วิธีควบคุมค่าใช้จ่ายน้ำมันสำหรับ SME สบาย ง่ายกว่าที่คิด

ในการดำเนินธุรกิจ SME เรื่องค่าใช้จ่ายหากควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพก็จะส่งผลกับธุรกิจอย่างมาก และอีกหนึ่งค่าใช้จ่ายที่สำคัญสำหรับธุรกิจ ยิ่งเป็นธุรกิจโลจิสติกส์ หรือธุรกิจที่ต้องใช้รถในการขนส่งเป็นจำนวนมาก ก็จะเห็นได้ชัดมากขึ้นว่าค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับรถขนส่งเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงมาก โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายด้านน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีความผันผวนอยู่ตลอดเวลา ซึ่งหากธุรกิจควบคุมค่าใช้จ่ายด้านนี้ได้มีประสิทธิภาพก็จะส่งผลดีเช่นกัน

ข้อมูลจาก ttb analytics ทำให้ทราบว่าธุรกิจโลจิสติกส์ในประเทศไทย โดยส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการ SME รายย่อยกว่า 90% ในจำนวนนี้ อีกกว่า 80% เป็นผู้ให้บริการขนส่งทางบก ที่มีต้นทุนหลักคือค่าน้ำมันในการเดินทาง หากควบคุมค่าใช้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก และจะเป็นการดีไม่น้อยหากเจ้าของธุรกิจสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายเหล่านี้ ด้วยระบบออนไลน์ที่ทันสมัย ซึ่งจะทำให้สามารถวางแผนค่าใช้จ่ายน้ำมันไว้ได้ล่วงหน้า และสามารถคำนวณเส้นทางที่เหมาะสมได้อีกด้วย

ธุรกิจจัดการอย่างไรกันบ้างกับค่าใช้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง

1. การใช้เงินสด หรือเงินโอน ฝากไว้กับพนักงานขับรถ วิธีนี้เป็นวิธีสุดคลาสสิค ที่พนักงานจะต้องถือเงินสด หรือมีเงินอยู่ในบัญชี เพื่อไปจ่ายค่าน้ำมันยังสถานีบริการน้ำมันได้ อาจเป็นการฝากเงินไว้ที่พนักงานขับรถก่อน และไปจ่ายเองที่หน้าปั๊ม หรือนำใบเสร็จมาจ่ายตามจริง ซึ่งวิธีนี้ก็ดีที่ง่าย ไม่ยุ่งยากในการเบิก แต่ก็ไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่สำหรับพนักงานที่จะต้องถือเงินสดจำนวนมาก หรือยังอาจมีข้อกังขาอีกว่า เบิกตามจริงนั้น ใช่ตามจริง จริง ๆ หรือเปล่า และยังเรื่องของคุณภาพน้ำมันที่เป็นไปได้ว่าพนักงานขับรถอาจเติมในสถานีบริการน้ำมันที่ไม่ได้มาตรฐานอีกด้วย และต้องมาทำงานหลังบ้านเกี่ยวกับเอกสารการทำรายงานต่าง ๆ


2. การตั้งถังเก็บน้ำมันขนาดใหญ่ในจุดต่าง ๆ เพื่อให้รถขนส่งของบริษัทไปเติมน้ำมันตามจุดนั้น ๆ มีข้อดีที่หากปริมาณน้ำมันมากพอ ก็จะสามารถต่อรองกับผู้ให้บริการน้ำมัน เพื่อให้ได้น้ำมันในราคาพิเศษได้ แต่ข้อเสียก็มีอยู่เช่นกัน เช่น มีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาถังเก็บน้ำมันให้ได้มาตรฐาน มีใช้จ่ายสำหรับพนักงานเฝ้าถังน้ำมัน และบางครั้งยังเป็นข้อจำกัดในการขยายเส้นทางอีกด้วย ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะไม่เป็นปัญหาหากเราเป็นบริษัทโลจิสติกส์ขนาดใหญ่ที่มีเครือข่ายมากพอและมีต้นทุนส่วนหนึ่งสำหรับจัดการในด้านนี้


3. ทำเครดิตกับสถานีบริการน้ำมันที่ไว้ใจได้ เป็นอีกวิธีหนึ่งที่บริษัทขนส่งใช้กันไม่น้อย โดยอาศัยความคุ้นเคยที่ทำธุรกิจกันมานานกับสถานีบริการน้ำมันที่ไว้ใจได้ มีทั้งรูปแบบจ่ายก่อนเติมทีหลัง หรือเติมก่อนจ่ายทีหลังก็แล้วแต่ตกลง ซึ่งวิธีนี้ก็ถือว่าใช้ได้ในระดับหนึ่งตรงที่ได้น้ำมันที่เลือกแน่นอน การชำระค่าน้ำมันเชื้อเพลิงก็ตามตกตง อาจจะได้ระยะเวลาเครดิตที่น่าพอใจได้ แต่ก็ยังเป็นข้อจำกัดในการขยายเส้นทางอีกเช่นกัน ยิ่งหากเป็นรถขนส่งที่ไม่ได้มีเส้นทางประจำ หรือรถของพนักงานขายแล้ว หมดสิทธิ์จะใช้วิธีนี้ได้เลย

