ในปี 2025 นี้การทำการตลาดบนโซเชียลมีเดียไม่เพียงแค่ต้องติดตามเทรนด์ใหม่ ๆ แต่ยังต้องรู้จักปรับตัวให้เข้ากับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นี่คือ 9 เทรนด์และกลยุทธ์ที่ธุรกิจควรรู้เพื่อเพิ่มการมองเห็นและสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่ finbiz by ttb ได้เก็บข้อมูลมาจากงาน ttb SME Visionary Night จุดประกายไอเดีย ปรับกลยุทธ์ธุรกิจ เพื่อการเติบโตยั่งยืน ที่มี คุณโซอี้ ภญ.โสภา พิมพ์สิริพานิชย์ มาอัปเดตเทรนด์การสร้างตัวตนบนโซเชียลมีเดีย ปี 2025 เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ประกอบการไปพิจารณากัน
1. Video Form
จากสถิติในระดับโลกล่าสุดที่ผู้คนใช้เวลารวมบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ 5 อันดับสูงสุด ได้แก่ Youtube Facebook Whatapp Tiktok และ IG ส่วนเวลาเฉลี่ย 3 อันดับแรกได้แก่ แชมป์เป็นของ Tiktok ต่อด้วย Youtube Facebook จะพบว่าวิดีโอยังคงเป็นรูปแบบคอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด ผู้ใช้โซเชียลมีเดียมักจะชื่นชอบเนื้อหาที่เป็นวิดีโอเพราะสามารถสื่อสารได้ครบถ้วนในระยะเวลาสั้น ๆ การเล่าเรื่องด้วยภาพและเสียงช่วยให้ผู้ติดตามเข้าใจและจดจำแบรนด์ได้ดีขึ้น การสร้างวิดีโอคุณภาพไม่เพียงแต่จะดึงดูดความสนใจ แต่ยังเพิ่มความเชื่อมั่นในตัวแบรนด์อีกด้วย
2. Live Commerce
Live Commerce หรือการขายสินค้าผ่านการไลฟ์สดเป็นหนึ่งในวิธีที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ธุรกิจสามารถสร้างประสบการณ์ตรงให้กับลูกค้าแบบเรียลไทม์ การที่ลูกค้าได้เห็นสินค้าและซักถามเกี่ยวกับรายละเอียดได้ทันทีช่วยให้เกิดความเชื่อมั่นและเพิ่มโอกาสในการขายได้ดีกว่าเนื้อหาแบบดั้งเดิม งานวิจัยแมคคินซีย์ชี้ว่า 53% ของผู้ชมที่ดูไลฟ์แล้วจะสั่งซื้อ ซึ่งมีผลวิจัยติดต่อกันมา 2 ปีซ้อน ส่วนในจีนการไลฟ์อย่างดุเดือดทั้งวันทั้งคืนของธุรกิจต่าง ๆ ก็เป็นที่นิยม และสามารถกระตุ้นยอดขายผลิตภัณฑ์ประเภทวอเชอร์ได้อย่างมาก ซึ่งคาดการณ์ว่าในไทยไม่เกิน 2 ปี การไลฟ์จะเป็นที่นิยมและมีการแข่งขันกันอย่างเข้มข้น
3. Content Creators
การร่วมมือกับ Content Creators ยังคงเป็นกลยุทธ์สำคัญในปี 2025 เนื่องจากพวกเขามีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการซื้อของผู้ติดตาม การเลือกครีเอเตอร์ที่มีความเชี่ยวชาญในกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์จะช่วยให้การสื่อสารคอนเทนต์มีความน่าเชื่อถือและมีผลต่อการตัดสินใจของลูกค้ามากยิ่งขึ้น โดยมีหลักยึดให้คิดว่า คอนเทนต์เป็นเสมือนซุปไก่ ที่ประกอบด้วยเนื้อหาและบริบท สร้างคอนเทนต์ให้ได้อย่างมีอิมแพค โดยรสชาติของคอนเทนต์ต้องดีทั้งน้ำทั้งเนื้อ คอนเทนต์จึงจะกลมกล่อมสร้างอิมแพคได้ โดยบริบทที่เป็นดั่งซุปไก่นั้นหมายถึง งานภาพ งานแสงสีเสียง หรือสถานที่ที่ถ่ายคอนเทนต์นั่นเอง
4. คาถา นะหน้าทอง การสร้างเนื้อหาให้คนรักเรา หลงเรา เชื่อเรา
