สำหรับผู้ประกอบการที่กำลังเริ่มธุรกิจ หรือได้สืบต่อธุรกิจมาจากครอบครัวและกำลังมองหาเส้นทางที่จะก้าวข้ามขีดจำกัดไปสู่ธุรกิจที่เติบโต finbiz by ttb มีเคล็ด(ไม่)ลับที่ได้มาจากเนื้อหามาจากตอนหนึ่งของงานสัมมนา ttb Sustainable Success Together “ต่อยอด เติบโต ยั่งยืน” ที่ได้รับเกียรติจาก รศ. ดร. เอกชัย อภิศักดิ์กุล คณบดีคณะวิทยพัฒน์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย, กรรมการ บมจ. ไทยเพรซิเด้นท์ฟูดส์ และผู้ร่วมก่อตั้ง บจก. แฟมซ์ และ คุณกนกพร จูฑา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวหน้าบริหารผลิตภัณฑ์ธุรกิจ ทีทีบี มาร่วมแบ่งปันกัน
ธุรกิจในไทย 85% เป็นธุรกิจครอบครัว และ 70% อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ และหากเทียบกันแล้วธุรกิจครอบครัวก็มีอายุที่ยืนยาวกว่าธุรกิจที่ไม่ใช่ธุรกิจครอบครัว โดยธุรกิจครอบครัวจะมีอายุเฉลี่ยที่ 21 ปี ส่วนธุรกิจที่ไม่ใช่ธุรกิจครอบครัวมีอายุประมาณ 12 ปี โดยมีแนวทางที่จะช่วยให้ธุรกิจเติบโต ดังนี้
ก้าวให้ทัน...ธุรกิจไม่ตกเทรนด์
การที่ธุรกิจจะไปได้ไกล ต้องเป็นธุรกิจที่ปรับตัวได้ไว และ มองเห็นโอกาสสำหรับอนาคต การเกาะติดเทรนด์และพฤติกรรมผู้บริโภคเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก กระแสตอนนี้ที่ทำธุรกิจจำเป็นจะต้องปรับตัวตาม จะมีทั้งในระดับมหภาคและในระดับบุคคล ซึ่งมีหลายกระแส ซึ่งจะยกมาเฉพาะเทรนด์ที่สำคัญอย่างยิ่งและธุรกิจต้องจับตามอง ได้แก่
- สังคมผู้สูงอายุ ไทยเป็นประเทศสังคมสูงอายุ ตั้งแต่ปี 2021 โดยมีประชากรสูงอายุในระดับ 60 ปีขึ้นไปเป็น 1 ใน 5 ของประชากรทั้งหมด และหากอัตราการเกิดยังคงไม่เพิ่มขึ้นในอีก 2 ปีข้างหน้าจะเริ่มเข้าสู่ Super Silver Age ที่มีประชากร 1 ใน 5 อายุ 65 ปีขึ้นไป ดังนั้น ธุรกิจที่เริ่มปรับสินค้าและบริการให้เหมาะสมกับวัยของประชากรสูงอายุก็จะสร้างโอกาสใหม่ ๆ ได้
- การแทรกแซงของสินค้าต่างประเทศ ด้วยการผลิตของสินค้าต่างประเทศที่มีกำลังผลิตและต้นทุนต่ำ ที่กำลังทะลักเข้าไทยอย่างหนัก ซึ่งจะกระทบกับภาคผลิตของไทย และในปัจจุบันก็เริ่มกระทบในด้านของภาคบริการด้วย รวมไปถึงการจ้างงานในโรงงานหรือการจ้างงานในบริการต่าง ๆ ผู้ประกอบการที่มีแนวทางในการรับมือปรับตัวได้ไวก็จะได้เปรียบ
- การเข้ามาของ ESG ซึ่งไม่เพียงกระทบในแง่ของสิ่งแวดล้อม เพราะรวมไปถึงสังคม และการทำงานที่โปร่งใสด้วย อีกทั้งยังมีกฎหมายและมาตรการต่าง ๆ ธุรกิจที่เริ่มทำ ESG และผ่านเกณฑ์ของมาตรการต่าง ๆ ก็จะสามารถยืนหยัดอยู่ได้ในอนาคต
- นวัตกรรมและเทคโนโลยี AI ที่ปัจจุบันพัฒนาไปอย่างมาก และฉลาดมากกว่ารุ่นก่อน ๆ หากธุรกิจสามารถใช้ความสามารถของ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพจะสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจได้อย่างคาดไม่ถึง
- พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป การจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคที่อยู่บนโลกออนไลน์มากขึ้น และยังมีการใช้ช่องทางอย่างผสมผสานทั้งออนไลน์และการจับจ่ายที่หน้าร้าน ดังนั้นธุรกิจจึงต้องอยู่ทุกที่ที่ผู้บริโภคเข้าถึงได้ รวมถึงต้องมีระบบที่รองรับ สามารถวิเคราะห์ได้ จะสร้างโอกาสให้ธุรกิจอย่างมาก
