การซื้อบ้านเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิต เพราะต้องใช้ทั้งเงินลงทุนและการวางแผนอย่างรอบคอบ หลายคนอาจสงสัยว่า "ซื้อบ้านต้องเตรียมอะไรบ้าง" หรือ "จะซื้อบ้านต้องเตรียมตัวอย่างไร" โดยเฉพาะคนที่กำลังจะซื้อบ้านหลังแรก
บทความนี้จะแนะนำ 7 เรื่องพื้นฐานที่ควรรู้และเตรียมพร้อมก่อนการซื้อบ้าน เพื่อให้เราสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและรอบคอบ ตั้งแต่การประเมินความพร้อมทางการเงิน การเลือกทำเลที่ตั้ง ไปจนถึงการเลือกสินเชื่อบ้านที่เหมาะสม
การเตรียมตัวก่อนซื้อบ้าน
การซื้อบ้านแน่นอนว่าต้องมีการเตรียมตัวหลายอย่าง ซึ่งถือว่าเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้เราตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและรอบคอบ มาดูกันว่าซื้อบ้านต้องเตรียมอะไรบ้าง
1. ประเมินความพร้อมทางการเงิน
ซื้อบ้านต้องเตรียมอะไรบ้าง ? ก่อนอื่นเราต้องรู้ว่าตัวเองมีความพร้อมทางการเงินแค่ไหน โดยให้ตรวจสอบรายได้ รายจ่าย และเงินออม เพื่อดูว่าเรามีเงินก้อนเพียงพอสำหรับเงินดาวน์หรือไม่ ซึ่งเงินดาวน์ควรมี 10-20% ของราคาบ้าน และ ถ้าหากคุณประมาณรายได้ หักรายจ่าย ของตนเองมาอย่างรอบคอบว่าจะสามารถกู้ซื้อบ้านได้ช่วงราคาที่เท่าไหร่ ก็จะทำให้การกู้ ผ่านได้ง่ายขึ้น โดยสัดส่วนที่เหมาะสมของภาระหนี้ทั้งหมด รวมถึงภาระหนี้สำหรับการกู้บ้านจะต้องไม่เกิน 30% – 40% ของรายได้ ยกตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการซื้อบ้านในราคา 2 ล้านบาท คุณก็จะต้องผ่อนบ้านเดือนละประมาณ 14,000 บาท ดังนั้นควรจะต้องประเมินความพร้อมทางการเงินให้ดี เพื่อดูว่าผ่อนไหวหรือไม่ และ หลังจากผ่อนแล้วมีเงินเหลือในการใช้จ่ายในแต่ละเดือนเท่าไหน
ส่วนใครที่กำลังสงสัยว่าเงินเดือน 30000 ซื้อบ้านได้ไหม ? คำตอบคือ เป็นไปได้ แต่ต้องวางแผนการเงินอย่างรัดกุม ต้องพิจารณาการซื้อบ้านในราคาที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเลือกเป็นบ้าน คอนโดขนาดเล็ก หรือทาวน์โฮม และแนะนำว่าควรหาวิธีการสร้างรายได้เพิ่มเติม ขยันเก็บเงินให้มากขึ้น โดยลองศึกษาเรื่องของการซื้อบ้านหลังแรก เพิ่มได้ที่บทความ ซื้อบ้านหลังแรก เงินเดือนเท่าไหร่กู้ซื้อบ้านได้ เพื่อให้เราวางแผนการเงินให้ดียิ่งขึ้น
2. ตั้งงบประมาณในการซื้อบ้าน
ควรกำหนดงบประมาณที่เราสามารถจ่ายได้ โดยคำนึงถึงเงินดาวน์และความสามารถในการผ่อนชำระรายเดือน อย่าลืมว่าการซื้อบ้านหลังแรกอาจมีค่าใช้จ่ายแฝงอื่น ๆ ที่เราไม่คาดคิด เช่น ค่าธรรมเนียมการโอน, ค่าจดจำนอง,ค่าประเมินบ้าน, ค่าทำประกันอัคคีภัย ฯลฯ และหลังจากที่ซื้อบ้านแล้ว นอกจากค่าผ่อนบ้าน ยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เราต้องคำนึงถึง เช่น ค่าส่วนกลาง ค่าประกันบ้าน และค่าบำรุงรักษา ซึ่งการเตรียมตัวซื้อบ้านที่ดีควรรวมการประมาณการค่าใช้จ่ายเหล่านี้ด้วย เพื่อช่วยให้เราสามารถวางแผนการเงินได้แม่นยำขึ้นและหลีกเลี่ยงปัญหาทางการเงินในอนาคต
3. เช็กเครดิตบูโรและปรับปรุงคะแนนเครดิต
คะแนนเครดิตมีผลอย่างมากต่อการอนุมัติสินเชื่อบ้าน หากคะแนนเครดิตของเราไม่ดี อาจทำให้ได้รับการอนุมัติสินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าหรืออาจถูกปฏิเสธสินเชื่อได้ ดังนั้นควรตรวจสอบและปรับปรุงคะแนนเครดิตก่อนยื่นขอสินเชื่อ สำหรับผู้ที่มีคะแนนเครดิตบูโรไม่ค่อยดีนัก ก็ยังมีโอกาสปรับปรุงได้แต่ต้องใช้เวลาสักระยะซึ่งขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้จ่ายของเรา โดยสามารถปรับใช้ได้ด้วยวิธีดังนี้
