฉพาะดอกเบี้ยในระยะเวลาหนึ่ง เพื่อให้เรามีเวลาในการจัดการภาระหนี้ที่เหลือ
  • การหาวิธีชำระหนี้ใหม่ : ธนาคารอาจเสนอทางเลือกอื่น ๆ ที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของเรา เช่น การรีไฟแนนซ์ หรือการขอสินเชื่อเพิ่มเติมเพื่อมาชำระหนี้เดิม

หากค้างค่างวดรถจนถูกยึด ส่งผลเสียยังไง


หากค้างค่างวดรถจนถูกยึด ส่งผลเสียต่อเรายังไง

ผ่อนรถไม่ไหวจนทำให้ค้างชำระค่างวดรถเป็นเรื่องที่ต้องระวัง เพราะสามารถส่งผลเสียต่อสถานะทางการเงินและเครดิตของเราได้ ซึ่งการค้างชำระและการถูกยึดรถมีขั้นตอนและผลกระทบ ดังนี้

ค้างชำระได้มากสุดกี่เดือน
ค่างวดรถค้างได้กี่งวด ? ระยะเวลาที่สามารถค้างชำระค่างวดรถได้จะขึ้นอยู่กับสัญญาของแต่ละสถาบันการเงิน แต่ส่วนมากแล้วสามารถค้างชำระได้ไม่เกิน 3 เดือน หากเกินจากนั้น สถาบันการเงินมีสิทธิ์ที่จะดำเนินการยึดรถคืนได้

นานเท่าไหร่ถึงโดนยึดรถ
ไม่ผ่อนรถกี่เดือนโดนยึด ? หากเราค้างค่างวดรถ เกิน 3 เดือน สถาบันการเงินจะเริ่มดำเนินการแจ้งเตือนและเรียกเก็บเงินที่ค้างชำระ หากยังไม่มีการชำระหนี้ สถาบันการเงินจะเริ่มกระบวนการยึดรถ ซึ่งระยะเวลาที่จะถูกยึดขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละสถาบันการเงิน แต่โดยทั่วไปจะอยู่ในระยะเวลา 3-6 เดือน

ผลเสียของการถูกยึดรถ

  • การติดเครดิตบูโร : เมื่อถูกยึดรถ สถาบันการเงินจะรายงานสถานะหนี้ของเราไปยังเครดิตบูโร ทำให้เรามีประวัติการค้างชำระหนี้ ซึ่งจะส่งผลให้การขอสินเชื่อในอนาคตยากขึ้น
  • การเสียเครดิต : นอกจากการติดเครดิตบูโรแล้ว การมีประวัติการถูกยึดรถยังทำให้เครดิตของเราเสียหาย ทำให้สถาบันการเงินไม่มั่นใจในการให้สินเชื่อในอนาคต
  • ความเสี่ยงในการชำระเงินส่วนต่าง : หากราคาขายทอดตลาดของรถไม่เพียงพอที่จะชำระหนี้ที่เหลือ เราอาจต้องรับผิดชอบในการชำระเงินส่วนต่างนั้น ซึ่งเป็นภาระทางการเงินเพิ่มเติม

การค้างชำระค่างวดรถและการถูกยึดรถเป็นเรื่องที่ควรหลีกเลี่ยง หากเรารู้สึกว่าภาระการเงินเริ่มหนักเกินไป ควรปรึกษากับธนาคารหรือสถาบันการเงินเพื่อหาทางออก เช่น การปรับโครงสร้างหนี้ หรือการรีไฟแนนซ์รถยนต์ เพื่อช่วยลดภาระการเงินและหลีกเลี่ยงผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์จากการค้างชำระหนี้


รีไฟแนนซ์รถยนต์ ttb DRIVE หรือคำนวณสินเชื่อรถแลกเงินคลิก ที่นี่ เลย

รีไฟแนนซ์รถยนต์ ttb DRIVE หรือคำนวณสินเชื่อรถแลกเงิน


สรุปบทความ

การผ่อนรถไม่ไหวเป็นปัญหาที่หลายคนอาจเจอ แต่มีทางออกเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการขายดาวน์ คืนรถไฟแนนซ์ หรือรีไฟแนนซ์รถยนต์ สิ่งสำคัญคือต้องรีบจัดการก่อนที่ปัญหาจะลุกลาม

หากคุณกำลังพิจารณาทางเลือกในการแก้ปัญหา การรีไฟแนนซ์กับ ttb DRIVE อาจเป็นทางออกที่ดี ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่แข่งขันได้และเงื่อนไขที่ยืดหยุ่น คุณอาจสามารถลดภาระค่างวดและจัดการหนี้ได้ดีขึ้น อย่าลืมเช็กค่างวดรถ ttb เพื่อประเมินความสามารถในการผ่อนของคุณก่อนตัดสินใจ

การเผชิญกับปัญหาทางการเงินไม่ใช่เรื่องน่าอาย แต่การไม่จัดการกับปัญหาต่างหากที่อาจนำไปสู่ผลเสียร้ายแรง ดังนั้นหากคุณกำลังประสบปัญหา อย่าลังเลที่จะหาทางออกและขอความช่วยเหลือ เพื่อให้สถานการณ์ทางการเงินของคุณกลับมาปกติอีกครั้ง

*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 5.93% - 23.00% ต่อปี