หนึ่งในความสำเร็จของการทำคอนเทนต์ คือการสร้างเนื้อหาที่ผู้ชมต้องการดู พูดสิ่งเค้าอยากฟัง ทำสิ่งที่เค้าอยากเห็น เขียนสิ่งที่เขาอยากอ่าน ในเวลาที่เขาต้องการ คอนเทนต์ที่สามารถสร้างความประทับใจได้จะทำให้ผู้ติดตามรักและเชื่อในแบรนด์ของเรา
5. Short-form Videos
วิดีโอสั้นกลายเป็นรูปแบบหลักในหลายแพลตฟอร์ม เพราะความสั้นและกระชับของเนื้อหาเป็นที่ดึงดูดความสนใจอย่างรวดเร็ว การสื่อสารผ่านวิดีโอที่มีระยะเวลาไม่เกิน 60 วินาที เพราะในหลายแพลตฟอร์ม หากคลิปที่ไม่เกิน 60 วินาที จะเป็นคลิปที่ได้รับการ Suggest เพราะคลิปสั้นที่ดีจะทำให้ผู้ชมสามารถรับสารได้อย่างตรงจุดและชัดเจน เน้นที่การนำเสนอไอเดียหลักในช่วงเวลาสั้น ๆ สามารถกระตุ้นการมีส่วนร่วมได้
6. Ad Libraries
การใช้ Ad Libraries เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่สำคัญในการเรียนรู้กลยุทธ์การโฆษณา โดยผู้ประกอบการสามารถจัดกลุ่มของโฆษณาไว้เป็นชุด ๆ ต่าง ๆ กันและยิงโฆษณาไปหาเป้าหมายในแต่ละกลุ่ม จะทำให้ทราบว่ากลุ่มเป้าหมายแบบใดสนใจโฆษณารูปแบบใด ซึ่งจะสามารถทำให้ปรับใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสมกับแบรนด์และกลุ่มเป้าหมายได้ ทำให้เข้าใจการวางแผนโฆษณาและการกำหนดเป้าหมายจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าใหม่ ๆ
7. Google Keywords
กลยุทธ์การตั้งคีย์เวิร์ดบน Google แบ่งออกเป็นสองแนวทาง ต้องทราบ Position ของสินค้าและบริการของตนเองว่าเหมาะกับกลยุทธ์แบบ รับ หรือ รุก หรืออาจใช้ทั้งรับ และ รุก ในบางธุรกิจ สำหรับแนวทางรับ ธุรกิจสามารถใช้ Google Trends เพื่อค้นหาคีย์เวิร์ดที่ผู้บริโภคค้นหามากที่สุด จากนั้นนำคีย์เวิร์ดเหล่านี้มาใช้ในการปรับเนื้อหาเว็บไซต์เพื่อให้เกิดการค้นหาแบบออร์แกนิก ซึ่งแนวทางนี้จะใช้กับสินค้าและบริการที่ผู้บริโภคจะมีความต้องการอยู่บ้างแล้ว และกำลังค้นหาอยู่ ในทางกลับกัน แนวทางรุก ใช้กับสินค้าที่ต้องการกระตุ้นความต้องการในตลาด เช่น การใช้คีย์เวิร์ดที่ตรงกับสินค้าหรือบริการที่ผู้บริโภคยังไม่รู้ว่าตนเองต้องการ ยกตัวอย่างเช่น ผ้าพันคอ ที่ลูกค้าเองจะไม่ได้มีความต้องการ แต่จะต้องนำเสนอให้กลุ่มลูกค้าเห็นว่าหากมีผ้าพันคอแล้วจะสามารถใช้ได้อย่างไร นำเสนอคุณประโยชน์ของสินค้า ให้ลูกค้ามีความต้องการขึ้นมา ส่วนสำหรับบางธุรกิจ ผู้ประกอบสามารถพิจารณาทั้ง 2 แนวทางมาใช้ร่วมกัน
8. TikTok for Business
TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่ธุรกิจไม่ควรมองข้าม ด้วยการเติบโตอย่างรวดเร็วและความนิยมของคอนเทนต์วิดีโอสั้น ๆ การใช้ TikTok สำหรับธุรกิจเป็นเครื่องมือที่มีศักยภาพในการดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย การสร้างเนื้อหาที่สนุกสนานและสร้างสรรค์จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับแบรนด์ ปัจจุบัน Tiktok จะถูกพูดถึงว่าเป็นแพลตฟอร์ตของวีดีโอสั้น แต่ Tiktok เองกำลังจะขยายกลุ่มเป้าหมายไปหาผู้ที่ชอบบริโภคคอนเทนต์ยาว ๆ เช่นเดียวกัน ซึ่ง Tiktok ในปัจจุบันนับว่าเป็นแพลตฟอร์ที่ได้รับเอนเกจ หรือการเข้าถึงสูงที่สุดอีกด้วย