- การพัฒนาของเครื่องมือทางการเงิน จากเทรนด์ของเทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้บริโภคส่งให้การบริหารจัดการการเงินของผู้คนในยุคนี้มีใช้บริการทางการเงินดิจิทัลอย่างแพร่หลาย และไว้ใจในระบบอย่างมากดังนั้นธุรกิจที่ใช้เครื่องมือทางการเงินที่ดี ไว้ใจได้ วิเคราะห์ได้ จะเป็นผลดีและสร้างความได้เปรียบรวมถึงโอกาสใหม่ ๆ ให้กับธุรกิจ ซึ่งปัจจุบันประชากรไทย 80% สามารถใช้จ่ายโดยไม่ถือเงินสดได้นานถึง 9 วัน เป็นข้อพิสูจน์ว่าระบบการเงินดิจิทัลมีความสำคัญมากเพียงใดสำหรับธุรกิจ

เสวนาก้าวข้ามขีดจำกัด...สู่การเป็นธุรกิจที่เติบโตอย่างมืออาชีพ ในงานสัมมนา ttb Sustainable Success Together “ต่อยอด เติบโต ยั่งยืน” โดย รศ. ดร. เอกชัย อภิศักดิ์กุล คณบดีคณะวิทยพัฒน์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย, กรรมการ บมจ. ไทยเพรซิเด้นท์ฟูดส์ และผู้ร่วมก่อตั้ง บจก. แฟมซ์ และ คุณกนกพร จูฑา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวหน้าบริหารผลิตภัณฑ์ธุรกิจ ทีทีบี
ธุรกิจครอบครัว บริหารจัดการดี ยิ่งไปได้ไกล
โดยการบริหารธุรกิจครอบครัวที่ดีตามที่ รศ. ดร. เอกชัยแนะนำ จะมีอยู่ 3 ส่วน นั่นคือการจัดการสมดุลของ 3 สิ่ง 1) การควบคุมธุรกิจต่างๆ ของตนเอง (Control) – การเติบโตของธุรกิจ (Growth) – สภาพคล่อง (Liquidity) 2) การมีธรรมนูญครอบครัว และ 3) ความสัมพันธ์ของบุคลากรในกลุ่มธุรกิจครอบครัว โดยมีเนื้อหาดังนี้
การจัดการสมดุลของ Control - Growth – Liquidity
- การควบคุมธุรกิจต่างๆ ของตนเอง คนที่เป็นเจ้าของจะอดไม่ได้ที่อยากจะควบคุมธุรกิจของตนเอง แล้วธุรกิจยิ่งใหญ่ ยิ่งควบคุมยาก แต่การควบคุมกิจการไม่ให้ออกนอกลู่นอกทางนั้นจะต้องมีการออกแบบโครงสร้างธุรกิจใหม่ ในลักษณะของกลุ่มบริษัท โดยมีศูนย์กลาง หรือเป็นบริษัทโฮลดิ้ง เมื่อธุรกิจครอบครัวมีโครงสร้างที่ดี ครอบครัวก็ส่งคณะกรรมการมาบริหารบริษัทโฮลดิ้ง ซึ่งเป็นบริษัทแม่และสามารถบอกทิศทาง นโยบายที่ครอบครัวต้องการผ่านทางบริษัทโฮลดิ้ง
- การเติบโตของธุรกิจ การคาดหวังด้านการเติบโตของธุรกิจ โดยธุรกิจจะเติบโตได้นั้นก็ต้องสอดคล้องกับโลกธุรกิจ และใช้จุดแข็งของครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นความเชี่ยวชาญ ชื่อเสียง เครดิตของเจ้าของ ฯลฯ เพื่อสร้างการเติบโต อย่างไรก็ตาม ตามหลักวิชาการ ธุรกิจครอบครัวมีการส่งต่อความเชี่ยวชาญจากรุ่นสู่รุ่นอยู่แล้ว ดังนั้น จึงทำให้สามารถสร้างคุณค่าใหม่ๆ ได้ ที่สำคัญ ด้วยความเชี่ยวชาญดังกล่าวก็ทำให้มีต้นทุนต่ำกว่า ความเสียหายก็น้อยกว่า ใช้เวลาน้อยกว่า ทำให้ได้เปรียบธุรกิจทั่วไป อีกทั้งสามารถสร้างนวัตกรรมต่อจากความเชี่ยวชาญที่มีได้ง่ายกว่า
ทั้งนี้ ธุรกิจครอบครัวต่างจากธุรกิจทั่วไปตรงที่มีความต้องการของครอบครัวเพิ่มเติมเข้ามาด้วย ถ้าครอบครัวมีแรงส่งที่ดีก็จะทำให้ธุรกิจปรับตัวได้เร็ว ธุรกิจครอบครัวจึงต้องมีความชัดเจนและคุยกันให้เกิดแรงส่งให้ธุรกิจปรับตัวได้เร็ว ดังนั้น ความเติบโตของธุรกิจครอบครัวจึงอิงกับวิสัยทัศน์ของเจ้าของธุรกิจจริง ๆ