- ชำระหนี้ตรงเวลาทุกงวด การชำระหนี้ตรงตามกำหนดเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการปรับปรุงคะแนนเครดิต
- ลดยอดหนี้ค้างชำระ พยายามชำระหนี้เก่าให้หมดโดยเร็วที่สุด โดยเฉพาะหนี้บัตรเครดิต
- รักษาอัตราส่วนการใช้วงเงินให้ต่ำ ใช้วงเงินสินเชื่อไม่เกิน 30% ของวงเงินที่ได้รับ
- หลีกเลี่ยงการสมัครสินเชื่อใหม่บ่อยเกินไป การตรวจสอบเครดิตบ่อยครั้งอาจส่งผลลบต่อคะแนน
- ตรวจสอบรายงานเครดิตสม่ำเสมอ หากพบข้อมูลผิดพลาด ให้แจ้งแก้ไขทันที
การปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้อย่างต่อเนื่องจะช่วยปรับปรุงคะแนนเครดิตของคุณ เพิ่มโอกาสในการได้รับอนุมัติสินเชื่อบ้านในอนาคตได้มากขึ้น
หลังจากที่เราได้เตรียมตัวด้านการเงินแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเลือกบ้านและโครงการที่ตรงกับความต้องการของเรา ไปดูกันเลยว่าตั้งแต่ข้อที่ 4 เป็นต้นไปมีขั้นตอนการเตรียมตัวซื้อบ้านอะไรบ้าง
4. เลือกทำเลที่ตั้งบ้าน
ทำเลที่ตั้งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตและมูลค่าบ้านในอนาคต โดยควรพิจารณาทั้งความสะดวกในการเดินทาง สาธารณูปโภค และสภาพแวดล้อม และความเป็นไปได้ในการพัฒนาในอนาคต
5. ตรวจสอบสภาพบ้านและโครงการ
สำรวจโครงการ ดูบ้านตัวอย่างสถานที่จริง เพื่อให้แน่ใจว่ามีมาตรฐานการก่อสร้างและคุณภาพที่ดีพอ ทั้งคุณภาพการก่อสร้าง วัสดุที่ใช้ และสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการและสิ่งที่สำคัญหากคุณได้ตกลงซื้อบ้านแล้วจะต้อง ตรวจบ้านก่อนโอน อย่างละเอียดทุกครั้งก่อนรับมอบ
6. ศึกษาข้อมูลผู้พัฒนาโครงการ
ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับผู้พัฒนาโครงการให้ละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ และมีผลงานที่สามารถตรวจสอบได้ เพื่อเป็นเครื่องรับประกันในเบื้องต้นว่า จะได้บ้านที่มีมาตรฐานทั้งความแข็งแรง สร้างเสร็จตามเวลา ไม่มีการยกเลิกกลางคันระหว่างการก่อสร้าง รวมถึงยังมั่นใจได้ว่า บริการหลังการขายของโครงการที่ตัดสินใจเลือกซื้อจะมีเซอร์วิสที่ดีและปลอดภัยให้ในระยะยาว
7. เลือกสถาบันการเงินที่ต้องการขอกู้ซื้อบ้าน ว่าจะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้างเพื่อให้การกู้ซื้อทำได้ง่าย
หลังจากผ่านกระบวนการเลือกซื้อทั้งหมดมาแล้วว่าซื้อบ้านต้องเตรียมอะไรบ้าง ? สุดท้ายจะเป็นขั้นตอนของการกู้ซื้อบ้านที่มือใหม่ควรจะศึกษา เพื่อยื่นกู้ซื้อบ้าน ว่าจะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้างเพื่อให้การกู้ซื้อทำได้ง่ายและผ่านฉลุย โดยศึกษาและเปรียบเทียบข้อเสนอสินเชื่อบ้านจากหลายธนาคาร ซึ่งการเลือกสินเชื่อควรคำนึงถึงปัจจัยต่างๆดังนี้
- อัตราดอกเบี้ย ควรเลือกโปรโมชันอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ ทั้งปี 1 ปี 2 หรือ สามปีแรกต่ำสุด และอย่าลืมศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับดอกเบี้ยบ้าน เพื่อเป็นข้อมูลเปรียบเทียบดอกเบี้ยในแต่ละธนาคาร