จากทั้ง 3 วิธีด้านบน ก็จะมีข้อดีข้อเสียต่างกัน ซึ่งข้อเสียหลัก ๆ คือ เรื่องของการควบคุมค่าใช้จ่ายให้เป็นไปตามจริง คุณภาพน้ำมันและเรื่องของข้อจำกัดในการขยายเส้นทาง ซึ่งสำหรับธุรกิจเอสเอ็มอีแล้ว การใช้บริการสถานีบริการน้ำมันที่คุณภาพไว้ใจได้ มีเครือข่ายครอบคลุมทั่วประเทศ น่าจะเป็นอะไรที่ลงตัวกว่า หากแต่ต้องหาตัวช่วยที่จะสามารถควบคุมปริมาณน้ำมันที่รถขนส่งแต่ละคันใช้งานได้ และจะมีประสิทธิภาพอย่างมากหากสามารถติดตามผ่านระบบออนไลน์ได้อีกด้วย และเมื่อเราสามารถติดตามการใช้งานน้ำมันได้จะทำให้เห็นปริมาณการใช้งานรวมซึ่งหากมากพออาจสร้างโอกาสในการเจรจากับบริษัทผู้ให้บริการน้ำมันเพื่อให้ได้น้ำมันในราคาที่ต่ำลงเช่นกัน เหนือไปกว่านั้น หากค่าน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้เรียกเก็บภายหลังตามการใช้งานจริง โดยไม่ต้องสำรองจ่าย หรือฝากเงินสดไว้กับพนักงานขับรถที่เสี่ยงกับการถูกโจรกรรม หรืออาจนำไปสู่การทุจริตได้

finbiz by ttb จึงขอนำเสนอ ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ บัตรเครดิตน้ำมัน ทีทีบี (ttb fleet card)

ที่ตอบโจทย์ทั้งหมดที่ได้กล่าวมาในขั้นต้น ที่มีจุดเด่นหลักสำคัญดังนี้

• ควบคุมค่าใช้จ่ายได้เพราะการกำหนดวงเงิน ระบุประเภทน้ำมัน และสถานีบริการที่ต้องการให้ใช้บริการได้
• ปลอดภัย ไม่ต้องพกเงินสด สามารถออกบัตรแบบมี PIN (optional) ในการใช้งานและมีรายงานตรวจสอบได้ทุกการใช้จ่าย
• สะดวก มีพันธมิตรสถานีบริการน้ำมันคุณภาพ ที่ครอบคลุมทั่วประเทศ
• ฟรี ค่าธรรมเนียมแรกเข้าและค่าธรรมเนียมรายปีในปีแรก
• สามารถใช้บัตรเติมน้ำมันได้ทันที โดยไม่ต้องให้ผู้มีอำนาจลงนามอนุมัติในใบสั่งจ่ายน้ำมัน
• มีการบันทึกข้อมูลของการใช้บัตรเครดิตน้ำมันของรถแต่ละคันอย่างถูกต้องแม่นยำ ซึ่งเก็บรวบรวมข้อมูลการเติมน้ำมันแต่ละครั้ง เช่น วัน เวลา ชื่อสถานีบริการน้ำมัน ปริมาณที่เติม (ลิตร) จำนวนเงิน (บาท) ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เลขกิโลเมตร และสามารถแสดงอัตราการสิ้นเปลืองของปริมาณน้ำมันต่อกิโลเมตร โดยเรียกดูผ่านระบบ Web Fleet Service ได้อย่างง่ายดาย
• สามารถดาวน์โหลดใบแจ้งยอดค่าใช้จ่ายบัตรเครดิตน้ำมันได้ทางระบบ Web Fleet Service ทันทีหลังจากสรุปยอดใช้จ่าย
• สามารถเช็คยอดใช้งานคงเหลือผ่านโทรศัพท์มือถือแบบเรียลไทม์ได้ง่าย ๆ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

สนใจการใช้ระบบ บัตรเครดิตน้ำมัน ทีทีบี (ttb fleet card) สามารถดูรายละเอียดที่เว็บไซต์เพิ่มเติมคลิกที่นี่

finbiz by ttb โครงการเสริมความรู้ธุรกิจ

ผ่านหลากหลายแพลตฟอร์ม พร้อมองค์ความรู้ครบครัน จากพันธมิตรชั้นนำทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน เพื่อให้ธุรกิจรับมือกับความเปลี่ยนแปลง พร้อมปรับตัวในยุคดิจิทัลและเติบโตอย่างยั่งยืน

“ครบ จบในที่เดียว ปรับใช้ได้ง่าย ต่อยอดได้จริง”

อัปเดตทุกดิจิทัลเทรนด์ และความรู้ดี ๆ ที่ SME ไม่ควรพลาด
เพียงแอดไลน์ @ttbSME หรือคลิกเพิ่มเพื่อน