องค์กรมักจะเติบโตทีละนิดด้วยอัตราที่คงที่ แต่เทคโนโลยีจะเติบโตแบบทวีคูณ ทำให้นักการตลาดยุคปัจจุบัน ไม่เพียงแต่ต้องวางกลยุทธ์ หรือคิดแคมเปญการตลาด แต่ต้องเรียนรู้ และเข้าใจเทคโนโลยีไปพร้อม ๆ กัน นั่นจึงทำให้การนำเทคโนโลยีมาใช้กับการตลาดมีบทบาทมากขึ้น finbiz by ttb ขอพาทุกท่านมารู้จักกับคุณบอล จิตติพงศ์ เลิศประดิษฐ์ ผู้เชี่ยวชาญด้าน Marketing Technology หรือ MarTech และเป็นผู้ฝากผลงานด้านงานเขียนเกี่ยวกับ Marketing Technology อีกหลายบทความในไทย ที่จะมาเล่าถึงความสำคัญที่ธุรกิจต้องหันมาสนใจ Martech ให้มากขึ้นและแนะนำเครื่องมือ MarTech ที่จะสามารถช่วยองค์กรให้สามารถแข่งขันในตลาดยุคดิจิทัลได้มากขึ้น
คุณบอลให้เหตุผลที่ทุกคนควรให้ความสำคัญกับ Martech เพราะในยุคของโลกดิจิทัลที่ทุกอย่างวิ่งเข้ามาและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ไม่เพียงแค่กระแส แต่รวมถึงโอกาสที่อาจทำให้หลุดมือไปได้ ไม่ว่าจะเป็น โอกาสในการเพิ่มยอดขาย การจัดการลดต้นทุนทางธุรกิจ การตรวจวัดธุรกิจ ฯลฯ หากธุรกิจใดสามารถจับความเคลื่อนไหวเหล่านี้ในตลาดยุคดิจิทัลได้ จะสามารถสร้างโอกาส และสร้างความได้เปรียบเป็นอย่างมาก รวมถึงการเข้าถึงเทคโนโลยีทางการตลาดในปัจจุบันนี้ ไม่ได้ต้องใช้การลงทุนมหาศาลแบบยุคก่อน ๆ หรือแบบที่หลาย ๆ คนคาดคิด
Marketing Technology คืออะไร ?
Marketing Technology หรือ MarTech คือ กลุ่มซอฟต์แวร์โซลูชัน เครื่องมือการตลาด เทคโนโลยีดิจิทัลทางการตลาด ที่ใช้งานโดยนักการตลาดเพื่อสนับสนุนภารกิจสำคัญตามจุดประสงค์ของธุรกิจ และขับเคลื่อนการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ในองค์กร ซึ่ง MarTech Solution ส่วนมากจะให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการคอนเทนต์ การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า การจัดการโฆษณาต่างๆ การทำการตลาดกับกลุ่มเป้าหมายโดยตรง การจัดการแคมเปญทางการตลาด และการนำข้อมูลทางการตลาดมาวิเคราะห์
โอกาสจากการใช้ “เทคโนโลยี” ที่ต้นทุนไม่ต้องสูงก็ทำได้
โอกาสทำธุรกิจในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เครื่องมือ Marketing Technology หรือ MarTech มีเพิ่มขึ้นมากกว่า 10,000 ตัว คนส่วนใหญ่ติดภาพว่า การทำกลยุทธ์ทางการตลาดโดยใช้เทคโนโลยีนั้นเหมาะสมกับธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีเงินทุนสูงเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วในตอนนี้ไม่ว่าทุนเท่าไรก็ทำได้ และบางเครื่องมือนั้นมีให้ใช้ฟรี ๆ ได้เลย
ซึ่งเครื่องมือเหล่านี้จะช่วยทำธุรกิจแบบอัตโนมัติ และสามารถต่อยอดและใช้ได้จริงในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็น การขาย การดูแลลูกค้า ไปจนถึงการบริหารองค์กร ซึ่งในปี 2023 นี้มีเครื่องมือที่น่าสนใจสำหรับ SME ที่ได้ใช้แน่นอนดังนี้