- สภาพคล่อง ถือเป็นความต้องการพื้นฐานของเจ้าของธุรกิจครอบครัว และเมื่อมองถึงความเป็นเจ้าของร่วมกัน บางคนก็มีสภาพคล่อง ขณะที่บางคนอาจไม่มี ดังนั้น ไม่ว่าธุรกิจขนาดใดก็ตามสมาชิกครอบครัวต่างก็ต้องการความคล่องตัวจึงอดไม่ได้ที่สภาพคล่องจะมีประเด็นว่า “ภายใต้สภาพธุรกิจที่ดี ทำอย่างไรทุกคนจึงจะมีความเป็นอยู่ที่ดี” และมี “สภาพคล่องตามมาตรฐานที่ควรจะเป็น” ทั้งนี้ วิธีการสร้างสภาพคล่องสามารถทำได้ ด้วยการดึงสิ่งที่เจ้าของธุรกิจควรจะได้ออกมาตัวธุรกิจมาที่ตัวบุคคลหรือครอบครัวก่อน นอกจากนี้ ประเด็นเรื่องสภาพคล่องก็ยังเชื่อมโยงไปถึงประเด็นว่า เหตุใดผู้นำธุรกิจครอบครัวบางท่านยังไม่ยอมวางมือ นั่นเพราะการจัดการความมั่งคั่ง (Wealth) ยังไม่ดีพอ จึงต้องกลับไปดึงสิ่งที่เจ้าของธุรกิจควรจะได้ออกจากตัวธุรกิจมาที่ตัวบุคคลหรือครอบครัวก่อนเพื่อให้ประสบความสำเร็จในการบริหารความมั่งคั่ง
ธรรมนูญครอบครัว โดย ธรรมนูญครอบครัวหมายถึงข้อตกลงกันระหว่างพี่น้อง พ่อแม่และเครือญาติ ที่ทำธุรกิจครอบครัวจะต้องยึดถือ เป็นแก่นหลักสำคัญ ทั้งการบริหารธุรกิจ และ หลักการใช้ชีวิต โดยไม่มีการละเมิดธรรมนูญนี้ถือเป็นสำคัญ
ความสัมพันธ์ของบุคลากรในกลุ่มธุรกิจครอบครัว ซึ่งประกอบด้วยวงกลม 3 วงทับซ้อนกัน คือวงของคนในครอบครัว วงของคนในธุรกิจ และวงของผู้ถือหุ้น ในธุรกิจครอบครัวจะมีความสัมพันธ์ของคนใน 3 วงกลมอยู่ จึงจะต้องดูแลความสัมพันธ์นี้ให้ราบรื่น
ดังนั้นหากธุรกิจ เข้าใจ และปรับตัวกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ และจัดการกับธุรกิจในครอบครัวได้ดี จะนำไปสู่ความเติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ การปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีก็เป็นสิ่งสำคัญ จากที่กล่าวไว้ข้างต้น ปัจจุบันธุรกรรมทางการเงินบนระบบดิจิทัลมีบทบาทอย่างมาก ผู้ประกอบการจึงควรให้ความสนใจในแง่มุมต่าง ๆ ทั้งการซื้อขายรับจ่าย และการบริหารจัดการข้อมูล โดย ทีทีบี ก็มีผลิตภัณฑ์รองรับ ไม่ว่าจะเป็น ttb smartshop แอปพลิเคชันที่ช่วยจัดการหน้าร้าน ซื้อขายรับจ่าย หรือ ttb business one ระบบธนาคารดิจิทัล ที่รองรับทุกแพลตฟอร์ม ทั้งมือถือสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และเครื่องคอมพิวเตอร์ อีกทั้งการบริหารการเงินและบุคคลกรอย่าง ttb payroll plus ก็เป็นอีกตัวช่วยสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจสามารถปรับตัวได้ในสถานการณ์ปัจจุบันและนำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
ที่มา :
- เสวนาก้าวข้ามขีดจำกัด...สู่การเป็นธุรกิจที่เติบโตอย่างมืออาชีพ ในงานสัมมนา ttb Sustainable Success Together “ต่อยอด เติบโต ยั่งยืน”
finbiz by ttb
โครงการเสริมความรู้สู่การเป็น Smart SME ผ่านหลากหลายแพลตฟอร์ม
พร้อมองค์ความรู้ ที่ครบครัน จาก Partner ชั้นนำทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน
เพื่อให้ธุรกิจสามารถก้าวผ่านความท้าทายของโลกปัจจุบัน
ปรับตัวตอบโจทย์ยุคดิจิทัล พร้อมมุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
อัปเดตทุกดิจิทัลเทรนด์ และความรู้ดี ๆ ที่ SME ไม่ควรพลาด
เพียงแอดไลน์ @ttbSME