ช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมาค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่สองรายจากญี่ปุ่น ได้จับมือเซ็นสัญญาพัฒนาโครงการร่วมกัน ซึ่งไม่เกิดขึ้นบ่อยครั้งนักในความร่วมมือแบบนี้ แต่ในครั้งนี้มาเซ็นสัญญา MOU เริ่มศึกษาความเป็นไปได้ของความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ในด้านของยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า และการเคลื่อนที่อัจฉริยะ ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในอุตสาหกรรมยานยนต์ และเป็นการส่งสัญญาณอะไรถึง SME ไทยกันบ้าง ครั้งนี้ finbiz by ttb จะมาส่องหาโอกาสและความท้าทายจากสถานการณ์การแข่งขันในตลาดรถยนต์ในปัจจุบันกัน
การเซ็นสัญญาที่สะท้อนให้เห็นถึงการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า
การเซ็นสัญญาครั้งนี้ของค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่น สะท้อนความดุเดือดในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งมีตัวเลขทางสถิติรองรับอย่างในไทยก็มีรายงานสถิติการขนส่งประจำ ปี 2566 กรมการขนส่งทางบก การจดทะเบียนใหม่ของรถพลังงานไฟฟ้าล้วน (BEV) ทั่วประเทศตั้งแต่เดือน ม.ค. – ธ.ค. 2023 มีรถยนต์ไฟฟ้าที่จดทะเบียนตามกฎหมายใหม่ว่าด้วยรถยนต์ ทั้งสิ้น 76,316 คัน คิดเป็น 76.19% จากประเภทรถทั้งหมด ซึ่งถ้ารวมประเภทยานยนต์ไฟฟ้าที่จดทะเบียนใหม่ทั้งหมดในปี 2023 จะมีจำนวน 100,219 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2022 ถึง 381.43% และมีจากการตัวเลขของการ์ทเนอร์ ปริมาณการยอดจัดส่งรถไฟฟ้าทั่วโลกปี 2023 มีจำนวน 15 ล้านคันซึ่งเติบโตจากปี 2022 ที่มียอดจัดส่ง 11 ล้านคัน
ทั้งนี้ยานยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่ผลิตในประเทศจีนเป็นสัดส่วนตลาดถึง 60% เป็นที่มาให้ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นยักษ์ใหญ่ต้องเร่งพัฒนานวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อให้ยังคงสามารถครองใจตลาดเอาไว้ได้
แรงกระเพื่อมนี้ ส่งผบต่อ SME ไทย ทั้งโอกาสและความท้าทาย
จากการเคลื่อนไหวในครั้งนี้ชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงไปของตลาดยานยนต์ นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่กำลังก้าวหน้าและเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งการเติบโตอย่างรวดเร็วของนวัตกรรมยานยนต์ EV อาจนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงของวงการยานยนต์อย่างถาวร ดังนั้นแล้ว SME ไทยที่อยู่ในกลุ่มธุรกิจนี้ หรือธุรกิจที่จะเข้ามาเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ในวงการนี้ได้ จะต้องจับตาการเปลี่ยนแปลงอย่างใกล้ชิด รวมถึงมองหาช่องทางโอกาสและความท้าทายต่าง ๆ
โอกาส
- โอกาสทางธุรกิจใหม่ SME ไทยในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ทางทางไฟฟ้า แบตเตอรี่ หรือ ซอฟท์แวร์ สามารถเข้าร่วมเป็นซัพพลายเออร์ชิ้นส่วน ให้บริการซ่อมบำรุงรักษา หรือพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า
- โอกาสเข้าถึงเทคโนโลยี เมื่อเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า และเทคโนโลยีไร้คนขับใหม่ ๆ ขยายตัวขึ้น เป็นโอกาสที่จะทำให้ต้นทุนในการเข้าถึงเทคโนโลยีต่ำลง และแผ่ขยายองค์ความรู้ได้กว้างขึ้น เป็นโอกาสที่ SME จะสามารถนำเทคโนโลยีมาต่อยอดได้