9. Algorithm TikTok: โพสต์อย่างไรให้ติดไวรัล
การเข้าใจ อัลกอริทึมของ TikTok เป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มการมองเห็น โพสต์วันละ 4 คลิปเพื่อทดสอบรูปแบบคอนเทนต์ต่าง ๆ จะช่วยให้ธุรกิจมีข้อมูลในการปรับปรุงคอนเทนต์ให้มีประสิทธิภาพขึ้น ในช่วงแรกที่ธุรกิจได้ใช้แพลตฟอร์ม Tiktok ให้ผลิตคอนเทนต์แบบเน้นปริมาณไว้ก่อน เพื่อทดสอบความชื่นชอบของผู้ชมจากคลิปหลาย ๆ แบบ การใช้เพลงฮิตหรือการตอบคอมเมนต์ของผู้ติดตามอย่างสม่ำเสมอจะเพิ่มโอกาสในการสร้างกระแสไวรัล และให้ลงมือทำอย่างสม่ำเสมอ “100 คนรู้ 10 คนทำ 1 คนสำเร็จ”
สร้างแบรนด์ให้ติด วิเคราะห์ลูกค้าแม่นยำ เพิ่มยอดขายปังปัง
จากผลวิจัยลูกค้าถึง 53% มีโอกาสจะสั่งซื้อ ก็เป็นข้อพิสูจน์แล้วว่าไม่ว่าอย่างไร ธุรกิจก็ควรจะต้องรีบสร้างตัวตนบนโลกดิจิทัล ให้ลูกค้าเป้าหมายได้รู้จัก ยิ่งสามารถวิเคราะห์ลูกค้าได้ดียิ่งได้เปรียบ ดังนั้น การจัดการร้านค้าก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญ หากร้านค้าสามารถเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าได้ ก็จะเป็นอีกกำลังหนึ่งที่ช่วยให้สามารถยิงโฆษณาต่าง ๆ ตรงไปยังกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น ซึ่งเครื่องมือต่าง ๆ ในการวิเคราะห์ลูกค้านอกจากการวิเคราะห์บนสื่อโซเชียลมีเดียแล้วยังสามารถวิเคราะห์จากพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าได้อีกด้วย โดยเครื่องมือเหล่านี้ปัจจุบันก็เข้าถึงได้ไม่ยาก อย่างทีทีบี ก็มี ttb smart shop ที่มาพร้อมกับ “ปังปัง” มังกรผู้ช่วยแสนฉลาด ที่จะมาช่วยพาธุรกิจให้ประสบความสำเร็จอย่างปังปัง ด้วยความสามารถทั้งในด้านการรับชำระเงินผ่าน QR Code ระบุจำนวน และความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า การจัดการสาขาและติดตามสถานะทางการเงินได้อย่างเรียล-ไทม์ ทั้งหมดมาเป็นฟีเจอร์ที่มากับ ttb smart shop ที่เข้าถึงได้ง่าย ไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม รับไว รู้ลึก ธุรกิจปังปัง
การเตรียมตัวและปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับเทรนด์ใหม่ ๆ ของโซเชียลมีเดียในปี 2025 และการมีเครื่องมือต่าง ๆ ที่มาช่วยจะสร้างให้แบรนด์สามารถเติบโตและก้าวทันการแข่งขันในยุคดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน
ที่มา :
- ภญ.โสภา พิมพ์สิริพานิชย์ (โซอี้) จากงาน ttb SME Visionary Night จุดประกายไอเดีย ปรับกลยุทธ์ธุรกิจ เพื่อการเติบโตยั่งยืน
finbiz by ttb
โครงการเสริมความรู้สู่การเป็น Smart SME ผ่านหลากหลายแพลตฟอร์ม
พร้อมองค์ความรู้ ที่ครบครัน จาก Partner ชั้นนำทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน
เพื่อให้ธุรกิจสามารถก้าวผ่านความท้าทายของโลกปัจจุบัน
ปรับตัวตอบโจทย์ยุคดิจิทัล พร้อมมุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
อัปเดตทุกดิจิทัลเทรนด์ และความรู้ดี ๆ ที่ SME ไม่ควรพลาด
เพียงแอดไลน์ @ttbSME