ขอพาทุกคนมาเข้าห้องเรียนวิชา ปฐมพยาบาล 101 หลักสูตรเร่งรัด ที่ชวนให้ทุกคนจำให้ขึ้นใจ เพราะ 5 สถานการณ์ที่เรายกตัวอย่างมานี้ มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นกับตัวเราและคนรอบตัวได้ทุกเมื่อ หากเราสามารถช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเบื้องต้นอย่างถูกต้องก่อนส่งตัวไปพบแพทย์ได้อย่างทันท่วงที ก็จะช่วยลดการบาดเจ็บและช่วยชีวิตได้ มาดูกันว่า 5 สถานการณ์สุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสพบได้บ่อยมีอะไรบ้าง
1. ข้อเท้าเคล็ด
วิธีปฐมพยาบาล
- ให้ผู้บาดเจ็บเคลื่อนไหวน้อยที่สุด จัดให้อยู่ในท่าที่สบายและใช้ผ้ายืดพันรอบข้อเท้าให้แน่นพอควร
- ห้ามนวดเด็ดขาด ให้ประคบเย็นด้วยน้ำแข็ง 20- 30 นาที หลังจากนั้น 2-3 วันให้ประคบด้วยน้ำอุ่น
- นําส่งสถานพยาบาลเพื่อตรวจให้แน่ใจว่าเอ็นยึดข้อฉีกขาดอย่างเดียว หรือมีกระดูกหักร่วมด้วย
2. จมน้ำ
วิธีปฐมพยาบาล
- โทรแจ้ง 1669 สายด่วนสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติเพื่อขอความช่วยเหลือ
- รีบนำผู้ที่จมน้ำนอนราบหงายบนพื้นที่มีความแข็ง เช่น บนพื้น บนโต๊ะ แล้วเริ่มต้น กดกึ่งกลางหน้าอก 30 ครั้ง ในอัตราเร็วมากกว่า 100 ครั้งต่อนาที
- เมื่อกดหน้าอกครบแล้วให้สลับมาช่วยหายใจ 2 ครั้ง โดยใช้มือหนึ่งกดหน้าผาก อีกมือหนึ่งยกคาง มือที่กดหน้าผากบีบจมูกผู้จมน้ำ ประกบปาก เป่าลม จนหน้าอกผู้จมน้ำพองขึ้นเล็กน้อย
- ทําการกดหน้าอก 30 ครั้งสลับกับช่วยหายใจ 2 ครั้งไปเรื่อย ๆ จนกว่ารถพยาบาลจะมาถึง หรือหากสามารถนําผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลได้เร็วกว่าก็ให้ทําการช่วยชีวิตตลอดการเดินทาง
3. ไฟฟ้าช๊อต
วิธีปฐมพยาบาล
- ตัดกระแสไฟฟ้าในบริเวณที่เกิดเหตุทันที ห้ามสัมผัสตัวผู้ที่โดนไฟฟ้าดูดด้วยมือเปล่าโดยเด็ดขาด และห้ามเข้าไปช่วยขณะที่ตัวยังเปียกชื้น เพราะอาจเป็นตัวนำกระแสไฟฟ้าและถูกไฟฟ้าดูดได้
- ก่อนสัมผัสตัวผู้บาดเจ็บควรใช้วัสดุที่ไม่เป็นตัวนำไฟฟ้าในการป้องกันตัวเสียก่อน เช่น ถุงมือยาง ผ้าแห้ง พลาสติกแห้ง เป็นต้น
- หากมีเพียงบาดแผลไม่ลึกและไม่มีอาการผิดปกติอื่น สามารถทำแผลด้วยยาฆ่าเชื้อและสังเกตอาการที่บ้านได้ ยกเว้น ผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วยโรคไต โรคหัวใจ ควรนำส่งโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์ประเมินอาการ