1. “Mandala” เครื่องมือค้นหาว่าลูกค้าพูดถึงแบรนด์เรายังไงบ้าง เพื่อพัฒนาให้ตอบโจทย์
จากการศึกษาของ Nielsen พบว่า 86% ของผู้บริโภคมักเชื่อคำรีวิวจากลูกค้าด้วยดันเองมากกว่า นอกจากตัวข้อมูลสินค้าแล้ว ความรู้สึกจากผู้ใช้จริงจึงเป็นหนึ่งในปัจจัยในการตัดสินใจซื้อสินค้า ดังนั้นเครื่องมือที่จะสามารถตรวจจับและฟังเสียงของลูกค้าได้ คือ Mandala เครื่องมือที่รวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ความรู้สึกของกลุ่มเป้าหมายที่มีต่อแบรนด์ โดยการฟังเสียงสะท้อนจากผู้บริโภคสามารถช่วยให้ธุรกิจวางแผนจัดการเส้นทางของตัวเองได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็น
- การออกแบบแคมเปญโฆษณา
- ออกแบบสินค้าใหม่ที่ตรงใจผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น
- วางแผนรับมือถึงปัญหาที่ลูกค้าพบเจอในสินค้าหรือบริการ
- สร้างกลยุทธ์ที่ดึงลูกค้าเก่ากลับมาซื้อซ้ำ ทำให้เกิด Brand Royalty
เพราะการฟังเสียงของลูกค้าคือโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์และต่อยอดธุรกิจให้ก้าวเข้าไปอยู่ในใจของลูกค้า เป็นแบรนด์แรกที่พวกเขานึกถึง
2.จัดการโฆษณาทั้งหมดในที่เดียวด้วย เครื่องมือที่ชื่อว่า “AdRoll”
โฆษณาเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค โดยเฉพาะในยุคของธุรกิจดิจิทัล ที่ผู้ประกอบการจำเป็นต้องมีเครื่องมือ ในการบริหารการจัดการมีเดียและบริหารแคมเปญทางการตลาดออนไลน์ ซึ่งเครื่องมือ AdRoll ที่มีระบบจัดการ Facebook Ads รวมไปถึงในแพลตฟอร์มอื่น ไม่ว่าจะเป็น Email, Instagram, Shopify, etc.
จุดเด่นคือ
- ประหยัดต้นทุนด้วยการยิงไปหากลุ่มเป้าหมายได้โดยตรง ไม่ต้องยิงแอดแบบหว่านแห
- ประหยัดเวลาในการจัดการโฆษณาทั้ง Social และ Display ได้ในที่เดียว
3. “SEO Meta in 1 Click” สร้างประสบการณ์ร่วม ด้วยคอนเทนต์การสื่อสารที่ใช่
จากการสำรวจของ Brightedge Reserch พบว่า 68% ของประสบการณ์ออนไลน์เริ่มต้นด้วยเครื่องมือค้นหา Content จึงเป็นสิ่งที่จะสามารถดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภคได้ เครื่องมือ SEO Meta in 1 Click จึงเป็นเหมือน Gateway ในการเชื่อมต่อไปสู่เครื่องมือ SEO ตัวอื่น ๆ เพื่อ
- หา Keyword ที่จะได้รับ Search Volume สูงที่สุด เพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นมาเป็นไอเดียในการเขียน Content ทั้งในการแชร์ต่อและสะท้อนตัวตนของแบรนด์ให้กับลูกค้า ผ่านวิธีการเลือกใช้คำหรือมุมมองในการเล่าใหม่ ๆ ที่ทำให้ผู้บริโภครู้สึกร่วมไปด้วย
4. Chat Bot tool คือสิ่งที่ขาดไม่ได้ เพื่อการดูแลลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง
จากการวิจัยใหม่ของ Mobile Ecosystem Forum (MEF) และ Mblox พบว่า 65% ของผู้บริโภคมักจะคุยธุรกิจผ่าน Chat Application หลายธุรกิจจึงเลือกใช้ Chat Bot ในการตอบกลับข้อความของผู้บริโภค เพื่อการให้บริการที่รวดเร็วเพื่อสร้างความประทับใจให้กับผู้บริโภค โดยมีเครื่องมือ “ManyChat” เป็นเครื่องมือหลักในการสนับสนุนการทำงาน ทั้งประหยัดเวลาและลดต้นทุน
