external-popup-close

คุณกำลังออกจากเว็บไซต์ ทีทีบี
เพื่อเข้าสู่

https://www.ttbbank.com/

ตกลง

จับตาสถานการณ์ค่าเงินบาทในช่วงครึ่งปีหลัง

10 ก.ค. 2562

เงินร้อนหนุนบาทแข็งทุบสถิติ 30.57 ในรอบ 6 ปี

ค่าเงินบาทที่แข็งค่าต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปีและกลายเป็นประเด็นร้อนเมื่อแตะ 30.57 บาทในต้นเดือนกรกฎาคมหรือแข็งค่าขึ้น 6% จากต้นปีที่อยู่ 32.35 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งจริงๆแล้วเงินบาทค่อยๆลดลงมาในช่วงที่ความตึงเครียดสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนปะทุขึ้นอีกครั้ง จนกระทั่งหลุดระดับ 31 บาทต่อดอลลาร์ ในเดือนมิถุนยาน ทำให้นักลงทุนหันมาถือสินทรัพย์เสี่ยงน้อย ซึ่งเงินบาทเป็นสกุลเงินที่อยู่ในข่ายเสี่ยงน้อยด้วยพื้นฐานฐานะการเงินระหว่างประเทศค่อนข้างแข็งแกร่ง สะท้อนจากดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลต่อเนื่อง ทุนสำรองอยู่ในระดับสูง และเงินบาทมีค่าความผันผวนน้อยกว่าเงินสกุลตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) อื่นๆ กอรปกับการที่ MSCI Emerging Markets Index ปรับเพิ่มน้ำหนักลงทุนหุ้นไทยจาก 2.4% เป็น 2.9% ทำให้ไม่น่าแปลกที่เห็นเงินร้อนไหลเข้ามาทั้งในตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้สถานการณ์การเมืองหลังมีรัฐบาลที่มาจากเลือกตั้งมีส่วนช่วยสร้างความมั่นใจให้นักลงทุน ดูดฟันด์โฟลว์ไหลกลับเข้ามา

คาดครึ่งปีหลังเงินบาทไม่แข็งค่าไปมากกว่านี้

สำหรับครึ่งปีหลัง เมื่อมองหลายปัจจัยที่หนุนให้เงินบาทอยู่ในทิศทางแข็งค่าพบว่ายังมีแรงหนุนอยู่ต่อเนื่อง ประการแรกแนวโน้มเงินทุนไหลเข้ายังคงมีต่อเนื่องจากแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายในเศรษฐกิจหลัก อย่างไรก็ดี แรงกดดันค่าเงินดอลลาร์ให้อ่อนค่าอย่างต่อเนื่องเริ่มลดลงจากท่าทีการเจรจาสงครามการค้าที่มีแนวโน้มผ่อนคลายมากขึ้นแม้ธนาคารกลางสหรัฐมีแนวโน้มปรับลด Fed funds rate 1-2 ครั้งในปีนี้ก็ตาม ทำให้นักลงทุนลดความกังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจหลัก รวมถึงเศรษฐกิจโลก และในอีกด้านยังมีปัจจัยหน่วงเงินทุนไหลเข้าเมื่อพิจารณาปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจ ทั้งอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่แท้จริงของไทยเรียกได้ว่าอยู่ในระดับที่แทบจะต่ำสุดในอาเซียนและในภูมิภาคแล้ว กอปรกับดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยมีสัญญาณเกินดุลลดลงจากภาคส่งออกที่อ่อนแอต่อเนื่องโดยมูลค่าส่งออกทั้งปี 2562 TMB Analytics มองว่าแทบไม่ขยายตัว และภาคการท่องเที่ยวที่คาดเติบโตไม่หวือหวาสาเหตุเพราะนักท่องเที่ยวจีนลดลง ทั้งนี้ ด้วยปัจจัยหลักที่หนุนค่าเงินบาทให้แข็งค่ามีดีกรีที่อ่อนลง ทำให้ประเมินว่าค่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ที่ 30.5-31.0 บาทต่อดอลลาร์ในช่วงที่เหลือของปี?