- หากบาดแผลมีขนาดใหญ่ ลึก ปวดแผลมาก หรือมีอาการใจสั่น เจ็บหน้าอก เหนื่อย หมดสติ ควรรีบนำส่งโรงพยาบาลโดยด่วน หรือโทรแจ้ง 1669
4. เป็นลมหมดสติ
วิธีปฐมพยาบาล
- จัดท่าให้นอนราบ หัวต่ำไม่หนุนหมอน และใช้หมอนหรือสิ่งอื่นยกขาให้สูงขึ้น กันไม่ให้คนเข้ามามุง และคลายเสื้อผ้าให้หลวม
- ใช้พัดหรือสิ่งอื่นโบกลมให้ผู้ป่วย และให้สูดดมยา เช่น ยาหม่อง พิมเสน แอมโมเนียหอม
- หากอยู่ในที่ที่มีอากาศร้อนใช้ผ้าชุบน้ำเย็นเช็ดหน้า คอ แขนขา และลำตัวของคนไข้ โดยทั่วไปคนที่เป็นลมที่ได้รับการรักษาข้างต้น จะกลับฟื้นคืนสติในเวลาไม่กี่นาที
- เมื่อคนไข้ฟื้นคืนสติแล้ว ควรให้นอนพักหรือนั่งพักอย่างน้อยสัก 1-2 ชั่วโมง เพราะถ้าให้คนไข้ลุกขึ้น หรือกลับไปทำงานทันที จะเกิดอาการหน้ามืดเป็นลมอีกได้
5. งูกัด
วิธีปฐมพยาบาล
- ล้างแผลด้วยน้ำและสบู่ ไม่ควรใช้เหล้า ยาสีฟัน ขี้เถ้าทาแผล หรือสมุนไพรใด ๆ
- บีบเลือดออกจากแผลให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่ควรใช้ปากดูดหรือเปิดปากแผลด้วยของมีคม
- รัดเหนือและใต้บาดแผลประมาณ 3 นิ้วมือ เพื่อให้อวัยวะอยู่นิ่ง ไม่ได้เป็นการห้ามพิษเข้าสู่หัวใจตามที่คนส่วนใหญ่เข้าใจ เพราะฉะนั้นไม่ต้องรัดแน่นมากให้ยังพอสอดนิ้วมือได้ 1 นิ้ว และเคลื่อนไหวร่างกายให้น้อยที่สุด
- รีบนำผู้ป่วยส่งสถานพยาบาลใกล้บ้านให้เร็วที่สุด โดยไม่จำเป็นต้องนำซากงูมาให้แพทย์ตรวจดูว่าเป็นงูประเภทใด
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับ 5 สถานการณ์ที่เราเชื่อว่ามีโอกาสเกิดขึ้นได้เสมอ แม้ว่าเราจะระมัดระวังตัวแล้วก็ตาม แต่หากเรารู้จักวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นก็จะช่วยบรรเทาความเจ็บป่วยและลดการบาดเจ็บลงได้
สร้างเกราะป้องกันอีกขั้นให้กับผู้ที่มีบัญชีทีทีบี ออลล์ฟรี และคงเงินในบัญชีไว้ 5,000 บาทขึ้นไป ทุกวัน (ตั้งแต่วันที่ 1 – สิ้นเดือนตลอดทั้งเดือน) รับความคุ้มครองอุบัติเหตุทันที ฟรี! ค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุ สูงสุด 3,000 บาท /อุบัติเหตุ โดยไม่ต้องสำรองจ่ายก่อน หรือ สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลที่เกิดจากอุบัติเหตุได้ ไม่จำกัดจำนวนครั้ง และให้คุ้มครองชีวิตจากอุบัติเหตุถึง 20 เท่าของเงินฝาก สูงสุด 3 ล้านบาท ซึ่งคุ้มครองจากการเสียชีวิต หรือ ทุพพลภาพถาวร นับเป็นตัวช่วยในการปิดความเสี่ยงที่เราไม่คาดฝันได้อย่างคุ้มค่า