ซึ่งมีจุดเด่นคือ
- ช่วยในกระบวนการขาย แนะนำสินค้าที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละกลุ่ม วิเคราะห์และเลือกสินค้าที่เกี่ยวข้องกับสินค้าที่ลูกค้าเคยซื้อชิ้นแรก
- ช่วยในกระบวนการหลังการขาย ไม่ว่าจะเป็นการแนะนำทางออกของปัญหาที่ลูกค้าเจอ หรือการส่งปัญหาไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
- ลดการใช้ทรัพยากรมนุษย์ เป็นด่านหน้าในการรับมือกับลูกค้า ถ้าไม่สามารถแก้ไขได้ จึงค่อยส่งต่อให้มนุษย์ประสานงานต่อ
5.”Google Analytics” ตรวจวัดหาความต้องการให้ครบ
สิ่งที่ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จในตลาดแข่งขันได้ นอกจากการพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพ การเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญ เครื่องมือ Google Analytics (GA) เครื่องมือฟรีจาก Google จึงเป็นหนึ่งในทางเลือกของธุรกิจออนไลน์ในปัจจุบัน ซึ่งจุดเด่นของ Google Analytics คือ
- วิเคราะห์ ติดตาม และรายงานพฤติกรรมการเข้าถึงเว็บไซต์ของผู้บริโภค เพื่อนำข้อมูลเหล่านี้ไปวางแผนสำหรับ Next Step ของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบ Product ใหม่ หรือการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค
- เห็นข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ ทำให้สามารถเห็น Insight ของ Customer journey ได้ เพื่อสามารถนำข้อมูลไปต่อยอดเชิงกลยุทธ์ได้ทันทีไม่ว่าผู้บริโภคจะมีความต้องการเปลี่ยนแปลงไปมากขนาดไหน เครื่องมือนี้ก็สามารถตอบโจทย์ความต้องการนั้นได้
ทั้งหมดนี้เป็นเครื่องมือตัวช่วยทางธุรกิจ ในยุคที่เทคโนโลยีถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง การใช้กลยุทธ์ทางการตลาดแบบเดิมอาจได้ผลช้า หรือไม่ได้ผลอีกต่อไป ผู้ประกอบการจึงจำเป็นต้องปรับตัวและเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้กับธุรกิจให้เกิดประโยชน์สูงสุดในยุคของดิจิทัล เพราะทุกอย่างมักเกิดขึ้นไวมาก หากช้าไปเพียงแค่ก้าวเดียวก็ไม่อาจตอบผู้บริโภคทันได้แล้ว เครื่องมือ MarTech จึงเข้ามามีบทบาทในการส่งเสริมธุรกิจมากขึ้น ไม่เพียงแค่สร้างความแข็งแรง แต่เป็นแรงขับเคลื่อนที่ทำให้องค์กรและผู้บริโภคก้าวไปข้างหน้าได้อย่างพร้อมเพรียงกัน
ที่มา :
finbiz by ttb โครงการเสริมความรู้ธุรกิจ
“ครบ จบในที่เดียว ปรับใช้ได้ง่าย ต่อยอดได้จริง สู่การเป็น Smart SME”
ผ่านหลากหลายแพลตฟอร์ม พร้อมองค์ความรู้ที่ครบครัน จาก Partner ชั้นนำทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน เพื่อให้ธุรกิจรับมือกับความเปลี่ยนแปลง พร้อมปรับตัวในยุคดิจิทัลและเติบโตอย่างยั่งยืน
อัปเดตทุกดิจิทัลเทรนด์ และความรู้ดี ๆ ที่ SME ไม่ควรพลาด
เพียงแอดไลน์ @ttbSME หรือคลิกเพิ่มเพื่อน