- โอกาสขยายตลาด ความร่วมมือกันของค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นยักษ์ใหญ่ครั้งนี้อาจมีแนวโน้มช่วยให้ SME ไทยขยายตลาดไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ความท้าทาย
- การแข่งขัน การร่วมมือของบริษัทขนาดใหญ่ อาจส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงมาตรฐานการผลิต มาตรฐานสินค้าและกระบวนการต่าง ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อซัพพลายเออร์ รวมถึง SME ที่เกี่ยวข้องได้
- การเข้าถึงเงินทุน SME อาจต้องมีการลงทุน เพื่อเทคโนโลยี หรือเพื่อการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ จึงเป็นความท้าทายในการเข้าถึงเงินทุนเพื่อลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ ๆ หรือขยายธุรกิจ
ทิศทางในการพัฒนาสำหรับ SME ไทย
- ติดตามข่าวสาร ผู้ประกอบการ SME ไทยควรติดตามข่าวสารเกี่ยวกับความร่วมมือบริษัทต่าง ๆ ในวงการยานยนต์ ซึ่งอาจมีเพิ่มขึ้นมาอีก เพื่อหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ และเพื่อให้สามารถปรับตัวตามมาตรฐานใหม่ ๆ ได้ทัน
- พัฒนาทักษะ การพัฒนาทักษะของบุคลากรเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด เช่น ทักษะด้านเทคโนโลยี ทักษะด้านการออกแบบ และทักษะด้านภาษา
- สร้างเครือข่าย เสริมความแข็งแกร่งให้ SME ด้วยการสร้างเครือข่ายกับบริษัทขนาดใหญ่ สถาบันวิจัย และหน่วยงานภาครัฐ เพื่อหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ และรับการสนับสนุน
ธุรกิจต้องมีแหล่งเงินทุนที่เข้าใจ
บ่อยครั้งที่การพัฒนาจะต้องอาศัยการลงทุน หาก SME มีแหล่งเงินทุนที่เข้าใจความต้องการ และลักษณะการใช้เงินลงทุนของ SME ก็จะช่วยให้การพัฒนาธุรกิจเป็นไปได้อย่างราบรื่น อย่างเช่นสินเชื่อสำหรับเอสเอ็มอี หรือเพื่อให้สอดคล้องกับการพัฒนาองค์กรที่ยั่งยืน ผู้ประกอบการยังสามารถพัฒนาธุรกิจให้มีนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป เพื่อใช้นการผลิตไฟฟ้า การเปลี่ยนยานยนต์ในองค์กรเป็นยานยนต์พลังงานไฟฟ้า เป็นต้น เพื่อให้มีโอกาสเข้าถึงสินเชื่อเพื่อสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ซึ่งจะสร้างความได้เปรียบทั้งในแง่ของการลงทุน การดึงดูดนักลงทุน และคู่ค้า ซึ่งสินเชื่อเพื่อสิ่งแวดล้อมก็ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด
ความร่วมมือของค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ครั้งนี้ทำให้เห็นถึงแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในอุตสาหกรรมยานยนต์ SME ไทยจำเป็นต้องเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลง และหาโอกาสจากความร่วมมือครั้งนี้ เพื่อพัฒนาธุรกิจและเติบโตอย่างยั่งยืน
ที่มา :
- ธนาคารทหารไทยธนชาต
- กรมการขนส่งทางบก
- Honda Motor Co., Ltd. (Honda)
- Nissan Motor Co., Ltd. (Nissan)
finbiz by ttb
โครงการเสริมความรู้สู่การเป็น Smart SME ผ่านหลากหลายแพลตฟอร์ม
พร้อมองค์ความรู้ ที่ครบครัน จาก Partner ชั้นนำทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน
เพื่อให้ธุรกิจสามารถก้าวผ่านความท้าทายของโลกปัจจุบัน
ปรับตัวตอบโจทย์ยุคดิจิทัล พร้อมมุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
อัปเดตทุกดิจิทัลเทรนด์ และความรู้ดี ๆ ที่ SME ไม่ควรพลาด
เพียงแอดไลน์ @ttbSME