- ระยะเวลาผ่อนชำระ ระยะเวลาการกู้ยืมยิ่งนานยิ่งมีผลต่อดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย เพราะแปลว่าเราต้องผ่อนนานขึ้น ดังนั้นถ้าหากเลือกได้สอดคล้องกับความสามารถในการผ่อนชำระ จะทำให้เราประหยัดดอกเบี้ยได้เช่นกัน ในทางตรงกันข้าม การเลือกอายุสินเชื่อยาวจะมีข้อดีที่ทำให้ค่างวดผ่อนชำระแต่ละเดือนเบาลง
- วงเงินสินเชื่อ ควรกู้ตามความจำเป็นที่เราต้องการ เพราะยิ่งกู้มาก ดอกเบี้ยก็ยิ่งมากตามไปด้วย ดังนั้นประเมินจำนวนเงินที่กู้ให้ดี ตรงนี้จะช่วยลดดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายได้
- ค่าใช้จ่ายต่างๆที่ต้องจ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าเบี้ยประกันอัคคีภัยบ้าน ค่าธรรมเนียมจำนองหลักประกัน ค่าประเมินราคาหลักประกัน ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ เหล่านี้ สำหรับบางธนาคารอาจจะมีการลดให้ หรือไม่ต้องจ่ายเลย ตรงนี้ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องพิจารณาเปรียบเทียบก่อนตัดสินใจ
- ค่าธรรมเนียมไถ่ถอนก่อนกำหนด กรณีที่เรามีการวางแผนรีไฟแนนซ์ หรือ ไถ่ถอนก่อนกำหนด อย่าลืมเช็กตรงนี้ด้วยว่า มีการกำหนดไว้หรือไม่ และตรงกับแผนที่เราวางไว้หรือเปล่า
และเมื่อเราได้ธนาคารที่โดนใจ ก็ทำการเตรียมเอกสาร และ ดำเนินการยื่นกู้ขอสินเชื่อได้เลย แต่ที่สำคัญหลังจากที่ได้เป็นเจ้าของบ้านตามที่ต้องการแล้ว การโปะบ้านถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยทำให้ภาระหนี้สินของคุณหมดไว เป็นเจ้าของบ้านได้เร็ว ด้วยเทคนิคที่ว่า จ่ายค่างวดเพิ่ม 10% เคล็ดลับช่วยผ่อนบ้านให้หนี้หมดเร็ว
บริการสินเชื่อบ้าน ทีทีบี ช่วยคุณเป็นเจ้าของบ้านได้ง่ายขึ้น
ทีทีบีเข้าใจความฝันของคุณในการมีบ้านเป็นของตัวเอง ไม่ว่าคุณจะต้องการซื้อบ้านใหม่ บ้านมือสอง เรามีบริการสินเชื่อบ้าน สินเชื่อคอนโด ที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณ
ทำไมถึงควรเลือกสินเชื่อบ้านกับทีทีบี
- วงเงินกู้สูงสุดถึง 100% ของราคาประเมิน ช่วยให้การซื้อบ้านง่ายขึ้น แม้มีเงินเก็บไม่มาก
- อัตราดอกเบี้ยพิเศษ ทำให้คุณสามารถประหยัดดอกเบี้ยในระยะยาว ระยะเวลาผ่อนนาน สูงสุดถึง 35 ปี ช่วยลดภาระค่างวดรายเดือน
- วงเงินอนุมัติสูงสุด 50 ล้านบาท
- บริการให้คำปรึกษาครบวงจร มีทีมผู้เชี่ยวชาญของเราพร้อมให้คำแนะนำถึงที่
- รับส่วนลดพิเศษเพิ่มจากโปรโมชันปกติ กรณีที่กู้ซื้อบ้าน – คอนโด ที่เป็นพันธมิตรพิเศษกับธนาคาร
หากคุณสนใจขอสินเชื่อบ้าน-คอนโด จากสินเชื่อบ้านทีทีบี สามารถทำการกรอกข้อมูล เพื่อขอคำแนะนำด้านสินเชื่อ และให้เจ้าหน้าที่ธนาคารติดต่อกลับ >>> ได้ที่นี่
*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว : สินเชื่อบ้านใหม่-คอนโดใหม่อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา 4.89% - 5.95% ต่อปี •สินเชื่อบ้านมือสองอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา 5.64% - 6.73% ต่อปี โดยอัตราดอกเบี้ย MRR = 7.83%ต่อปี ณ วันที่ 3 ต.ค.66• อัตราดอกเบี้ยลอยตัวสามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ • เงื่อนไขการสมัคร และอนุมัติสินเชื่อเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนด
การซื้อบ้านต้องเตรียมอะไรบ้าง จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เมื่อคุณมีความรู้และการวางแผนที่ดี ตั้งแต่การประเมินความพร้อมทางการเงิน การเลือกทำเลที่ตั้ง ไปจนถึงการเลือกสินเชื่อที่เหมาะสม ทุกขั้นตอนล้วนมีความสำคัญในการทำให้ความฝันของคุณเป็นจริง