นโยบาย 30@30 เป็นที่พูดถึงมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2021 จนมาถึงปัจจุบันที่นวัตกรรมและเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า (EV) ในไทยแพร่หลายมากขึ้น และ EV ทั่วโลกกำลังตื่นตัวและก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงเราเริ่มเห็นทิศทางของ EV ในไทยได้อย่างชัดเจนขึ้น ครั้งนี้ finbiz by ttb จะขอขยายความแนวทาง 30@30 เพื่อหาโอกาสสำหรับ SME ไปพร้อมกัน
30@30 คืออะไร
แนวทางส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) 30@30 เป็นนโยบายของคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ ที่มีมุ่งเป้าหมายที่จะผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ (ZEV) ให้ได้ 30% ของการผลิตรถยนต์ทั้งหมดในประเทศไทย ภายในปี 2030
โดยมีเป้าหมายการผลิต และส่งเสริมการใช้งาน ในปี 2030 ดังนี้
นโยบายส่งเสริม
- ส่งเสริมอุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วน ให้ไทยเป็นฐานการผลิตที่สำคัญ
- ส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ทั้งมาตรการทางภาษีและที่ไม่ใช่ภาษี
- พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับยานยนต์ไฟฟ้า เช่น สถานีอัดประจุและสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ พัฒนากฎหมายและระเบียบต่าง ๆ ให้เหมาะกับการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้า
EV ก้าวหน้าไว จุดหมายไม่ไกลเกินเอื้อม
จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ตั้งแต่ปี 2021 ปัจจุบันข้อมูลการลงทุนล่าสุดเมื่อปลายปี 2023 จากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ได้ให้การส่งเสริมอุตสาหกรรมอีวี จำนวน 103 โครงการ เงินลงทุนรวม 77,192 ล้านบาท
- รถยนต์อีวี 18 โครงการ 40,004 ล้านบาท
- รถจักรยานยนต์อีวี 9 โครงการ 848 ล้านบาท
- รถบัสอีวีและรถบรรทุกอีวี 3 โครงการ 2,200 ล้านบาท
- แบตเตอรี่สำหรับรถอีวีและระบบกักเก็บพลังงาน (ESS) 39 โครงการ 23,904 ล้านบาท
- ชิ้นส่วนสำคัญ 20 โครงการ 6,031 ล้านบาท
- สถานีอัดประจุไฟฟ้า 14 โครงการ 4,205 ล้านบาท
และจากนโยบายด้านภาษีในการสนับสนุนรถขนาดใหญ่ ได้แก่ รถโดยสารไฟฟ้า (E-Bus) และรถบรรทุกไฟฟ้า (E-Truck) บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสามารถหักค่าใช้จ่ายในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับการซื้อรถโดยสารไฟฟ้าและรถบรรทุกไฟฟ้าโดยมาตรการนี้จะมีผลตั้งแต่พระราชกฤษฎีกาที่กระทรวงการคลังจะออกมาประกาศใช้ไป จนถึงสิ้นปี 2025 ทำให้คาดว่าจะมีรถทั้งสองประเภทที่เป็นรถEV ในโครงการนี้แบ่งเป็นรถบัสประมาณ 6,000 คัน และรถบรรทุกประมาณ 4,000 คัน และยังมีนโยบายสนับสนุนการลงทุนในโรงงานแบตเตอรี่ที่บีโอไอและคณะกรรมการนโยบายเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศฯ พิจารณาตามเงื่อนไขอยู่อีกด้วย จากปัจจัยทั้งหมดแสดงให้เห็นว่าเป้าหมาย 30@30 นั้นไม่ไกลเกินเอื้อม โดยได้รับการสนับสนุนร่วมมือจากทุกภาคส่วน
SME เตรียมตัวขานรับแนวทาง 30@30
จากการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า เป็นทั้งโอกาสและความท้าทายสำหรับ SME โดยจะสร้างโอกาสเข้าร่วมในห่วงโซ่อุปทานของ EV แต่อาจต้องปรับตัว เปลี่ยนแปลงธุรกิจเดิมเพื่อรองรับเทคโนโลยีใหม่ สิ่งที่ SME จึงควรทำได้แก่
- ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับแนวทาง 30@30 เพื่อหาช่องทางโอกาสและพิจารณาจุดแข็งของธุรกิจ เพื่อปรับธุรกิจให้เตรียมตอบสนอง และมีความพร้อมอยู่เสมอ
- ประเมินศักยภาพของธุรกิจ เมื่อพบช่องทางแล้วจึงประเมินศักยภาพ เพื่อให้ธุรกิจสามารถเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางได้
- พัฒนากลยุทธ์ พัฒนากลยุทธ์เพื่อเข้าร่วมในห่วงโซ่อุปทานของ EV กำหนดเป้าหมาย แนวทาง และวิธีการดำเนินการ
- เตรียมตัวตอบรับการสนับสนุน หาข้อมูลและขอการสนับสนุนหรือพัฒนาร่วมกันกับพันธมิตรทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน หาแหล่งเงินทุนและสถาบันทางการเงินที่จะช่วยหนุนให้การพัฒนาธุรกิจเป็นไปอย่างราบรื่น
SME มีแหล่งเงินทุน...ก้าวทันโอกาส
จากการเติบโตอย่างรวดเร็วของตลาด EV และการสนับสนุนการใช้งานรถ EV จากภาครัฐ ผู้ประกอบการสามารถเห็นความได้เปรียบจากการที่องค์กรเปลี่ยนยานยนต์ในองค์กรมาเป็น EV ซึ่งในการเปลี่ยนแปลงไม่ว่าจะเป็นซื้อรถเพิ่ม หรือเปลี่ยนรถใหม่ก็ตาม SME ย่อมไม่ต้องการใช้เงินสดในธุรกิจมาลงทุน ซึ่งปัจจุบันก็มีโซลูชันทางการเงินมารองรับ อย่างสินเชื่อรถยนต์เพื่อธุรกิจ ทีทีบี เอสเอ็มอี ที่อนุมัติเร็วภายใน 3 วัน สมัครครั้งเดียว สามารถทยอยออกรถภายใต้วงเงินที่ได้รับภายในระยะเวลาสูงสุด 12 เดือน โดยไม่ต้องมีหลักประกันเพิ่ม อัตราดอกเบี้ยพิเศษและคงที่ตลอดอายุสัญญา และยังมีผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่น่าสนใจในด้านการบริหารจัดการการเงินสำหรับยานยนต์ในธุรกิจใน ttb automotive solutions ที่พร้อมให้ผู้ประกอบการ SME ใช้บริการ
หรือ หากผู้ประกอบการมองเห็นช่องทางในการขยายธุรกิจต่อยอดเพื่อตอบรับการเติบโตของ EV ทีทีบีก็มีสินเชื่อที่สามารถมาตอบสนองแผนต่อยอดของธุรกิจ SME ได้ อย่าง สินเชื่อธุรกิจ ทีทีบี เอสเอ็มอี สมาร์ทบิส (ttb sme smart biz) สินเชื่อธุรกิจสำหรับเอสเอ็มอี แบบใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน สามารถใช้รีไฟแนนซ์สินเชื่อธุรกิจ SME ได้ ให้เอสเอ็มอีได้จัดสรรเพื่อใช้ในการบริหารงาน เสริมสภาพคล่อง หรือลงทุนต่อยอดธุรกิจ ให้วงเงินสูงสุด 50 ล้านบาท ประกอบไปด้วยสินเชื่อหมุนเวียนและสินเชื่อระยะยาวในสัดส่วนที่เหมาะสมและเพียงพอกับความต้องการทางธุรกิจแต่ละประเภท สามารถตรวจสอบวงเงิน OD ได้ตลอด 24 ชม. เหมาะกับ SME ที่จะพัฒนาต่อยอด สนใจผลิตภัณฑ์สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่บริหารความสัมพันธ์ลูกค้าธุรกิจ หรือ ศูนย์บริการลูกค้าธุรกิจ ทีเอ็มบีธนชาต โทร. 0 2643 7000
ที่มา :
- สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน
- คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ)
- ธนาคารทหารไทยธนชาต
finbiz by ttb
โครงการเสริมความรู้สู่การเป็น Smart SME ผ่านหลากหลายแพลตฟอร์ม
พร้อมองค์ความรู้ ที่ครบครัน จาก Partner ชั้นนำทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน
เพื่อให้ธุรกิจสามารถก้าวผ่านความท้าทายของโลกปัจจุบัน
ปรับตัวตอบโจทย์ยุคดิจิทัล พร้อมมุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
อัปเดตทุกดิจิทัลเทรนด์ และความรู้ดี ๆ ที่ SME ไม่ควรพลาด
เพียงแอดไลน์ @ttbSME